แม่สีดา-ต่าย ขอเวลาทำใจ เชื่อวิญญาณ อ๊อฟ ยังอยู่

หลังจากที่ "ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์" หรือ "ริว จิตสัมผัส" ทักว่าวิญญาณ "อ๊อฟ - อภิชาติ พัวพิมล" ยังคงวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน แม้ร่างกายจะจากไปเป็น 10 ปี เหตุเพราะยังผูกติดคำสัญญากับ "ต่าย - สายธาร นิยมการณ์" อดีตแฟนสาว ที่เคยเอ่ยวาจาว่า จะเป็นคู่กันทุกภพทุกชาติไป  และยังมีห่วงมารดาของตน "สีดา พัวพิมล" งานนี้แม่สีดาและต่ายได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดย ต่าย กล่าวถึงพิธีตัดคำสัญญาว่ายังไม่มีการตกลงกัน "คืออย่างนี้เพิ่งได้คุยกับทางทีมงาน จริงๆ แล้วยังไม่มีการตกลงกันเลยว่าจะทำพิธี ไม่อยากให้มองเป็นประเด็นเยอะแยะมากมาย มันเป็นเรื่องของความรู้สึก มันไม่ควรเอาความรู้สึกเรามาล้อเล่น เพราะฉะนั้นต่ายก็อยากบอกกับทุกคนว่าต่ายไม่โกหกความรู้สึกของตัวเอง แล้วก็ไม่อยากโกหกทุกคนด้วย ถึงตอนนี้อยากจะให้เวลามันเป็นเครื่องช่วยดีกว่า ยิ่งต่ายเจอสื่อมาถามอย่างนี้มันก็ยิ่งคิด จะให้เรามานั่งบอกว่ามันไม่คิด มันก็โกหก ต่ายไม่ชอบ ไม่โกหกขอชัดเจนในความรู้สึกของตัวเอง แล้วก็คุยกับแม่แล้วว่ามันก็ยังลืมไม่ได้" ในเรื่องคำมั่นสัญญา ต่าย เผยว่า "ในช่วงที่คบกันอยู่ ทั้ง 2 คน ทั้งต่ายและอ๊อฟคือเราแค่พูด เราไม่คิดว่ามันจะมีผลขนาดนี้ พูดว่าทุกภพทุกชาติไปเราจะเป็นคู่กัน มันไม่ได้ว่าต่ายพูดฝ่ายเดียว ต่ายอยากให้คนมองในอีกมุมหนึ่งทุกวันนี้สิ่งที่พูดออกไปมันไม่ได้ทำร้ายใครเลย อีกอย่างคือสิ่งที่น้องริว (ริว จิตสัมผัส) ต่ายรับฟังค่ะ แล้วก็ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขายังรับรู้และยังอยู่ตรงนี้ จริงๆ เราอาจจะสัมผัสอะไรได้ไม่มาก เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เรารู้สึก เราคิดไปเองหรือเปล่า แต่จริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างสรุปแล้วมันเป็นความสุขใจ มันไม่ได้เดือดร้อนใคร อีกอย่างคือมันทำให้ต่ายมีพลัง มีกำลังในการทำงาน ทุกครั้งเวลาท้อรู้สึกว่ามีเขาอยู่ข้างๆ เราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำลงไปมันเป็นการฉุดรั้งเขา แต่ว่าถ้าสิ่งไหนที่สามารถทำให้เขาไปสู่อะไรที่ดีเราก็ยินดี แต่ถามว่าลึกๆ แล้วลืมไหม ก็ต้องตอบตรงๆ ว่าไม่ลืมค่ะ"

ต่าย แจงว่าทำตามคำแนะนำที่ให้ทำพิธีได้ แต่เรื่องจิตใจต้องขอเวลา "ต่ายทำตามคำแนะนำได้ค่ะ แต่เรื่องของจิตใจมันบังคับกันไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต่ายทำให้แต่ขอเวลาต่ายหน่อยได้ไหม ซึ่งคำว่าขอเวลา ลองใจเขาใจเรา ลองเป็นต่ายบ้างเนอะ ต่ายไม่รู้ว่า 10 ปี 20 ปี จะลืมไหม" ถามว่ายังรู้สึกว่าเขาอยู่กับเราตลอดไหม ต่ายตอบว่า "ก็รู้สึกอยู่ตลอด" ส่วนแม่สีดาเผยว่า "ใช่ ตรงนี้ใครไม่เป็นเราก็คงไม่ทราบ ด้วยความรู้สึกด้วยการสัมผัส นี่ในกรณีของความเป็นแม่กับลูกซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเนี่ยเรามีความรู้สึกว่าเขายังอยู่กับเรา แล้ววันนั้นที่น้องริวเขาได้บอกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเขายังอยู่ มันก็เลยทำให้เรามีความรู้สึกเชื่อมั่นว่าเขายังไม่ไปไหน ยังดูแลเราอยู่"

แม่สีดา เปิดใจถึงเรื่องที่หลายๆ คนคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ อาจเป็นการผูกมัดไม่ให้เขาไปสู่สุคติ "การผูกมัดเขาหรือเปล่าเราพูดจริงๆ ว่าเราไม่รู้หรอกว่าสิ่งเหล่านี้มันคือการผูกมัด แต่ก็มีหลายคนบอกว่าทำไมชอบไปเรียกลูก ทำไมไม่ปล่อยให้เขาไป ซึ่งมันก็เป็นเหมือนกับว่าความเคยชิน เวลาเราอยู่บ้านคนเดียว เราก็ไม่รู้จะพูดกับใคร เราก็อ๊อฟเป็นยังไงบ้างลูกดูแลแม่ดาด้วยนะ คือเราก็พูดของเราไปให้อุ่นใจ" หลังจากนี้จะทำอย่างไรกันบ้าง แม่สีดากล่าวว่า "ไม่รู้ เราก็ใส่บาตร ทำให้เขาได้อย่างนี้" ต่ายกล่าวเสริมว่า "วันนั้นริวแนะนำค่ะ ว่าให้จุดธูปแล้วให้ต่ายพูดกับแม่ ก็คือบอกริวไปค่ะว่าจะพูด แต่มันยังไม่ถึงเวลาขอเวลานิดหนึ่ง เพราะว่าเรื่องอย่างนี้อันนี้ต่ายหมายถึงตัวเองนะ ต่ายไม่อยากกดดันตัวเองด้วย แล้วก็ไม่อยากทำอะไรเพื่อถูกใจคนอื่น หรือคนที่เสพข่าวเพราะฉะนั้นใช้คำว่าใจเขาใจเราดีกว่า การที่ไม่ได้สูญเสียคนก็จะไม่รู้ว่าการสูญเสียมันเป็นเรื่องที่มันหนักมาก อีกอย่างความรู้สึกของใครสักคนเราเอามาล้อเล่นไม่ได้ เราไม่รู้หรอกว่าลึกๆ เขายังไง"

ต่าย ยอมรับว่าทุกวันนี้มองว่าอ๊อฟคือกำลังใจ ไม่ว่าจะอยู่หรือไป "จริงค่ะ ใช่ ถ้ามองแบบนี้ทุกอย่างต่ายว่ามันก็แฮปปี้นะ ต้องบอกว่าในประเด็นเรื่องอ๊อฟมันคือกำลังใจล้วนๆ ค่ะ มันไม่ได้เป็นเรื่องของความทุกข์เลย คือจริงๆ แล้ว ชีวิตถ้าเราคิดบวกมันก็บวก ถ้าเราคิดลบพลังมันก็ลบ ทุกวันเรามองเรื่องนี้มันทำให้เรามีพลังมากขึ้นและมันทำให้เรายิ้ม แม่เองพูดถึงลูกแม่ก็มีความสุข ไม่ใช่ว่าแม่นึกถึงอ๊อฟแล้วแม่มาร้องไห้ฟูมฟาย ต่ายเองนึกถึงอ๊อฟนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่อยู่ด้วยกัน" เชื่อว่าอ๊อฟเองก็มีความสุขใช่ไหม ต่ายกล่าวว่า "เขาก็คงนั่งอยู่แถวนี้" แม่สีดากล่าวต่อ "จริงๆ เพราะว่าวันนี้ก็บอกกับเขาว่า อ๊อฟไปกับแม่ดาก็ได้นะวันนี้ เดี๋ยวแม่จะออกสัมภาษณ์กับต่าย เราก็พูดเป็นกิจวัตรประจำวันเรา เราไม่รู้เขามีตัวตนอยู่จริงไหม" ต่ายแง้มว่าพอได้คุยก็ทำให้ยิ้ม "เหมือนก่อนนอนเราก็บอกนอนแล้วนะ มันก็ได้ยิ้ม"


#ต่ายสายธาร #สีดาพัวพิมล