จาก "ทงบังชินกิ" ถึง "EXO " สู่ทิศทางใหม่ของการเปลี่ยนแปลงของวงการ KPOP !!?

วงการเพลงเกาหลีในช่วง 10-20 ปี ที่ผ่านมานี้ ถ้าย้อนกลับไปดูข่าวเกี่ยวกับวงการเพลงแดนกิมจิ หรือจับกระแสข่าวคราว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับวงการ Kpop
ก็จะพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก พอๆกับตลาดเพลงเกาหลีก็เติบโตขึ้น จนกลายเป็นกระแสเคป็อบฟีเวอร์ไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้
ทั้งๆที่แต่ไหนแต่ไรมา เพลงเกาหลีสามารถขายได้ในเฉพาะในประเทศตนเอง และตลาดเอเชียเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ตลาดเพลงเกาหลีสามารถขยายฐานแฟนเพลงไปเกือบทั่วโลก

ตามข้อมูลพบว่า ฐานแฟนคลับของศิลปิน Kpop มีทั้ง ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย รวมถึงแถบลาตินอเมริกา หรืออเมริกาใต้ ด้วย ซึ่งยังไม่นับรวม เอเชีย จีน และญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นตลาดหลักของวงการเพลงแดนกิมจิ รวมถึงวงการบันเทิงเกาหลีในรูปอื่นๆด้วย








แน่นอนในยุคปัจจุบันนี้ เทรนด์การปั้นนักร้อง หรือการสร้างวงบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป ในวงการเพลงเกาหลี ขึ้นมาซักวง เริ่มที่จะมีการเปลี่ยนแนว ลุค หรือภาพลักษณ์ของวง เช่น สมาชิกวงเริ่มจะมีเด็กต่างชาติมากขึ้น ทั้งวงชายล้วน-หญิงล้วน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการเพลงเกาหลี อาจจะเพราะคนเกาหลีชาตินิยมสูง มีความภูมิใจในความเป็นเกาหลี หรือแม้แต่อคติส่วนตัวกับบางชาติ

ซึ่งเป็นประเด็นที่เราจะมาหาคำตอบกันว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? และเพราะสาเหตุใด?
แล้วต่อจากนี้ ทิศทางของวงการเพลงเกาหลีจะเดินไปในทิศทางไหน ?






อี ซูมาน ผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการเพลงเกาหลี เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป มากมาย



ยุคบุกเบิกและเริ่มเฟื่องฟูของวงการ Kpop

อี ซูมาน แน่นอนชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ยิ่งโดยเฉพาะแฟนเพลงชาวเกาหลีด้วยแล้วใครไม่รู้จัก อาจเข้าข่ายโดนดูถูกได้ ซึ่ง อี ซูมาน ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการเพลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ เพราะเขาได้นำเอาแนวทางการปั้นศิลปินฝึกหัด และเทรนด์การสร้างวงบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป รุ่นใหม่เข้ามาในวงการเพลงเกาหลีอีกด้วย





ทงบังชินกิ ศิลปินบอยแบนด์ ตำนานหน้าแรกของวงการเพลงเกาหลีใต้



กำเนิด...ทงบังชินกิ 5 เทพเจ้าแห่งตะวันออก

ทงบังชินกิ เป็นวงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดวงหนึ่งในเอเชีย แน่นอนพวกเขาคือความภาคภูมิใจของ SM ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ โดย ทงบังชินกิ มักถูกเรียกว่า "ดาวแห่งเอเชีย" และ "ราชาแห่งเค-ป๊อป" สำหรับความสำเร็จอย่างกว้างขวาง และคุณูปการต่อวงการเพลงป๊อปเกาหลี ทงบังชินกีเป็นวงคนตรีต่างประเทศวงแรกที่มี ซิงเกิลติดอันดับหนึ่งจำนวน 13 ซิงเกิลในโอริกอนชาร์ต ประเทศญี่ปุ่น และทัวร์คอนเสิร์ต Time Tour ในญี่ปุ่นนั้น เป็นหนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำเงินได้มากที่สุดในปี 2013 เป็นวงต่างประเทศวงแรกที่ได้แสดงในโดมทั่วประเทศ ได้มากถึงห้าโดม และรวมถึงการแสดงที่ Nissan Stadium ด้วย  บิลบอร์ด ได้เรียกวงทงบังชินกีว่าเป็น "K-pop royalty"



แน่นอนในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่คู่แข่งอย่าง YG และ JYP  ก็มีแนวทางสร้างนักร้อง วงกลุ่มหนุ่มสาว ที่ไม่ได้แตกต่างจาก SM เลย นั่นคือ การเลือกสมาชิกวงที่เป็นเด็กเกาหลีล้วนๆ อาจจะด้วยเพราะ ในยุคดังกล่าว การแข่งขันในวงการเพลงยังไม่เข้มข้น ดุเดือด เหมือนในตอนนี้




เจวาย ปาร์ค กับการตัดสินใจที่ถูกต้อง ที่ตัดสินใจดึงเอา จืออวี๋ ชาวไต้หวัน และสามสาวชาวญี่ปุ่น อย่าง โมะโมะ มินะ และซานะ เข้าวง Twice



เพราะ ในช่วงเวลานั้นคู่แข่งค่ายอื่นๆ ก็ยังไม่ได้มีจำนวนมากมายเหมือนในตอนนี้ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพลงในเกาหลีซึ่งเป็นตลาดหลัก ยังสามารถขยายฐานแฟนเพลงได้อยู่ เพราะช่องว่างยังมีเหลืออีกเยอะ






12 หนุ่ม EXO ร่วมถ่ายรูปกับ ปาร์ค กึนเฮ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แน่นอนพวกเขาคือประวัติศาสตร์หน้าสอง ของวงการเพลงเกาหลี




     

สู่...EXO 12 หนุ่มที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ !

แน่นอนกับความแรง! ของ 12 หนุ่มแห่ง SM  ที่มาพร้อมความเปลี่ยนแปลงนั่นคือ พวกเขาถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ Exo M กับ Exo K  โดยมีสมาชิกในวงที่เป็นต่างชาติหลายคน ซึ่งหมายถึง เด็กเชื้อสายจีน เช่น ลู่หาน เทา เป็นต้น

      แน่นอนการเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมกับคำถามที่ว่า

" ตลาดเพลงภายในเกาหลีใต้ กำลังถึงจุดอิ่มตัวใช่หรือไม่ ? "


เพราะจากข้อมูลพบว่า ค่ายเพลงต่างๆในเกาหลีใต้ ทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ มีรวมกันมากถึง 10-20 ค่าย หรืออาจมีมากกว่านั้น เพราะยังไม่รวมค่ายย่อยต่างๆ หรือเอเยนต์ซี่ตัวแทนอีกมากมาย

  แน่นอนมันน่าจะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาด ถูกแชร์กันโดยมากมายหลายมือ  และสิ่งที่ตามมาก็คือส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงอย่างแน่นอน ทั้งยอดขาย งานโชว์ต่างๆ

  และน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้วงการเพลงเกาหลีต้องปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ ด้วยการหาตลาดนอกประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงตลาดแถวอาเซียนด้วย โดยมีไทยเป็นเป้าหมายหลัก









เมื่อตลาดเปลี่ยนไป เคป็อบจึงต้องเปลี่ยนแปลง ?

แน่นอนกับพฤติกรรมของแฟนเพลงที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในเกาหลี ที่ผู้คนเริ่มติดตามฟังเพลงออนไลน์มากกขึ้น ติดตามข่าวสารศิลปินนักร้องในดวงใจทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และกระแสสังคมโชเชียลมีเดีย ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ทำให้แนวทางการสร้างศิลปิน นักร้อง Kpop ต้องเปลี่ยนเทรนด์ตามวัยรุ่นให้ทัน

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าบรรดาค่ายเพลงในเกาหลีใต้ หลายค่ายเริ่มหันมาสรรหาเด็กใหม่บุคคลิกหน้าตาดี เพื่อบรรจุเข้าเป็นอิมเมจ หรือภาพลักษณ์ จุดขายของวง เพราะจะมาขายงานเพลงคุณภาพเหมือนแต่ก่อนอาจจะยากขึ้น






จื่ออวี๋ วง Twice เด็กปั้นของ JYP ชาวจีน-ไต้หวัน เธอคือไอดอลชาวต่างชาติ ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้








  และประเด็นที่น่าสนใจคือ เกาหลีเริ่มหันมาจับเด็กต่างชาติเข้าสังกัดมากขึ้น โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น รวมถึงไทย ด้วย และแน่นอนกับ 2 คำถามที่ตามมาคือ...

วงการเพลงเกาหลี กำลังจะเปลี่ยนทิศทางใช่หรือไม่ ?

และ... ทำไมต้องเป็นเด็ก จีน ญี่ปุ่น หรือไทย ?









วงการเพลงเกาหลี กำลังเปลี่ยนทิศทาง ?

แน่นอนแนวโน้มน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะสังเกตุได้ว่า ค่ายเพลงใหญ่ๆ ในเกาหลีเริ่มหันมาปั้นไอดอลที่เป็นชาวต่างชาติมากขึ้น ตัวอย่างเช่น  จื่ออวี๋ สมาชิกวง Twice  หรือสามสาวชาวญี่ปุ่นอย่าง โมะโมะ ซานะ และมินะ นิชคุณ 2PM  , แบมแบม GOT7  หรือเต็นล์ ชิตพล กับ ยูตะ ในวง NCT เป็นต้น






แม้แต่ค่ายอนุรักษ์นิยมอย่าง YG ก็เริ่มหันมาปั้นเด็กต่างชาติแล้วเช่นกัน โดยมี ลลิช หรือลิสา เป็นเด็กต่างชาติคนแรกที่ไม่มีเชื้อสายเกาหลี ในค่ายเพลง YG  และแน่นอนเธอคือคนไทยคนแรกในค่ายเพลงนี้ด้วย





หยาง ฮยอนซอก ผู้ก่อตั้ง YG Family  เริ่มที่จะเปลี่ยนแนวทางตลาดมากขึ้น รวมถึงเทรนด์การปั้นเด็กฝึกด้วย และแน่นอน ลลิช เด็กไทย และเด็กต่างชาติคนแรก ที่ได้เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัววายจีไปแล้ว






ทำไมต้องเป็นเด็ก จีน ญี่ปุ่น หรือไทย ?

ถ้าจะตอบแบบการตลาด คำตอบ ก็เพราะว่า สามประเทศนี้เป็นตลาดหลักของเพลงเกาหลี อาจรวมถึงซีรีย์ ละครเกาหลีด้วย โดยเฉพาะจีนที่มีพลเมือง 1,600 ล้านคน หรือญี่ปุ่น แม้พลเมืองจะน้อยกว่าจีน แต่พฤติกรรมการฟังเพลงของชาวญี่ปุ่นมักเปลี่ยนใจยาก ถ้าได้ชอบวงไหนแล้ว เขาก็จะติดตามอุดหนุนวงนั้นสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ ส่วนในไทยกระแสเกาหลีฟีเวอร์ แรงดีไม่มีตกอยู่แล้ว






นิชคุณ 2PM  ไอดอลKpop ชาวไทย เขาได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนเกาหลีที่เคยมองคนไทยแบบเก่าๆ ให้เริ่มหันมามองคนไทยในด้านใหม่ๆ และภาพลักษณ์ที่ดีของนิชคุณ ได้ทำให้วงการเพลงเกาหลียอมรับคนไทยมากขึ้นแน่นอน





หรือถ้าตอบแบบจิตวิทยาการตลาด หรือถ้าพูดแบบภาษาชาวบ้านๆ หน่อย ก็อาจเป็นเพราะว่า เด็กจีน ญี่ปุ่น และไทย หน้าตาดี มีเสน่ห์ โดยเฉพาะเด็กไทยซึ่งมีบุคลิกหน้าตา หลากหลาย และมีนิสัยที่ยิ้มง่าย การทำงานร่วมกันเป็นทีมจึงไม่ค่อยมีปัญหาเกิดขึ้น

และเชื่อว่านับจากนี้อีกหลายปี เทรนด์การเปลี่ยนแปลงนี้ ที่ยึดเอา จีน ญี่ปุ่น และไทย เป็นตัวตั้ง จะยังอยู่กับวงการเพลงเกาหลีหลากหลายรุ่นแน่นอน









เรียบเรียงโดย  Monica  consovky