โอม เตรียมสอบด้านกฎหมาย แบ่งเวลาได้ไม่กระทบงานเพลง

4 ส.ค. 59 15:00 น. / ดู 1,183 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
นักร้องหนุ่มผู้มีใจรักด้านวิชาการอย่าง "โอม - ปัณฑพล ประสารราชกิจ" นักร้องนำแห่งวง "ค็อกเทล" จะเห็นว่าช่วงนี้เจ้าตัวดูเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบเนติบัณฑิตในเร็วๆ นี้ ซึ่งหนุ่มมาดเท่ก็เผยว่า "จริงๆ ที่เครียดเรื่องอ่านหนังสือ เครียดเพราะไม่ค่อยได้อ่าน ไม่เครียดตอนอ่านเท่าไร วันไหนได้อ่านจะเบิกบานประมาณหนึ่งว่าอย่างน้อยวันนี้มันก็ก้าวหน้า แต่ว่าตอนนี้มันมีงาน ผมบ้าไปเองที่ไปลง 2 ขา เน เขาจะเรียกเป็นขาครับ ขาแพ่ง ขาอาญา ปกติเราก็จะสอบทีละขา ด้วยเราทำงานแบบนี้ด้วย แต่ว่าเทอมนี้รู้สึกฮึกเหิมฮะ ก็ลงไป 2 ขา ตอนนี้กำลังสำนึกเสียใจอยู่ครับ" นักร้องหนุ่มกล่าวว่าจะต้องสอบในเดือนหน้านี้แล้วด้วย "วันที่ 25 กันยายนนี้ จะสอบขากฎหมายอาญาครับ แล้วก็ผลัดไปอีกหนึ่งสัปดาห์จะสอบขากฎหมายแพ่งและพาณิชย์"
งานรุมเยอะขนาดนี้จะมีความพร้อมในการสอบครั้งนี้แค่ไหน หนุ่มมากความสามารถตอบว่า "พร้อมเท่าที่พร้อมได้ครับ ผมว่าผมโชคดีมันมีบางพาร์ตในขาอาญาสมัยที่ผมสอนกฎหมาย ผมสอนวิชานี้ สมัยติวเพื่อน สมัยอะไร เราก็รู้สึกว่าขาอาญาสำหรับผมมันค่อนข้างเบาลงครับ คือไม่ต้องอ่านหนักมาก คืออย่างหลายๆ คน ถ้าเป็นนักวิชาการกฎหมายจะทราบกันว่าสอบเนติบัณฑิตมันไม่ได้ยาก ปัญหาคือปริมาณ คือมันเยอะ ที่จะไปสอบกันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เพราะมันยากมาก แต่ไม่ได้เพราะอ่านไม่ทัน แล้วก็จัดเวลาไม่ได้อย่างนี้มากกว่าครับ" ส่วนเจ้าตัวจะแบ่งเวลาอ่านหนังสือควบคู่ไปกับการทำงานดนตรีอย่างไรนั้น โอม เปรยว่า "จริงๆ แล้ว ค็อกเทล รับงานประมาณเดือนละ 12 วัน ผมเองก็ใช้เวลาที่เหลือเท่าที่มีอ่ะครับ อ่านหนังสือ แล้วก็สัญญากับตัวเองว่าอย่างน้อยให้ได้วันละ 2 ชั่วโมงนะ"

นักร้องเสียงดีแง้มเรื่องการแบ่งเวลาที่ใช้อ่านหนังสือต่อวันว่า "สมมติเราเล่นคอนเสิร์ตในกรุงเทพฯ เราไปถึงก่อนเวลา 1 ชั่วโมง เราเล่น 1 ชั่วโมงครึ่ง เรายืนถ่ายรูปอีก 1 ชั่วโมง เราเดินทางกลับ 1 ชั่วโมง มันหายไป 5 ชั่วโมงเอง เรานอนอีก 8 ชั่วโมง กลายเป็น 13 ชั่วโมง ที่เหลือมันคือเวลาทั้งหมดที่เราใช้ได้ เราขอแค่ 2 เอง จริงๆ ผมจะเป็นคนแบบหมกมุ่นกับตัวเลขอ่ะครับ พอเวลาเราคิดเรื่องเป็นเลข เหมือนกับว่าถ้าเราใช้เวลาตรงนี้ไป เราเอาเวลาไปดูหนัง 2 ชั่วโมง เราก็ทดว่าเราเอา 2 ชั่วโมงนี้มาคืนตรงไหนได้บ้าง" ทั้งยังแนะนำเคล็ดลับที่ใช้ในการทำงานดนตรีควบคู่กับงานวิชาการว่า "ผมว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามอ่ะครับ ไม่ใช่แค่ผมเอง ผมว่ามันมีหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในรูปแบบของเขา และทุกคนจะพูดคล้ายๆ กันว่า มันไม่ใช่เพราะความสามารถ แต่เป็นเพราะว่าความสามารถในการแบ่งเวลา ผมว่าสิ่งที่ต้องสู้ไม่ใช่สู้กับการอ่านหนังสือ แต่สู้กับการไม่ออกไปวิ่งเล่น ไม่ออกไปวิ่นเต้น ดูหนัง กินข้าว ฟังเพลง ต่อโมเดลอะไรอย่างนี้ อันนี้ยากครับ"

เห็นมีความตั้งใจอย่างนี้แล้ว มีความคิดที่จะไปทำงานด้านกฎหมายแบบเต็มตัวเลยไหม โอม ก็เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า "จริงๆ ผมก็ไปทางนั้นมาก่อนอยู่แล้วครับ แล้วก็มีโอกาสมาเล่นดนตรี ผมมีความสนใจ ความชอบส่วนตัวจะเป็นเรื่องกฎหมายเปรียบเทียบ ประวัติศาสตร์กฎหมาย ปรัชญากฎหมาย มันเป็นเรื่องของชีวิต สังคม ผู้คน อะไรอย่างนี้ครับ และการอยู่กับหนังสือมันไม่มีประโยชน์ สำหรับผม ผมมองนะครับ เวลาออกมาเล่นดนตรีเราได้เจอคน เราได้ศึกษาความคิดของเด็ก วัยรุ่นด้วย แล้วก็ผู้คน ยิ่งวงเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรายิ่งได้ไปเจอเวทีกับพื้นที่ที่เราไม่เคยเห็น สิ่งที่ผมรู้สึกอย่างแรกเลยว่าเราเคยเข้าใจว่าเราเข้าใจคนไทยว่าคนไทยมีนิสัยยังไง คนไทยที่เราเข้าใจคือคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่คนไทย เราอยากจะเข้าใจเขามากขึ้นเราก็ต้องออกไปอ่ะครับ แล้วมันก็ส่งผลกลับมาในเชิงวิชาการเอง วิชาการมันก็คือสิ่งที่เราเอามาจากสังคมนั่นแหละ มันไม่ได้อุปโลกน์ขึ้นมาแล้วสังคมไปตามนั้นหรอก"

#โอมปัณฑพล
แก้ไขล่าสุด 4 ส.ค. 59 15:01 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย WinXP

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google