[รีวิวอัลบั้ม] Joanne - Lady Gaga

27 ต.ค. 59 23:38 น. / ดู 703 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์

โพล ชอบแทร็คไหนมากที่สุดในอัลบั้ม Joanne - Lady Gaga

0 (0.00%)01 Diamond Heart
0 (0.00%)02 A-Yo
0 (0.00%)03 Joanne
1 (50.00%)04 John Wayne
0 (0.00%)05 Dancin' In Circles
0 (0.00%)06 Perfect Illusion
0 (0.00%)07 Million Reasons
0 (0.00%)08 Sinner's Prayer
0 (0.00%)09 Come to Mama
1 (50.00%)10 Hey Girl [ft. Florence Welch]
0 (0.00%)11 Angel Down
0 (0.00%)12 Grigio Girls
0 (0.00%)13 Just Another Day
0 (0.00%)14 Angel Down (Work Tape)
จากทั้งหมด 2 คน (จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะโหวตได้)
กาก้าคนเดิม ไม่เพิ่มเติมคือหลุดโลก


Intro
.
.
กลับมาสยามโซนอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนาน ไปโพสต์ลงเฟสซะส่วนใหญ่เลยไม่มีเวลามาเยี่ยมเยียนที่นี้ซะเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังไม่ลืมเว็บบอร์ดแห่งนี้อย่างแน่นอน ถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในชีวิตของเลยก็ว่าได้ กับการเป็นนักรีวิวเพลงสมัครเล่น ทำเพจเป็นเรื่องเป็นราวได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีเว็บบอร์ดนี้เนี่ยแหละครับ Lady Gaga pop diva หลุดโลกรายนี้กลับมาอีกครั้งในรอบ 4 ปีสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 ที่มีชื่อสั้นๆว่า Joanne ซึ่งที่มาของชื่อนี้ก็ไม่ซับซ้อนอะไร ชื่อกลางที่เป็นชื่อจริงของเธอนั่นเอง นอกจากนี้ยัง Tribute ให้กับป้าของเธอที่มีจิตวิญญาณที่เป็นศิลปินอย่างเต็มล้นที่จากกาก้าไปตอนที่เธออายุ 19 ปีอีกด้วย มาพร้อมหน้าปกที่เรียบง่ายไม่ออกแนวแปลกแหวกหลุดโลกเหมือนชุดก่อนที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าลึกๆแล้ว เจ๊กาก้าคงเริ่มเบื่อกับกระแสอีดีเอ็มเต็มทีแล้วล่ะครับ สังเกตได้ว่าชุดแรกอย่าง The Fame หรือ The Fame Monster นั้น เธอเปรียบเสมือนผู้นำทางด้านแนวเพลงนี้ควบคู่กับแฟชั่นสีสันหลุดโลกเลยก็ว่าได้ สารภาพตามตรงว่าเธอผู้นี้เป็นศิลปินป็อบสายอิเล็กโทรคนแรกๆที่ผมให้ความสนใจเลยก็ว่าได้ The Fame Monster จัดว่าปังสุดๆในยุคนั้นเลย มันนำมาซึ่งความสำเร็จอันมากมาย จนผมคิดว่าเธอคนนี้ไปได้ไกลแน่นอน แต่พอมาถึง Born This Way นั้นผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับงานชุดนี้เลยเลยล่ะครับ เหมือนออกแนวตันยังไงก็ไม่รู้ เลยแอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่า เธอคนนี้จะไปได้รอดหรือเปล่า แต่ก็มีสิ่งที่การรันตีความสำเร็จนั่นก็คือ ซิงเกิ้ลติดท็อปชาร์ต แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ดูฉาบฉวยไปหน่อยถ้าว่ากันตามตรง หลังจากอัลบั้มนี้ กระแสเพลงอีดีเอ็มเข้ามาระบาด มีศิลปินหรือเพลงแนวนี้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จนกลายเป็นของตายสำหรับนักฟังเพลงไปแล้ว ในปี 2012 เธอคนนี้ก็ยังไม่หนีหายไปไหน ชูความหลุดโลกแต่เริ่มเอาศิลปะเข้ามาแทรกใน Artpop ถึงจะชูความเป็นศิลปะเข้ามา แต่กลับให้ความรู้สึกไม่ต่างจากศิลปินสายอิเล็กโทรนิกส์มากเท่าไหร่นัก เธอจึงเป็นผู้ตามในวงการเพลงไปซะงั้น 1ปีต่อมาก็สร้างความประหลาดใจให้แฟนเพลงด้วยการไปร่วมงานกับนักร้องแจ๊สรุ่นลายครามอย่าง Tony Bennett สลัดลุกส์สาวหลุดโลกมาในแนวสาวเรียบร้อยขึ้นเพื่อให้เข้ากับคุณปู่ซักนิด ก่อนที่จะมาเป็นชุดที่ห้า เธอคนนี้ก็เลือกที่จะไปรับงานสายอื่นบ้าง ไปรับงานแสดงหนังใหญ่ในบทบาทสมทบ โผล่มาแจมเล็กๆน้อยๆ ไปรับเล่นซีรี่ย์ American Horror Stories ซีรี่ย์สยองขวัญชื่อดัง ยังไม่ห่างหายไปจากวงการบันเทิงซักทีเดียว
https://www.youtube.com/watch?v=Xn599R0ZBwg

https://www.youtube.com/watch?v=APlG5HRPFyY


แล้วก็มาถึงปี 2016 สองปีผ่านไปไวอย่างโกหก เธอคนนี้ก็กลับมาให้เราหายคิดถึงอีกครั้งด้วยซิงเกิ้ล Perfect Illusion เป็นซิงเกิ้ลที่สร้างความท้าทายให้แฟนเพลงขาประจำและขาจรเป็นอย่างยิ่ง มาในสไตล์ร็อคจัดจ้านพอตัว ไม่หลงเหลือความเป็นอิเล็กโทรนิกส์ให้เราได้ยินกันอีกแล้ว ตอนที่ปล่อยเพลงนี้ออกมาตอนแรกๆเสียงแตกเป็นสองฝ่ายเลยล่ะ มีทั้งชอบ โอ้กลับมาคราวนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ตามกระแสจนเกินไป กับอีกเสียงนึงไม่ค่อยพึงพอใจเท่าไหร่นัก ขนาดนักร้องวงร็อคบางวงถึงกลับมาออกความเห็นเลยว่า ทันทีที่เพลงนี้เปิด กูรับไม่ได้เว้ย ถ้าถามผมว่าถูกใจมั้ย ผมพึงพอใจในระดับนึงเลย อาจจะไม่ชอบถึงที่สุด แต่ก็ยังจรรโลงใจได้ระดับนึงนะ ยังเดาทางไม่ถูกว่า เจ๊แกจะมาแนวไหนกันแน่ พอซิงเกิ้ลที่สองอย่าง Million Reasons เนี่ยแหละเป็นการตอกย้ำจุดยืนที่ชัดเจนขึ้นไปอีก มันเป็นเพลงที่ทำให้ผมเกือบลืมซิงเกิ้ลแรกซะด้วยซ้ำ เป็นเพลงช้าที่ตอบโจทย์รสนิยมผมได้ดีมากๆ มันเป็นบัลลาดป็อบผสมคันทรี่ที่หนักแน่น มีพลังอยู่ในตัว มันไม่ใช่เพลงรักรสเจ็บที่ดูขมขื่นหรือน้ำเน่าจนเกินไป ผมชอบมาก ตอนปล่อยมาใหม่คือฟังบ่อยจริงๆครับ เนี่ยแหละคือเหตุผลว่าทำไมเริ่มให้ความหวังกับงานชุดใหม่มากขึ้น อาจไม่ได้ตั้งความคาดหวังไว้สูงมากนักเหมือนศิลปินท่านอื่นอย่าง Frank Ocean หรือ Beyonce โดยรวมแล้ว Joanne จัดว่าเป็นงานที่เรียบง่าย Back To Basic ไม่เล่นตามกระแส ตามที่ผมคาดการณ์ไว้จริงๆครับ แทนที่เธอจะใช้บริการจากดีเจอีดีเอ็มชื่อดังมาทำเพลงให้ แต่เธอเลือกที่จะใช้โปรดิวเซอร์สายป็อบ ร็อค และโซลมาคุมงานชุดนี้แทน ไม่ว่าจะเป็น Mark Ronson ที่คุมงานชุดนี้ซะส่วนใหญ่ Kevin Parker แห่ง Tame Impala วงไซคลิเดริคร็อค นักร้องนักแต่งเพลงระดับรางวัลแกรมมี่อย่าง Beck โปรดิวเซอร์สายเพลงป็อบ Bloodpop และ Josh Homme แห่ง Queens Of The Stone Age มาร่วมโปรดิวซ์ด้วย โปรดิวซ์เซอร์ที่มารังสรรค์งานชุดนี้จัดว่าไม่ธรรมดาจริงๆครับ  งานชุดนี้จึงมีความเป็นป็อบในแบบดนตรีสดซะส่วนใหญ่ ไม่ใช้ดนตรีอิเล็กโทรนอกส์ล้ำๆใดๆทั้ง มีความเป็นโซล บัลลาดคันทรี่ อินดี้ร็อคปนเปกันไป ใครที่คาดหวังอยากจะเห็นกาก้ากลับไปจัดเต็มในสมัย The Fame Monster คงต้องผิดหวังแน่นอน แต่ถ้าเลือกที่จะซื่อสัตย์กับเธอคนนี้ต่อไป ก็โอเค เริ่มกันตั้งแต่ Diamond Heart มาแนวแดนซ์นิดๆ ซาวน์ดลดความจัดจ้านลง แต่ก็พอรู้ว่า ขุ่นแม่ตัวจริงกลับมาแล้ว ฟังแล้วอดนึกถึง Madonna คู่ปรับของเจ๊กาก้า ไม่ได้เลยจริงๆ ท่อนฮุกคือร่างอวตารเจ๊มาดอนน่าชัดๆ ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครคิดเหมือนผมรึเปล่า A-YO ซิงเกิ้ลที่สาม ผมรู้สึกเฉยๆกับซิงเกิ้ลนี้ ชื่อออกแนวเป็นมิตรดีนะ แต่มันไม่เป็นมิตรกับเด็กเอาเสียเลย โจ๋งครึ้มได้อีก ความก๋ากั๋นของเจ๊แกยังไม่หายไปไหน  Joanne Title track อันเป็นใจความหลักของอัลบั้มที่ตั้งใจจะ Tribute ให้กับป้าโจแอนผู้ล่วงลับ หนึ่งแรงบันดาลใจการเป็น Artist ของเธอ เจ๊แกเผยว่า แทร็คนี้เป็นแทร็คที่ Soulful ที่สุดเท่าที่เธอเคยร้องมา ชอบในความดิบในเพลงนี้ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย ส่วน John Wayne ก็มีลูกเล่นซินทีไซเซอร์บวกกับออโต้จูนมานิดหน่อยๆ พอหอมปากหอมคอ เพื่อไม่ให้น่าเบื่อจนเกินไป เป็นเพลงที่มีเทคนิคลูกเล่นชั้นเชิงอยู่ไม่น้อย Dancin' In Circle เพลงแดนซ์กลิ่นอาย Leggae Ska ว่าด้วยเรื่องสำเร็จความใคร่ กิจกรรมยามว่างของสาวๆ เพลงนี้ได้ Beck เป็นผู้ร่วมแต่ง สนุกใช้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=lxlKKCeb9QA

เข้าสู่คันทรี่จัดๆด้วย Sinner's Player ได้ Father John Misty นักร้องโฟล์กซองมาร่วมแต่ง พูดถึงการไม่เต็มใจที่หักอกหนุ่มที่เข้ามาในชีวิต แน่นอนว่าชั้นมันเป็นคนบาป คิดไว้ซะว่า ไม่ได้ตั้งใจก็แล้วกัน ผมว่าเพลงนี้เข้าถึงยากที่สุดแล้ว อาจจะเป็นเพราะผมไม่โตพอที่จะฟังคันทรี่ เลยเข้าไม่ถึง Come To Mama เพลงให้กำลังใจแฟนคลับ ดนตรีป็อบมีความเป็น Lenka เอามากๆ แต่อันนี้ Lenka ver เสียงสู๊งงง ไม่แบ๊วจนเกินไป แซกโซโฟนช่วยเพิ่มสีสันให้เพลงเป็นอย่างมาก เป็นแทร็คที่ฟีลกู๊ดและจรรโลงใจคนฟังได้เป็นอย่างดี มาถึงแล้วสำหรับแทร็คที่ผมรอคอยอย่าง Hey Girl ซาวน์ดเรโทรยุค 80's เก๋ๆ เป็นแทร็คที่ผมคาดหวังไว้มาก เพราะได้แขกรับเชิญเสียงร้องสุดโกธิคอย่าง Florence Welch เจ้าแม่สายอินดี้ร็อคมาร่วมแจมด้วย เป็นแขกรับเชิญเพียงคนเดียวในงานชุดนี้ ตอนแรกก็แอบหวั่นอยู่  โคตรชอบแทร็คนี้เลยล่ะครับ เป็นเพลงให้กำลังใจผู้หญิงที่เท่ห์โคตรๆ มีความหนักแน่น ทั้งคู่แบ่งรับแบ่งสู้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีการแย่งซีนกัน สูสี และลงตัว จัดเป็นแทร็คเด็ดที่ไม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ ปิดท้ายแสตนดาร์ดเวอร์ชั่นด้วย Angel Down บัลลาดโซลล้วนๆได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จากการตายของวัยรุ่นผิวสีชาวแอฟริกัน Trayvon Martin ที่ถูกยิงตายอย่างไม่เป็นธรรมดาโดยเพื่อนบ้านชาวผิวขาวในปี 2012 นอกเหนือจากเหตุการณ์นี้ เธอยังตั้งคำถามถึงเบื้องบนเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้อย่างไม่เป็นธรรมอีกด้วย I'm a believer, it's a trial
 / Foolish and weaker จึงเป็นท่อนที่จิกกัดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ตรงไปตรงมาที่สุด

ส่วนเพลงแถมนั้น ก็จัดว่าไม่น่าเกลียด ไม่เป็นแถมที่แถมไปงั้น จัดเป็นงานคุณภาพ Grigio Girls งานคันทรี่โฟล์คซอง ฟังสบายๆ และ Just Another Day ป็อบแจ๊สสุดรื่นรมย์จรรโลงใจที่กาก้าเป็นคนแต่งเนื้อร้องทั้งหมดในเพลงนี้ ชอบครับ ฟังแล้วรู้สึกดี และเพลงแถมสุดท้าย Angel Down เวอร์ชั่น work tape เสียงร้องดิบๆไม่มีดนตรีประกอบจัดเต็มเหมือนเวอร์ชั่นเดิม ส่วนตัวชอบเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเพราะเสียงร้องดูทรงพลังและดุดันมากกว่า 3 เพลงแถมจึงเป็นเพลงแถมที่ไม่ได้ให้เปล่า ฟังจนจบได้โดยที่ผมไม่หนีไปเสียก่อน

Outro
.
.
การกลับมาที่สวนกระแสป็อบยุคปัจจุบันคราวนี้ เป็นการตัดสินใจที่มาได้ถูกทาง ไม่หลงทางไปไกลและไม่ย่ำอยู่กับที่ซะทีเดียว เป็นงานที่ให้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด เรียบง่าย ไม่หวือหวาจนเกินไป ในความเรียบง่ายนั้นไม่ได้เป็นป็อบตลาดๆที่มีเมโลดี้ง่ายๆกระจอกๆซะทีเดียว มันมีทั้งความดิบ อินดี้ ไม่ซ้ำใคร นี่คือเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในงานชุดนี้ เรียบง่ายแต่ฟังไม่ง่ายซะทีเดียว  Joanne จึงเป็นงานที่ก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างแท้จริง ฟังได้เรื่อยๆในระยะยาว หยิบมาฟังอีกครั้งรู้สึกโอเค แต่มันยังห่างไกลความเป็น masterpiece ไปหลายโขเลยครับ มันมีหลายจุดที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ ไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกได้ทุกอณู ยังมีอะไรที่ขาดๆเกินๆ แต่ก็เป็นการพยายามที่ดีครับ

ถ้าถามว่าเพลงของเธอนั้นจะกลับมาฮิตติดชาร์ตแบบสมัยก่อนหรือไม่ อันนี้ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้ยากมากๆครับ ไม่ใช่ว่าเพลงของเธอห่วยนะครับ แต่งานเพลงของเธอชุดนี้มันมีความเป็นอินดี้อยู่นิดๆ เป็นงานป็อบที่ต้องอาศัยเวลาในการฟังพอสมควร ถึงจะเก็ทและเข้าถึงได้ มันไม่ใช่เพลงป็อบที่เห้ยฟังแล้วติดหู catchy แบบปุ๊บปั๊บทันท่วงที อีกอย่างนึงช่วงนี้ศิลปินหน้าใหม่มีการแข่งขันสูงด้วย อันนี้ถ้าใครหวังให้เจ๊แกกลับมาดัง ก็คงต้องทำใจซะแล้ว เพราะเพลงของเธอนั้นไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มคนฟังวัยรุ่นหรือคอเพลงเมนสตรีมมากเท่าไหร่นัก กลับมาคราวนี้ไม่ดังเปรี้ยงเหมือนแต่ก่อนแน่นอน ผมให้ความรู้สึกว่าแค่ผลงานชุด The Fame Monster เธอก็มาได้ไกลเกิน จน Born This Way และ Artpop ดูอิ่มตัวไปเลย เจ๊แกน่าจะเริ่มหยุดนิ่ง ไม่เล่นตามคนอื่น ไม่กระหายชื่อเสียงไปมากกว่านี้แล้วล่ะครับ จะให้อิเล็กโทรตลอดๆ ตามศิลปินหน้าใหม่คนอื่นๆก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน

ถึงจะแป๊กในทางการแข่งขัน แต่ก็ต่ออายุในวงการเพลงได้เหมือนกัน


Top Tracks : Hey Girl , Million Reasons , Joanne , John Wayne , Come To Mama , Just Another Day

Give 7/10


ฝากเพจรีวิวเพลงของผมด้วยคร้าฟฟฟฟฟฟ
>>>> https://www.facebook.com/fungpaifungma
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย MacOS

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google