อุ๋ย ออกความเห็น ธรรมกาย ศรัทธาแต่ละคนไม่เหมือนกัน

กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์สำหรับเรื่องวัดธรรมกาย ซึ่ง "อุ๋ย - นที เอกวิจิตร" สมาชิกวง "บุดดาเบลส" (Buddha Bless) เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา โดย อุ๋ย กล่าวว่า "ผมแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้มานานมากแล้วครับ ผมก็แสดงความคิดเห็นทั้งการเมือง ศาสนา ทุกเรื่องอ่ะครับ ก็แสดงความคิดเห็นมานานแล้ว แต่บังเอิญอันนี้อยู่ดีๆ คนไปแชร์กันเยอะๆ เพราะว่ามันอาจจะเป็นข่าวอยู่พอดีเรื่องธรรมกายตอนนี้นะครับ แล้วก็ที่ผมไปออกรายการ (ต่างคนต่างคิด) ผมก็ได้บอกไปหมดแล้วแหละว่าแชร์เรื่องนี้นานแล้ว"

หลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับศิษยานุศิษย์อย่าง "อัยย์ เพชรทอง" ในรายการ ต่างคนต่างคิด ยังคิดว่าคำสอนของ "พระธัมมชโย" บิดเบือนศาสนาอยู่ไหม นักร้องหนุ่มตอบว่า "ตอนที่ผมดูจากที่เขาเทศนาสั่งสอน ก็สำหรับผม ผมมองอย่างนั้น แต่ผมบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าพยายามอย่าบิดเบือนเจตนาของผมนะครับ ผมได้บอกในพื้นที่ของผม ในเฟซบุ๊ก ขอย้ำที่นี้อีกทีแล้วกันครับว่าใครจะนับถือศาสนาอะไร เชื่ออะไร เป็นสิทธิของแต่ละคน แล้วก็ไม่ได้ก้าวล่วงการเชื่อของแต่ละคนนะครับ แล้วผมก็มองว่าวัดที่เป็นธรรมกายที่ไปนั่งอยู่ในวัด หลายคนเกือบทั้งนั้นนะครับคนพุทธเข้าวัดธรรมกาย ก็เป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธแล้วก็รักศาสนาพุทธเหมือนกัน อย่างคุณอัยย์เนี่ยผมแค่เสียดายว่ามีศรัทธาสูงมาก แต่ว่าไปศรัทธากับพระที่ศีลสำหรับผมเหมือนไม่ใช่พระแล้วครับ คนที่มีความศรัทธาแบบนี้ ศรัทธากับพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ผมว่าจะเป็นอุบาสกที่ดีมากของศาสนาพุทธ คือเจตนาผมว่าดีกันทั้งนั้นแหละครับ ทุกคนก็อยากเป็นพุทธที่ดีทุกคน ไม่มีใครเข้าวัดแล้วอยากเป็นคนบาป ทุกคนอยากเป็นคนดีแน่นอนครับ แต่ว่าคนที่เป็นต้นทางนำสำหรับผม ผมรู้สึกว่าเขาสอนบิดเบือน"

หนุ่มมากความสามารถเอ่ยว่าสิ่งที่ตนเองวิพากษ์วิจารณ์เป็นเพียงการเปิดประเด็นให้ผู้คนได้ฉุกคิด "ผมไม่ได้อยากพูดคำว่าคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเยอะน้อยกว่า อย่ามาวัดตรงนี้เลยอย่ามาเอาชนะกันว่าใครชนะใครแพ้ อย่างของผมกับคุณอัยย์ ตอนคุยกันรู้สึกว่าเป็นการเปิดประเด็นนะครับ ผมเห็นเลยว่าฟีดแบ็กกลับมาจากคนที่ไม่ได้สนใจศาสนาพุทธจริงจัง คนที่เห็นด้วยเรื่องธรรมกายเป็นข่าวประจำวันก็ดูทีวีดูผ่านๆ ไป เริ่มสนใจว่าทำไมมันถึงมีประเด็นลากจนถึงทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่าเป็นการเปิดประเด็นให้คนสนใจศาสนาพุทธที่เป็นศาสนาประจำชาติเรา ก็ทุกคนจะได้เริ่มสนใจมากขึ้น ส่วนใครจะผิดใครจะถูกหรือไม่เอาผิดเอาถูก ใครเห็นด้วยมากน้อยกว่าฝั่งไหนก็เป็นวิจารณญาณของแต่ละคนที่จะมาคิดต่อกันเอาเอง แต่ว่าอย่ามายัดเยียดกันว่าคุณไปดูถูกเหรอว่าคนคิดต่างกับคุณโง่ ไม่มีนะครับ ผมย้ำอยู่เสมอว่าศรัทธาของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันเลย มันเป็นเรื่องของเขา มันไม่ได้เป็นเรื่องที่บอกว่าใครโง่ใครฉลาด ความศรัทธามันไม่มีโง่ฉลาด"

สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มส่อแววรุนแรงขึ้น อย่างนี้กลัวเรื่องความปลอดภัยของตัวเองไหม หนุ่มคนนี้เปรยว่า "ก็เป็นห่วง ทุกคนรักตัวกลัวตายกันทั้งนั้นแหละครับ ผมรู้สึกว่าผมออกมาพูดด้วยเหตุด้วยผลนะครับ ถ้าเป็นคนดีๆ เป็นสาวกธรรมกายจริงๆ เป็นคนเข้าวัด ผมมั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เพราะว่าผมไม่ได้ไปโกหก หลอกลวง ใช้ข้อมูลบิดเบือนเพื่อออกมาโจมตีคนที่เขานับถือ ผมออกมาพูดด้วยเหตุด้วยผล ออกทีวีคุยกัน ฉะนั้นคนที่เป็นสาวกธรรมกายจริงๆ เป็นคนเข้าวัดเป็นคนธรรมะธรรมโม เขาไม่ทำนิสัยแบบนั้นแน่นอนผมมั่นใจ ถ้าจะมีคนทำนิสัยแบบนั้นก็คือคนที่มาหาประโยชน์จากทางอื่น เช่นเรื่องการเมืองเห็นต่างกันแล้วพยายามมาโยงเรื่องนี้ จะมาใช้ความรุนแรงข่มขู่ อันนี้ผมว่าจะเป็นประเด็นนั้นมากกว่า ถ้าจะเป็นเรื่องคนเข้าวัดผมไม่เชื่อว่าคนเข้าวัดธรรมกายจะใช้ความรุนแรงกับผม"

พอแสดงจุดยืนแบบนี้ กังวลว่าจะส่งผลกระทบกับหน้าที่การงานหรือเปล่า นักร้องคนเก่งเปิดใจว่าส่งผลแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้จ้างไม่ใช่ตัวเอง "ผมว่าทุกเรื่องแหละครับ ตั้งแต่เรื่องการเมืองแล้วที่มีดาราออกมาเยอะแยะมากมาย ทั้งสองฝั่งไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็แล้วแต่ ผมก็ยังเห็นทุกคนทุกวันนี้ก็ทำมาหากินกันอยู่ ซึ่งมันจะมีผลกระทบหรือเปล่า มีแน่นอนอยู่แล้วครับ คนจ้างงานคิดไม่เหมือนเราเขาอาจะหมั่นไส้ แยกไม่ได้เรื่องงานเรื่องส่วนตัว เขาอาจไม่จ้าง บางคนเห็นด้วยเขาจ้าง บางคนไม่สนใจจะคิดยังไงไม่สน ฉะนั้นจ้างผมร้องเพลง จ้างผมแสดงก็เป็นหน้าที่การงานอีกแบบหนึ่ง บางคนไม่สนก็มีครับ ตอบไม่ได้ ผมเป็นคนโดนรับจ้างผมไม่ใช่คนจ้าง ผมก็ไม่รู้เขาคิดยังไง"

#อุ๋ยนที