เป้ย เผยอาการนอนกรนลูกชาย ไม่ร้ายแรงรักษาตามอาการ

ทำเอาอดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อ "เป้ย - ปานวาด เหมมณี" ลงภาพในอินสตาแกรมที่ลูกชาย "โปรด - อัษศดิณย์ บุญยรัตกลิน" กำลังทำการตรวจสุขภาพการนอน เนื่องจากต่อมอะดีนอยด์โต ล่าสุด เป้ย ได้เล่าถึงการตรวจในครั้งนั้นให้ฟังว่า "ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลรามาฯ นะคะ เพราะว่าโรงพยาบาลรามาฯ เรื่องการทำสลีปเทสต์ก็คือค่อนข้างจะเก่งสำหรับเด็กอ่ะค่ะ ก็เลยพาไปตรวจ ก็คือเนื่องจากว่าโปรดเป็นต่อมอะดีนอยด์โตมันจะอยู่ช่วงหลังหู ถ้าคนที่โตมากๆ ก็คือลักษณะการกรน คือเด็กที่เป็นลักษณะนี้จะมีอาการนอนกรน แล้วจะกรนมากเสียงดังมากถึงขนาดต้องหายใจอ้าปาก แล้วบางทีมันจะมีช่วงจังหวะที่สามารถหยุดหายใจได้ คือถ้าเกิดหยุดหายใจบ่อยๆ ก็ไม่ดี ก็จะส่งผลต่อสมองแล้วทำให้พัฒนาการการเติบโตจะมีปัญหา จะเติบโตช้ากว่าปกติ ก็เลยต้องไปตรวจสลีปเทตส์นิดหนึ่งว่าในช่วงระหว่างที่หยุดหายใจเนี่ยนานขนาดไหน มีผลอะไรอันตรายไหม สำหรับเด็กที่เป็นมากๆ บางคนก็คืออันตรายมีทำนองแบบเหมือนจะหยุดหายใจก็มีในเคสที่อันตรายมากๆ แต่น้องโปรดยังไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ"

เป้ย เผยว่าก่อนหน้านี้ โปรด มีอาการนอนกรนมานานแล้ว "คือกรนมานานแล้วค่ะ แต่ว่าตอนนั้นคือเราก็ยังไม่รู้นึกว่าเหนื่อยแล้วก็กรนเนอะ เด็กเล่นเยอะอ่ะค่ะ ก็เช็กจากเพื่อนๆ เพื่อนๆ ก็บอกมาว่าอาการกรนเป็นอาการที่ไม่ปกติ ก็ไปตรวจแล้วหมอก็ไม่ได้เช็กอะไร เราก็ไม่ค่อยสบายใจก็ไปตรวจหลายๆ หมอ คือหมอคนสุดท้ายที่ตรวจนี่ประมาณท่านที่ 6 ได้อ่ะค่ะ คือขอเขาเอ็กซเรย์ เป้ยขอเอ็กซเรย์ เป้ยมีความรู้สึกว่าไม่สบายใจเพราะว่าฟังจากเพื่อนๆ ปรากฏว่าพอไปเอ็กซเรย์ก็คือเป็นจริงๆ ค่ะ คือเขาไม่ได้ปกติ คือต่อมอะดีนอยด์โตจริงๆ มันก็ไม่ค่อยดีอ่ะค่ะ ก็ต้องรักษาตามอาการ" คุณแม่คนเก่งบอกว่าตอนนี้ยังไม่ทราบผลการตรวจ "คุณ**ังไม่ได้แจ้งอ่ะค่ะ ก็คือต้องรอคิวคุณหมอก่อน"

ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร นักแสดงสาวกล่าวว่า "มันเป็นปกติอ่ะค่ะ คือหลายๆ คนก็อาจจะเป็นได้" พร้อมบอกว่าอาการดังกล่าวมีวิธีรักษาหลายอย่าง ซึ่งได้ลองทำมาบ้างแล้ว "มีวิธีการรักษาค่ะ มีน้องอาจจะต้องล้างจมูกบ่อยๆ เพื่อที่หายใจคล่อง แล้วก็อาจจะมีพ่นยาทานยา แต่พอดีของโปรดนี้พ่นก็แล้ว ทานยาก็แล้ว เดี๋ยวต้องดูอีกทีว่าจะต้องรักษาแบบไหน แต่ว่าขั้นตอนสุดท้ายก็จะมีทางออกก็คือการผ่าตัด เดี๋ยวก็ต้องดูอีกที แต่เท่าที่ฟังจากพยาบาลที่เขาอยู่ในห้องพยาบาลวันนั้น เขาบอกว่าน้องโปรดไม่ถึงขั้นนั้น เราก็เดี๋ยวรอฟังจากหมออีกทีหนึ่ง คือเราก็ไม่อยากให้ลูกเราผ่าตัดหรอกเนอะ คิดว่าคงไม่น่าจะต้องผ่าตัดอ่ะค่ะ" ทั้งยังเปรยว่าไม่เครียด แต่ก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ "ไม่เครียด ถ้าถามว่าเป็นห่วงลูกไหม เป็นห่วง แต่ว่าเราก็ฟังจากคุณหมอแล้วก็พยาบาลแล้วด้วยแหละว่าของเราก็ไม่ถึงขั้นแบบว่า คือถ้าเกิดเด็กที่เป็นเยอะๆ เนี่ยจะหายใจทางปากอ้ากว้างมาก แล้วก็ซี่โครงตรงนี้จะยุบเยอะมาก แต่เราก็จะดูตลอดว่าโปรดไม่ได้ซี่โครงยุบขนาดนั้น ฉะนั้นก็ไม่น่าจะน่ากลัวขนาดนั้นน่ะค่ะรักษาได้"

คุณแม่คนสวยแง้มว่า โปรด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในขณะทำการทดสอบ "ให้ความร่วมมือดี เพราะว่าเราบอกก่อนว่าเราจะทำอะไร ถามว่าเขาอยากไปไหม เขาไม่อยากเข้าโรงพยาบาล เขาก็ไม่ชอบ เพราะว่าถ้าเข้าโรงพยาบาลเขาก็รู้ว่าต้องไปทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เขาก็ไม่ชอบ แต่ก็จะบอกเอารูปให้เขาดูว่าจะต้องทำแบบนี้ๆ นะ แต่เขาแค่ไม่ชอบตอนติดเทปเท่านั้นเอง เพราะว่ามันติดเยอะมาก ติดเต็มหัวเต็มหน้า แบบติดเยอะอ่ะค่ะ แล้วตอนดึงเทปมันจะเจ็บอ่ะค่ะ เขาจะไม่ชอบตรงนั้นแค่นั้นเอง คือรูปอาจจะดูน่ากลัว แต่ว่าจริงๆ คือวิธีการขั้นตอนไม่ได้น่ากลัวอย่างในรูปนะคะ" แล้วยังเอ่ยว่าอาการเหล่านี้มีโอกาสหายขาด แต่ถ้าสิ่งไหนทำให้หายได้เร็วก็อยากจะทำ "มีโอกาสค่ะ อย่างเด็กบางคนที่เป็นประมาณ 6 ขวบ 7 ขวบ มีหายไปเองก็มีค่ะ แต่ว่าในระหว่างนั้นเราก็ต้องดู ถ้าเกิดออกซิเจนในสมองขาดเยอะๆ ก็ไม่ดีเนอะ ก็ส่งผลต่อพัฒนาการ ถ้าเกิดอะไรที่สามารถหายได้เร็วได้เราก็อยากจะทำอ่ะค่ะ"


#เป้ยปานวาด