แบมแบม ให้แง่คิด ไล่ตามความฝันจนได้เป็นศิลปิน
SZ News
16 เม.ย. 60 20:00 น. /
ดู 4,630 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#got7 #แบมแบมกันต์พิมุกต์
"แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล" สมาชิกวงเกาหลี "ก๊อตเซเว่น" (GOT7) มาออกรายการ Today Show เผยไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะได้เป็นศิลปินแบบนี้ "ไม่เคยคิดครับ เป็นความฝันเฉยๆ ครับ ผมจะเริ่มชอบนักร้องเกาหลีพวกรุ่นพี่ ประมาณ 11 ขวบ ตอนนั้นคือเริ่มเต้น หลังจากนั้นคือเราต้องเป็นนักร้องเกาหลีให้ได้สักวัน เอาจริงๆ คือผมมีส่วนที่โชคดีด้วยที่ได้ไปออดิชันที่เจวายพี เริ่มจากเต้นก่อนครับ ไปงานแข่งเต้นของรุ่นพี่ที่ชื่อ เรน (Rain หรือ Jeong Ji Hun) แล้วได้ที่ 1 ครับผม จากนั้นเจวายพีก็เลยรู้จักเด็กคนหนึ่งคัฟเวอร์เรนชื่อแบมแบม เขาก็เลยเรียกผมไปออดิชันส่วนตัวครับผม หลังจากออดิชันเสร็จปุ๊บ เขาเรียกผมแล้ว แต่ผมยังเด็กอยู่ ผมก็เลยยังไม่อยากทิ้งเรื่องเรียน ก็เลยเดี๋ยวขอพักก่อนดีกว่า ยังไม่ได้ไปดีกว่า"
นักร้องหนุ่มไทยกล่าวต่อไปว่า "เสร็จแล้ว 3 ปีต่อมา ผมไปแข่งรายการ LG Entertainer แล้วทีนี้เจวายพีมาเห็นผมอีกรอบหนึ่ง เด็กคนนี้ 3 ปีแล้วโตขึ้น เขาก็เลยเรียกผมอีกที รอบนี้ไม่ต้องออดิชัน คือถ้าอยากมารอบนี้พร้อมไหม เขาเป็นค่ายเกาหลี เขาหาคนดีๆ ได้เยอะ แต่เขาเรียกผมถึง 2 รอบ แสดงว่าเขาคงเชื่อมั่นในความสามารถของผม เขาคงอยากจะปั้นผมจริงๆ ผมก็เลยยอมทิ้งเรียน ยอมหยุดทุกอย่างเอาไว้ก่อน ยอมจากครอบครัวไปอยู่เกาหลีครับผม" แบมแบม ย้อนความทรงจำกลับไปเมื่อตอนที่ไปเกาหลีว่า "ตอนแรกผมไป แค่นี้คงไม่ยากหรอก แต่ไปจริงๆ แล้วมันยากมาก อย่างแรกเลยคือเรื่องสื่อสาร ตอนแรกผมไปพูดอังกฤษก็ไม่ได้ พูดภาษาเกาหลีก็ไม่ได้ ไปเนี่ยเป็นเด็กสุดด้วยครับ คือมีเด็กนอกคนอื่นที่มาเทรนเหมือนผมด้วย วัฒนธรรมของเขาตอนแรกไปก็ไม่ชินสักเท่าไร เวลากินข้าวเป็นคนโตกินก่อน แต่ผมไม่รู้ ผมกินก่อนก็โดนเขาดุ"
ส่วนชีวิตตอนเป็นเด็กฝึกนั้น สมาชิกคนไทยหนึ่งเดียวในวงเล่าว่าทางค่ายจะจัดตารางเรียนเอาไว้ให้ "ตอนเป็นเด็กฝึกจะเริ่มประมาณ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มทุกวัน พักวันอาทิตย์วันเดียวครับ เขาจะมีจัดตารางเรียนให้ สมมติไปถึง 10 โมงเช้าปุ๊บ อาจจะซ้อม 2 ชั่วโมง พักกินข้าวเที่ยง บ่ายโมงเรียนภาษาเกาหลี 2 ชั่วโมง เสร็จแล้ว 4 โมงเย็นถึง 6 โมงเย็นก็จะเป็นเรียนเต้น 2 ทุ่มถึง 3 ทุ่มก็จะเป็นเรียนร้องเพลงครับผม ส่วนตอนที่ไม่มีช่วงเรียนเราก็ซ้อมของเราเอง อยู่อย่างนั้นประมาณ 3 ปีครับผม คือจริงๆ ร่างกายไม่ได้เหนื่อยมากตอนที่เป็นเทรนนี มันจะเหนื่อยเรื่องจิต ผมไม่รู้ว่าผมจะได้เดบิวต์เมื่อไร ผมทิ้งเรียนแล้ว จากครอบครัวมาแล้ว ถ้าเกิดเขา เอ่อ แบมคงไม่รอดแล้ว กลับไทยไปดีกว่า ผมต้องกลับไปเรียน ม.2 ใหม่ ต้องเริ่มชีวิตใหม่อีกรอบหนึ่งครับ"
หากมีเวลาว่างศิลปินหนุ่มคนนี้ก็อยากใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นปกติ "หลังจากเดบิวต์แล้วผมยังใส่รองเท้าแตะไปเดินตลาด ผมอยากใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นไทยบ้างบางทีครับ วัยรุ่นปกติครับ อยากไปเดินห้างบ้าง ไปเดินตลาด ถ้ามีเวลาว่างๆ อยากออกมาจากการเป็นนักร้องเกาหลีบ้าง แค่ 2 ชั่วโมงก็พอ ได้เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่ง" แบมแบม มองว่าเป็นเพราะการชื่นชอบศิลปินรุ่นพี่ ทำให้เขามาถึงจุดนี้ในชีวิตได้ "การเป็นติ่ง ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี หลายๆ คนอาจจะแบบ ติ่งทำไม ไร้สาระ เอาจริงๆ นะครับ ผมเป็นติ่งมาก่อน ผมก็เป็นติ่งพี่เรนเขามาก่อน แต่ว่าเพราะการเป็นติ่งนี่แหละครับที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ อยากขอบคุณทุกคนมากๆ เลยครับที่คอยสนับสนุน ตั้งแต่ต้นจนมาถึงจุดนี้ได้ ผมอยากขอบคุณทุกคนเลยครับ เพราะว่าถ้าเกิดไม่มีทุกคนคอยสนับสนุน พวกผมก๊อตเซเว่นไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้ด้วยตัวของตัวเอง อยากขอบคุณมากๆ นะครับ"
#แบมแบมกันต์พิมุกต์ #got7
ส่วนชีวิตตอนเป็นเด็กฝึกนั้น สมาชิกคนไทยหนึ่งเดียวในวงเล่าว่าทางค่ายจะจัดตารางเรียนเอาไว้ให้ "ตอนเป็นเด็กฝึกจะเริ่มประมาณ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มทุกวัน พักวันอาทิตย์วันเดียวครับ เขาจะมีจัดตารางเรียนให้ สมมติไปถึง 10 โมงเช้าปุ๊บ อาจจะซ้อม 2 ชั่วโมง พักกินข้าวเที่ยง บ่ายโมงเรียนภาษาเกาหลี 2 ชั่วโมง เสร็จแล้ว 4 โมงเย็นถึง 6 โมงเย็นก็จะเป็นเรียนเต้น 2 ทุ่มถึง 3 ทุ่มก็จะเป็นเรียนร้องเพลงครับผม ส่วนตอนที่ไม่มีช่วงเรียนเราก็ซ้อมของเราเอง อยู่อย่างนั้นประมาณ 3 ปีครับผม คือจริงๆ ร่างกายไม่ได้เหนื่อยมากตอนที่เป็นเทรนนี มันจะเหนื่อยเรื่องจิต ผมไม่รู้ว่าผมจะได้เดบิวต์เมื่อไร ผมทิ้งเรียนแล้ว จากครอบครัวมาแล้ว ถ้าเกิดเขา เอ่อ แบมคงไม่รอดแล้ว กลับไทยไปดีกว่า ผมต้องกลับไปเรียน ม.2 ใหม่ ต้องเริ่มชีวิตใหม่อีกรอบหนึ่งครับ"
หากมีเวลาว่างศิลปินหนุ่มคนนี้ก็อยากใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นปกติ "หลังจากเดบิวต์แล้วผมยังใส่รองเท้าแตะไปเดินตลาด ผมอยากใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นไทยบ้างบางทีครับ วัยรุ่นปกติครับ อยากไปเดินห้างบ้าง ไปเดินตลาด ถ้ามีเวลาว่างๆ อยากออกมาจากการเป็นนักร้องเกาหลีบ้าง แค่ 2 ชั่วโมงก็พอ ได้เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่ง" แบมแบม มองว่าเป็นเพราะการชื่นชอบศิลปินรุ่นพี่ ทำให้เขามาถึงจุดนี้ในชีวิตได้ "การเป็นติ่ง ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี หลายๆ คนอาจจะแบบ ติ่งทำไม ไร้สาระ เอาจริงๆ นะครับ ผมเป็นติ่งมาก่อน ผมก็เป็นติ่งพี่เรนเขามาก่อน แต่ว่าเพราะการเป็นติ่งนี่แหละครับที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ อยากขอบคุณทุกคนมากๆ เลยครับที่คอยสนับสนุน ตั้งแต่ต้นจนมาถึงจุดนี้ได้ ผมอยากขอบคุณทุกคนเลยครับ เพราะว่าถ้าเกิดไม่มีทุกคนคอยสนับสนุน พวกผมก๊อตเซเว่นไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้ด้วยตัวของตัวเอง อยากขอบคุณมากๆ นะครับ"
#แบมแบมกันต์พิมุกต์ #got7
แก้ไขล่าสุด 14 ก.ค. 64 20:26 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google