หิวบ่อยกินไม่อิ่ม หิวบ่อยเกินไป ปัญหาใหญ่ของการลดน้ำหนัก ทำยังไงดี

9 มิ.ย. 60 11:53 น. / ดู 1,380 ครั้ง / 6 ความเห็น / 1 ชอบจัง / แชร์

หิวบ่อยกินไม่อิ่ม หิวบ่อยเกินไป ปัญหาใหญ่ของการลดน้ำหนัก ทำยังไงดี
หิวบ่อยกินไม่อิ่ม หิวบ่อยเกินไป ปัญหาใหญ่ของการลดน้ำหนัก ทำยังไงดี สาวๆ ที่ประสบปัญหากับน้ำหนักส่วนเกิน ร้อยละร้อยย่อมต้องการที่จะลดน้ำหนักให้ได้ เพราะความอ้วนนั้นเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต แต่งตัวก็ไม่สวย หรือแม้แต่จะมั่นหน้าแต่งกระหน่ำเข้าไป ก็ไม่วายเจอคำค่อนแคะว่าอ้วนแล้วยังอยากแต่งตัว มีแต่ความช้ำใจ ทำให้ฮึดอยากลดน้ำหนัก แล้วสักวันฉันจะสวยให้ดู!

แต่ อยากสวยก็อยากสวย แต่ปากนี่สิ ไม่ค่อยสนับสนุนความต้องการของใจเลย จะกินทำไมนัก ทั้งที่รู้ว่ากินแล้วอ้วนแต่ก็อดปากไม่ได้ เพราะความหิวเป็นเหตุ จะมีอะไรมั้ยที่จะช่วยให้ยับยั้ง “โรคหิวบ่อย” ได้อย่างราบคาบ อยากรู้ ๆ

เอาเป็นว่า เรามาค้นหากันดีกว่าว่า แม้ใจจะพยายามบอกใจว่า “อย่าอยากกิน” แต่กลับเหมือนมีอะไรมายุให้เรารู้สึกอยากกินไม่รู้จบ อะไรที่ว่านั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้เราลดน้ำหนักไม่ลงเสียที มาดูกันดีกว่าว่า มันคืออะไรกันแน่


เครื่องดื่มบางประเภท

วิถีชีวิตของคนยุคใหม่ ถูกกระตุ้นด้วยเครื่องดื่มสารพัด ตั้งแต่น้ำอัดลม, ชา-กาแฟ ที่ยุคนี้มีร้านผุดขึ้นแทบจะทุกมุมที่เดินผ่าน หาซื้อง่าย ตั้งแต่ราคาเบาๆ จนถึงราคาแพงลิบลิ่วที่ดื่มเอารสนิยม เจ้าเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันเหล่านี้นี่แหละ ยิ่งมีสูตรเฉพาะ ยิ่งหนักตัวกระตุ้น เพราะเปี่ยมด้วยรสหวาน ที่มี Corn Syrup ในปริมาณมาก ซึ่งเจ้าเครื่องดื่มพวกนี้นี่เองที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปปิดกั้นการส่งฮอร์โมนที่ทำหน้าที่สั่งสมองว่าเราอิ่มแล้ว เราพอแล้ว เพราะมันไม่ทำหน้าที่ ไม่สั่งการ คุณเลยไม่สัมผัสกับคำว่าอิ่มเสียที ต้องหากินต่อไปเรื่อยๆ



อาหารกระป๋อง

ความเป็นอยู่ง่ายๆ ทำให้บ่อยครั้งที่เราต้องพึ่งพาอาหารกระป๋องแทนอาหารสดที่ปรุงขึ้นเอง และอาหารกระป๋องนี่เอง ส่วนมากที่แทบจะเป็นส่วนใหญ่เสียด้วยที่มีสารเคมีที่ชื่อว่า Bisphenol-A หรือ BPA อยู่ในปริมาณมาก สารเคมีเหล่านี้นี่เองที่เป็นตัวกระตุ้นอันดับต้นๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และนั่นหมายถึงโอกาสที่ทำให้คุณอ้วนจนลดน้ำหนักไม่ลง



อาหารเช้าที่มีปริมาณไม่เพียงพอ

นี่คือหนึ่งของความเข้าใจผิดของคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินและอยากลดน้ำหนัก เพราะคิดว่า การกินน้อยๆ จะทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็วขึ้น และเลือกที่จะลดปริมาณอาหารมื้อเช้าลงไป แต่ความเป็นจริงแล้ว นักวิจัยมีการค้นพบ หลังจากการวิจัยโดยใช้คนถึง 6,764 คนและเวลามากกว่า 4 ปีในการทดลอง ซึ่งผลการค้นพบนั้นน่าตกใจอยู่เหมือนกัน กล่าวคือ คนที่กินข้าวเช้าที่ให้แคลอรี่เพียง 300 แคลอรี่กลับมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าคนที่กินข้าวเช้าที่ให้แคลอรี่ 500 แคลอรี่ เหตุผลก็เพราะอาหารเช้าไม่ได้มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แต่กลับช่วยให้มีการหลั่งของอินซูลินสามารถทำงานได้ดีตลอดวัน ซึ่งการที่อินซูลินหลั่งได้ดีนั้นทำให้คุณไม่อยากรับประทานอาหาร รู้อย่างนี้แล้ว ปรับปริมาณการรับประทานอาหารมื้อเช้าดีกว่า อย่ากินน้อยจนรู้สึกหิวมากแล้วไปรับประทานอาหารมื้ออื่นมากเกินไป



การไม่กินผักมีผลจริงๆ

โทษของการกินผักน้อยเกินไป หรือไม่กินผักนั้น แม้ไม่ใช่นักโภชนาการก็น่าจะพอรู้อยู่บ้างว่า มีผลเสียต่อระบบการย่อย ตลอดจนระบบขับถ่ายแน่นอน เนื่องจากผักนั้นมีไฟเบอร์สูง และที่ควรรู้มากขึ้นไปอีกก็คือผักโดยเฉพาะผักใบเขียวจะมีโฟเลทสูงที่ช่วยให้คุณไม่เป็นโรคซึมเศร้า, หลีกห่างจากความเมื่อยล้า และยังช่วยลดน้ำหนักอีก เหตุผลก็เพราะคนที่มีโฟเลทในร่างกายสูงมากๆ จะทำให้ขีดความสามารถในการลดน้ำหนักดีกว่าคนที่มีโฟเลทในร่างกายน้อยถึง 8.5 เท่าเลยทีเดียว คำอธิบายในเรื่องนี้ก็คือ ถ้าคนที่กินผักน้อยมีโฟเลทในร่างกายน้อยสามารถลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม คนที่กินผักมากๆ มีโฟเลทในร่างกายมากจะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 8.5 กิโลกรัมเลยทีเดียว นับเป็นสถิติที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆ

แค่กินผักให้มากขึ้นเท่านั้นแต่ได้ผลน่าพึงพอใจมาก นอกจากนั้นผักใบเขียวที่เรากินเข้าไปยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีก เช่น ในผักมีวิตามินเคสูง เป็นวิตามินที่ช่วยควบคุมการหลั่งของอินซูลินได้ดี ช่วยไม่ให้คุณรู้สึกหิวง่ายๆ เมื่อไม่หิว ก็ไม่อยากกิน ทำให้ลดปริมาณอาหารได้ง่ายนั่นเอง ผักใบเขียวที่แนะนำว่าควรกินให้มากขึ้นก็เช่น ผักกาดหอม ซึ่งรับประทานง่าย ผักขม ที่ระยะหลังมีคนนิยมนำมาปรุงอาหารมากขึ้น เป็นต้น



น้ำชาสักแก้วมั้ย

น้ำชาในที่นี้ หมายถึง “ชาดำ” การดื่มที่ถูกต้องสามารถลดความอยากอาหารและน้ำหนักลดลงได้ วิธีคือ ให้ดื่มชาดำหลังอาหารมื้อหลัก เพราะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 10% ภายในครึ่งชั่วโมง และทำให้รู้สึกอิ่มได้ต่อเนื่องอีกนานด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเป็นชาดำที่ชงเองเท่านั้นและห้ามเติมน้ำตาลเด็ดขาด



ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ

โดยปกติร่างกายของคนเราจะเรียกร้องน้ำดื่มสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร แต่ก็มีบางคนละเลยการดื่มในปริมาณดังกล่าว โดยที่ขาดความรู้ว่า การดื่มน้ำไม่เพียงพอนั้นส่งผลให้รู้สึกหิวในระหว่างวันได้ ผิดกับคนที่รู้จักดื่มน้ำบ่อยๆ หรือดื่มเมื่อรู้สึกหิวกระหาย หรือก่อนรับประทานอาหารลองดื่มน้ำสักแก้วแบบเต็มๆ จะช่วยให้ความหิวนั้นหายไป ข้อควรระวังคือ ไม่ควรดื่มมากเกินไป จนทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง เพราะหากรับประทานอาหารต่อจากนั้นจะทำให้มีปัญหาในการย่อยอาหารซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพโดยรวม



ความรู้สึกมีผลต่อความหิว

แม้ว่าความหิวจะเป็นปฏิกิริยาตอบรับของร่างกายเมื่อต้องการอาหารประจำมื้อ แต่จากงานวิจัยมีการพบว่า อารมณ์บางอย่างก็มีผลต่อความหิวเช่นกัน เช่น คนที่มีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ทำให้เกิดความหิวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ สิ่งที่คุณต้องแก้ไขเพื่อไม่ให้อารมณ์ส่งผลให้เกิดหิวที่ไม่ต้องการก็คือ คุณต้องรู้จักหาอะไรทำในระหว่างวัน เพื่อฆ่าเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือการหากิจกรรมอื่นทำอย่างที่ชอบ เพื่อจะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ คนที่ว่างมากเกินไปมีโอกาสที่จะคิดฟุ้งซ่านได้ง่ายกว่าคนที่มีกิจกรรมทำตลอดเวลา ดังนั้น ให้หางานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข แม้แต่การเดินห้าง ดูสินค้า การอ่านหนังสือ ก็ช่วยไม่ให้คุณนึกถึงความหิวได้

เมื่อรู้แล้วว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกหิวง่าย หิวบ่อยเกินไปจนเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมน้ำหนักแล้ว ให้คุณรู้เท่าทัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว จะได้สมหวังในการลดน้ำหนักเสียที

พึงตระหนักว่า การลดน้ำหนักที่ดีและได้ผลจริงไม่จำเป็นต้องอดอาหารเสมอไป ขอให้รู้จักโภชนาการที่ถูกต้อง สร้างเสริมกิจกรรมที่เหมาะ หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นที่ทำให้คุณแก้นิสัยกินจุกจิกไม่ได้เสีย ถ้าจะทานน้อยลงก็ต้องเป็นน้อยแต่คุณค่าอาหารสูงเพียงพอ นั่นคือรู้จักเลือกทานเฉพาะสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่มีพลังงานส่วนเกิน พร้อมกับรู้จักออกกำลังกายไปคู่กัน แล้วหุ่นสวยๆ ฟิตแอนด์เฟิร์มจะเป็นของคุณอย่างที่ตั้งใจ พร้อมสุขภาพจิตที่ดีเพราะไม่ต้องหงุดหงิดจากการหิวพร่ำเพรื่อฃ

และนี่คือสาระดีที่เรานำมาฝากกันครับ เราจะมีสาระดีๆ แบบนี้มาฝากบ่อย ๆ หรือเข้าดูได้เลยที่เว็บไซต์ของเราด้านล่างครับ

ทางเข้าหน้าเว็บไซต์    thaifit
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | sz391849 | 12 มิ.ย. 60 12:47 น.

8o     

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

#3 | BoBam | 7 ส.ค. 60 15:28 น.

นี่ๆมีอาหารเสริมตัวนึง ช่วยได้ มันทำให้ท้องอิ่มไว ตอนแรกก็ไม่เชื่อจนไปหาซื้อมาทาน Blackmores FULFIL ลดการกินจุกจิกเลยอ่ะ ปลอดภัยน๊า ไม่เป็นอันตราย แต่ ต้องออกกำลังกายด้วยนะ ไม่ใช่กินตัวนี้แล้วก็ไม่ออกกำลังกายเลย มันก็อ้วนเหมือนเดิมนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#5 | sz401547 | 23 ส.ค. 60 10:20 น.

ลองทานพวกธัญพืชดูสิคะ เราสั่งผ่านเว็บน่ะ  www.flowerfoodth.com สะดวกด้วย ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ

แก้ไขล่าสุด 23 ส.ค. 60 10:20 | ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#6 | humangirl | 20 ธ.ค. 60 00:21 น.

เราเป็นคนหุ่นดีคนหนึ่งที่กินเก่งมากค่ะ แต่ยิ่งกินเก่งก็ยิ่งต้องออกกำลังกายให้หนัก ใครๆชอบบอกว่า ตัวเล็กแค่นี้กินเก่งจัง แต่เราออกกำลังกายหนักมากเพื่อเอาออก มีเคล็ดลับอีกอย่างคือ เรากินอาหารเสริมโอจิลินเพื่อบล็อกแป้งที่กินเข้าไปและดักจับไขมันค่ะ ได้ผลดีเลย

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 8.1

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google