เตรียมสายวัด! ขนาดสำคัญต้องรู้ ก่อนออกแบบห้องครัว

17 ส.ค. 60 11:13 น. / ดู 1,230 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
เตรียมสายวัด! ขนาดสำคัญต้องรู้ ก่อนออกแบบห้องครัว

      ไม่ว่าคุณจะกำลังย้ายเข้าบ้านใหม่ ห้องครัวใหม่ หรือ คุณกำลังอยาก รีโนเวทห้องครัว ก่อนที่จะเริ่มลงมือ เราต้องมาทำความเข้าใจถึง ระยะห่างและการวางตำแหน่งของในห้องครัวเพื่อที่จะได้ช่วยให้การเคลื่อนตัว หรือใช้งานในห้องครัวนั้นเป็นไปได้อย่างง่าย และมีประสิทธิภาพ
      ห้องครัวเป็นห้องสำคัญอีกห้องหนึ่งในบ้าน ทั้งเก็บอาหารและอุปกรณ์ครัวต่างๆ และยังเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารและก็ทำความสะอาด และแน่นอน เป็นที่ทำอาหารและทำขนมด้วย การทำงานเหล่านี้ในครัว หากจัดวางอย่างมีระบบและตามเหตุผลการใช้งานได้อย่างดี ก็จะทำให้การใช้งานในห้องครัวได้ดีและสะดวกมากขึ้น  มาดูกันว่าการจัดตั้งห้องครัวในแบบอุดมคติทำอย่างไร



      ตามหลักแล้ว ตู้เย็นและที่เก็บอาหารแห้งควรที่จะอยู่ใกล้กับจุดทางเข้าของห้องครัวที่สุด ส่วนพื้นที่ในการประกอบอาหารควรที่จะอยู่ตรงทิศทางสู่พื้นที่โต๊ะทานข้าว และซิ้งก์ล้างก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดหากได้อยู่ระหว่าง 2 พื้นที่ที่กล่าวมา ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เกิด การทำงานสามเหลี่ยม (work triangle) และ การทำงานสามเหลี่ยมสามจุดนี้จะดีที่สุดหากวางระยะห่างจากแต่ละจุดรวมกันน้อยกว่า 6.4 เมตร เพราะหากระยะห่างรวมกันเกินกว่า 7.9 เมตร ส่วนใหญ่จะทำให้การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปใช้งานอีกจุดหนึ่งลำบาก 


      ดูตัวอย่างจากภาพที่แสดงถึงการจัดวางของและระยะห่างต่างๆในห้องครัวขนาดกลาง สำหรับพื้นที่วางของในภาพถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งข้างซิ้งก์และมุมห้อง มาดูสามส่วน สามจุดของ work triangle ที่เป็นพื้นที่การใช้งานหลักๆในห้องครัวกัน

1. ส่วนที่เก็บของ

2. ส่วนที่เตรียมอาหาร

3. ส่วนที่ทำอาหาร


      ก่อนอื่น ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความชอบที่แตกต่าง และการใช้งานที่ดีที่สุดก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ดังนั้น พิจารณาข้อแนะนำเหล่านี้เป็นเพียงแนวทาง ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำตามนะคะ


      ที่เก็บของ อย่างที่กล่าวไปแล้ว ว่านักออกแบบแนะนำให้วางตู้เย็น และที่เก็บอาหารแห้งในจุดทางเข้าของห้องครัว วางตู้เก็บของไว้ข้างตู้เย็นด้านหนึ่งของตู้เย็น และวางเคาน์เตอร์ว่างๆสัก 38-61 เซนติเมตร(15-24 นิ้ว)อีกด้านหนึ่งเป็นไอเดียที่ดี เพราะจะช่วยให้คุณมีพื้นที่ว่างสำหรับวางสิ่งของที่คุณหยิบออกมาจากตู้เย็นหรือตู้เก็บอาหารต่างๆได้ 

      ตู้เก็บของนั้นสามารถเก็บได้ทั้งเครื่องปรุง อาหารแห้ง หรือของอย่างกระดาษทิชชู่ ใช้ลิ้นชักเก็บถุงพลาสติก กระดาษฟอย หรือ ทัพเพอร์แวร์ ในขณะที่ตู้ลอยวางของด้านบนก็อาจวางชามใหญ่ๆ อย่างชามตีแป้ง ชามสลัด หรือ อุปกรณ์ต่างๆที่ช่วยในการเตรียมอาหาร


      เตรียมอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร จะดีที่สุดหากวางไว้รอบซิ้งก์ รวมถึงถังขยะที่ควรอยู่ในรัศมีนี้เช่นกัน แต่อย่าลืมที่จะเว้นพื้นที่ว่างๆ สักด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านของซิ้งก์ที่ประมาณ 45 - 92 เซนติเมตร (18-36 นิ้ว)

      และพื้นที่เตรียมอาหารนี้ก็ไม่ควรที่จะมีของเกะกะวาง เพราะพื้นที่ตรงนี้คุณจะต้องวางทั้ง เขียง ชามใหญ่ๆ ในการเตรียมอาหาร หากห้องครัวคุณเล็กคุณควรที่จะมีพื้นที่เตรียมอาหารอย่างน้อย สัก 92 เซนติเมตร (36นิ้ว) หากว่าห้องครัวคุณมีพื้นที่มาก พื้นที่เตรียมอาหารก็ยิ่งมีได้มากขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่เคาน์เตอร์แบบไอแลนด์ แบบเป็นเกาะกลางนั้นได้รับความนิยม เพราะว่า ทำให้มีพื้นที่มีจะเตรียมอาหารได้ง่ายมากขึ้น



      ทำอาหาร พื้นที่ส่วนนี้ควรมีการรวมตัวกันของอุปกรณ์ทำอาหารใกล้กัน เช่น เตา ตู้อบ วางกระทะ หม้อ และกระดานอบในบริเวณใกล้เคียง  และมันก็เป็นไอเดียที่ดีในการวางของใช้เล็กๆอย่าง เครื่องชงกาแฟ ตู้อบขนาดย่อมบริเวณนี้ด้วย

      ถ้าเป็นไปได้ เว้นพื้นที่เคาน์เตอร์เอาไว้กว้างสัก 53-92 เซนติเมตร (21-36 นิ้ว) ด้านหนึ่งของเตา และหากห้องครัวของคุณมีเตาอบแบบฝังผนัง คุณควรเว้นพื้นที่เคาน์เตอร์ว่างๆข้างเตาอบเลย เพื่อที่จะวางของร้อนๆที่มาจากเตาได้ทันที และวางเครื่องปรุง หม้อ ในลิ้นชักใกล้ๆ และอุปกรณ์เสิร์ฟทั้งหลายในทิศทางที่หันเข้ากับโต๊ะทานข้าว


ระยะพื้นที่แนะนำสำหรับอุปกรณต่างๆในครัว

      ตู้เย็น ความกว้างแนะนำที่ 92 เซนติเมตร (36 นิ้ว) ปัญหาคือเรื่องของความลึก ในช่วงที่ผ่านมา ตู้เย็นบางยี่ห้อ บางรุ่น อาจจะมีความลึกได้มากกว่า 61 เซนติเมตร (24 นิ้ว) ซึ่งอาจจะเกินออกมาจากเคาน์เตอร์หรือตู้เก็บของทั่วไป คุณอาจจะเลือกซื้อที่มีความลึกน้อยกว่า แต่ก็ต้องใส่ใจในเรื่องของระยะห่างให้ดี อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับ การตั้งห่างจากกำแพง วัดระยะให้ดี คุณอาจจะซื้อแบบ built-in มาได้ แต่ก็อาจจะมีราคาที่สูงเช่นกัน และอย่าลืมคำนึงถึงบานประตูของตู้เย็นที่สวิงเปิดว่าติดอะไรหรือไม่


      ในรูปภาพ คุณจะเห็นว่าความสูงของการวางตู้ด้านบนนั้นมีความสำคัญในการออกแบบใช้งานไม่น้อย  หากคุณมีตู้วางด้านบน โดยปกติจะตั้งให้สูงห่างจากเคาน์เตอร์หรือตู้ด้านล่างที่ 46 เซนติเมตร (18 นิ้ว)ในความสูงของตู้ลอยที่ประมณ 76 -107 เซนติเมตร (30-42 นิ้ว)

      คำนวณว่า คุณมีความสามารถในการเอื้อมหยิบของในตู้ได้สูงสุดที่ค่าเฉลี่ยคือ 178 -203 เซนติเมตร (70-80 นิ้ว) จากพื้น ตู้ลอยที่วางสูงเกินกว่า 2.10 เมตร นั้นต้องใช้บันไดเล็กในการหยิบของที่ชั้นสูงสุด หรือหากสูงกว่า 2.4 เมตรก็ไม่สามารถที่จะใช้งานได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะเก็บไว้เป็นชั้นวางของประดับก็ได้ สำหรับตู้เคาน์เตอร์ทั่วไปด้านล่างมีค่าระยะวัดปกติที่ ความลึก 61 เซนติเมตร (24 นิ้ว) และสูงที่ 92 เซนติเมตร (36 นิ้ว) ขึ้นอยู่กับความสูงเฉลี่ยของคนในบ้านที่ใช้งาน เคาน์เตอร์อาจจะต่ำกว่าหรือสูงกว่าได้ ที่ประมาณ 85-97 เซนติเมตร 

      อีกหนึ่งระยะวัดที่ควรคำนึงถึงนั้นคือ ความห่างระหว่างเคาน์เตอร์และตู้ต่างๆ สำหรับทางเข้าของห้องครัว หากว่าห้องครัวมีเคาน์เตอร์และตู้วางเพียงด้านเดียว ทางเข้าอาจจะกว้างน้อยได้ถึง 92 เซนติเมตร (36 นิ้ว) และควรเว้นระยะห่างระหว่างตู้ที่หันหน้าเข้าหากันอย่างน้อยที่สุดที่ 107 เซนติเมตร (42 นิ้ว) หรือจะดีกว่านั้นคือ 122 เซนติเมตร (48 นิ้ว) ตามปกติถ้าเกินกว่า 152 เซนติเมตรอาจจะกว้างเกินไปหน่อย แต่ถ้าห้องครัวของคุณเป็นรูปทรงตัว U คุณอาจจะเว้นห่างได้มากถึง 244 เซนติเมตร (96 นิ้ว)

      เอาเป็นว่าใครที่กำลัง มองหาระยะให้การออกแบบ วางของต่างๆในห้องครัว หวังว่าจะได้แนวทางไปปรับใช้กันได้บ้างนะคะ ขอให้สนุกกับห้องครัวใหม่ เร็วๆนี้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.thaihomeonline.com/article/tips-home/12217/
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 8.1

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google