เผยชีวิตครอบครัว โจอี้ บาซู เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว

16 ก.ย. 60 14:35 น. / ดู 958 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
"โจอี้ - สุรเดช ทับทิมใส" หรือ "โจอี้ บาซู" ได้พลิกผันจากการเป็นศิลปินนักร้อง มาเป็นนักธุรกิจ โดยเขาเปิดใจในรายการ "คุยเช้า Show" ถึงชีวิตครอบครัวว่าตัวเองเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง ส่วนภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว
ทำงานอะไรอยู่
"(ยิ้ม) ผมเป็นประธานบอร์ดเซาท์อีสเอเชียของบริษัทที่เกาหลีครับ ก็พัฒนาซอฟต์แวร์อยู่ที่โน่น ดูแล 57 ประเทศ บินไปกลับเมืองไทยตลอด ทำงานมา 12 ปีแล้วครับ เอาจริงๆ เราไม่ได้ชื่นชอบอะไร เพราะเราไม่ได้เรียนทางด้านวิศวะมา แต่ว่าเราไปเกิดไอเดียตรงโปรดักต์ที่เขาเอามาพรีเซนต์เราตอนแรก ด้วยอาชีพที่ผมเคยทำแต่ก่อน ก็คืองานอีเวนต์ คราวนี้เราก็คิดว่ามันน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ เลยเอานั่งคุยกัน และศึกษากันมาตลอด"

มีลูก 5 คนจริงเหรอ
"ใช่ครับ เป็นลูกบุญธรรม 4 คน และลูกตัวเอง 1 คน อายุ 18 แล้วครับ ชื่อน้องณัชชา ซึ่งแต่ละคนจะมีที่มาแตกต่างกันไป"

สาเหตุที่รับอุปการะเด็ก 4 คน มาจากอะไร
"มันเริ่มจากความเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน เรารู้จักกัน แล้วบางทีน้องๆ ที่มีปัญหาครอบครัว เราไม่รู้จะช่วยยังไง เลยช่วยได้เท่านี้ ผมไปเซ็นเป็นพ่อ อุ้มออกมาจากโรงพยาบาลเลย ถูกต้องตามกฎหมาย"

ลูกสาวคนโตไปมีตอนไหน
"ผมมีก่อนเป็นบาซูอีก จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่เคยปิด แต่ไม่มีใครเคยถามเลย เพราะไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันตลอด แฟนคลับที่สนิทก็รู้ ถามว่าหวงลูกสาวไหม ก็หวงในสิ่งที่อยู่ในกรอบ ถ้านอกกรอบเราก็จะสอนให้รู้วิธีว่าจะรับผิดชอบยังไง"

ลูกสาวคนโตรู้สึกอย่างไรกับการมีน้องๆ บุญธรรมมาอีก 4 คน
"สิ่งสำคัญคือเราสอนเขาตั้งแต่เด็ก ในเรื่องที่ควรจะมี นั่นก็คือจิตสำนึกที่ดีที่ควรจะมี ถ้ามีในส่วนนี้คุณจะลืมเรื่องที่เป็นลบทั้งหมด ผมไม่อยากให้เขามาเป็นเหมือนเรา เราอาจจะมีปมเล็กๆ ในวัยเด็ก อาจจะเป็นเรื่องผิว เรื่องความกำพร้า ถามว่าคิดจะตามหาพ่อไหม มันไม่มีผล เพราะการตามหามันมีแค่ 2 คำ ซึ่งถ้าเป็นวัฒนธรรมไทย เราไม่มีตรงนี้ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ เขาจะถามกลับมาเลยว่า So What? แล้วยังไง เจอแล้วทำยังไงเหรอ"

อุปการะลูกคนที่ 2 แล้ว แล้วอีก 3 คนล่ะ เริ่มจากจุดไหน
"หนึ่งคือความต้องการที่เขาขาด นั่นคือเราไปเติมให้เขา เราไปเติมตรงที่เขาขาดมากกว่า ฉะนั้นจะทำยังไงในสิ่งที่เราเติมให้เขาได้ ในจุดที่เขาขาดหายไป เหมือนที่เราเคยเป็น"

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน
"มันไม่นิ่งหรอกครับ บางคนอยู่ต่างจังหวัด บางคนอยู่กรุงเทพฯ"

สูญเสียภรรยาเมื่อปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้น
"เป็นโรคประจำตัว โรคหัวใจครับ ความจริงเขาเป็นมานานแล้ว เราทำบริษัทที่เกี่ยวกับอาหารเสริม คอสเมติก ทำสบู่ แล้วแฟนผมเป็นคนดูแล การที่เราทำพวกโรงงานหรือผลิตแบบนี้ มันจะต้องมีการเทสต์สินค้า ลูกค้ามีเป็นร้อยเจ้า แฟนผมเขาจะเป็นคนที่ลองเทสต์เอง ที่จริงเรามีฝ่ายเทสต์ ฝ่ายดูแล แต่ด้วยความที่เขาจะต้องเอารายละเอียดไปคุยกับลูกค้า เขาจะต้องเป็นคนเทสต์เอง เราจะพลาดไม่ได้เลย"

ตอนที่ภรรยาเริ่มป่วย เริ่มไปหาหมอ จนสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันนานไหม
"ช่วงแรกๆ ไปๆ กลับๆ เพราะว่าเราต้องไปเช็กร่างกายต่อเนื่อง พอสุดท้ายเขาไป เขาก็ไปเลยกระทันหัน หัวใจหยุดเต้น ผมก็อยู่ คุณหมอก็พยายามช่วย ปั๊มหัวใจแล้วฟื้นมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็ได้มีโอกาสคุยกันจนถึงวินาทีสุดท้าย"

คิดไหมว่านี่อาจจะเป็นช่วงเวลานาทีสุดท้าย
"เราก็พยายามให้กำลังใจให้เขาอดทนสู้นะ สิ่งที่เขาพูดกับเราก็คือฝากดูแลลูก ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำยังไง"

หยุดการทำงานไป 2 เดือน
"ครับ มันนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะทำอะไรต่อ แล้วมันมีมรสุมทุกอย่างตามมา พอไม่มีเขาอยู่ดูบริษัทแล้ว ลูกค้าก็เปลี่ยนพฤติกรรม ชิ่งออกไปเป็นร้อย แล้วเรื่องประกันยิบย่อยอีกเยอะ"

แล้วตอนนี้บริษัทยังอยู่ไหม
"ยังอยู่ครับ ผมดึงกลับมาแล้วมาทำเอง"

#โจอี้สุรเดช
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | inNightTime | 20 ก.ย. 60 15:59 น.

สุดยอดดดด

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google