เจาะลึกตัวตน 2 สาวตัวแทนประเทศไทย เข้าแข่งขันในรายการดังระดับโลก “Bolt of Talent”

2 ต.ค. 60 16:05 น. / ดู 477 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
เจาะลึกตัวตน 2 สาวตัวแทนประเทศไทย เข้าแข่งขันในรายการดังระดับโลก “Bolt of Talent”
ถือว่าเป็นรายการแข่งขันระดับโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับ “Bolt of Talent” รายการที่เฟ้นหานักร้องหน้าใหม่  ซึ่งผู้ชนะจะมีโอกาสทำซิงเกิ้ลเพลงเป็นของตัวเอง พร้อมได้ร่วมทัวร์คอนเสิร์ตไปกับ      ไมเคิล โบลตัน ซึ่งครั้งนี้ผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นไปกับตัวแทน 8 คนสุดท้าย จาก 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน และ ไทย โดยงานนี้ 2 สาวมายด์-นวินดา สิทธิ์ธะติกานต์เวช และ เพจ-จุฑารัตน์ มังคลารังศรี ตัวแทนจากประเทศไทย แถมยังได้เจ้าหญิง R&B อย่าง ลิเดียศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา มารับหน้าที่เป็นโค้ชจะมาช่วยให้คำแนะนำทุกขั้นตอน ซึ่งงานนี้ดาราเดลี่ ออนไลน์ ไม่รอช้ารีบคว้าตัว 2 สาวเก่งมาพูดคุยให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนของเค้าให้มากขึ้น

นวินดา สิทธิ์ธะติกานต์เวช (มาย์ด) ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทย
นักวิเคราะห์การตลาด เรียนร้องเพลงตั่งแต่เด็ก เธอทำตามความฝันของแม่ที่รักในการร้องเพลง เธอชอบความสมบูรณ์แบบ เธอจะฝึกร้องเพลงตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนอาบน้ำ ด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังของเธอ แนวเพลงที่เธอถนัดคือ  Soul และ R&B โดยได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก  Whitney Houston และเธอพร้อมแล้วที่จะมาแสดงพลังเสียงให้ทุกคนได้ฟัง
ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าเราได้เข้ามาร่วมรายการ
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเราจะเข้ารอบมาเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยนึกว่าตัวเองเข้ามาแค่รอบแรกและต้องเข้าไปออดิชั่นอีกหลายๆรอบคิดแบบนี้จริงๆ ตอนนั้นก็รู้สึกดีใจและคิดว่าเป็นความฝันมันเป็นเรื่องจริงหรอไม่เชื่อว่าตัวเองจะได้ เพราะรายการนี้เป็นรายการที่ใหญ่และอินเตอร์ที่สำคัญมายไม่เคยไปออดิชั่นรายการที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
เคยไปออดิชั่นที่อื่นไหม
เคยค่ะ รายการในไทยแต่เราก็เข้ารอบที่ไม่ลึกมากอย่างที่บอกพอเข้าไปรอบกลางๆเราก็ไม่ได้ไปต่อ
รู้ได้ไงว่ารายการจะมาเปิดการแข่นขันที่ประเทศไทย
มีเพื่อนส่งไลน์แชทมา เป็นการส่งต่อให้เพื่อนๆในวงการร้องเพลงเราก็เลยลองดู
จุดแข็งในตัวเราที่ทำให้เขาเลือก
มายด์ว่าน่าจะเป็นเสียงร้อง เพราะตัวเองมีเสียง ยูนีส์ เป็นสไตล์การร้องที่คนไทยไม่ค่อยเจอรูปแบบการร้องแบบนี้ และการที่เราร้องเพลงภาษาอังกฤษเลยทำให้รู้สึกว่าเราน่าจะได้จากส่วนนี้
ครั้งที่เจอ ไมเคิล โบลตัน รู้สึกอย่างไรบ้าง
ตื่นเต้นและก็นึกว่าไม่ใช่ตัวจริง เหมือนเขาเดินมาเซอร์ไพรส์เรามายด์ก็มองแปนึง และคิดในจริงว่าใช่หรอไม่คิดว่าเขาจะมาเมืองไทยตอนนั้นก็กรี๊ดเลยดีใจมากทำอะไรไม่ถูก
ไมเคิล โบลตัน มีแนะนำอะไรเราบ้าง
มีค่ะ เยอะเลยเรื่องการร้องเพลงมายด์เป็นคนที่ชอบติด แอดลิบ เยอะๆแต่สไตล์การร้องเพลงของไมเคิล จะเป็นโชว์เนื้อเสียงโชว์ความเพราะของเสียงบอกให้เราบาลานซ์ดีๆ และเขาก็จะสอนเรื่องการแสดงบนเวทีบอกให้เราอย่างตื่นเต้นและให้กำลังใจเราตลอดเวลา
ความรู้สึกเมื่อได้ร่วมงานกับพี่ ลิเดีย
พี่ลิเดียน่ารักมากค่ะ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะยิ้มจริงๆไม่ว่าเราจะร้องยังไงเขาก็จะยืนยิ้มอยู่ห่างๆให้กำลังใจเราตลอดเวลา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอจนถึงรอบฟินาเล่ เขาจะสอนเราไม่ให้ตื่นเต้นมากจนเกินไปควบคุมสติเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด
ความรู้สึกเมื่อเข้าไปแข่งขันกับประเทศอื่น
ตื่นเต้นมากกลัวด้วยเราไม่รู้ว่าเขาจะมาในรูปแบบไหนบ้าง อีกอย่างคือภาษาเราไม่ค่อยแข็งแรงเท่ากับคนอื่นๆ รวมไปถึงเรื่องการร้องเพลงเพราะเราไม่เคยไปแข่งขันกับประเทศอื่นเลย
ประเทศที่เรากลัวมากที่สุด
กลัวฟิลิปปินส์คือกลัวตั้งแต่แรกที่รู้ว่าเขาร่วมแข่งขันในรายการด้วย  เพราะเขาเป็นประเทศที่ร้องเพลง    เขาสามารถร้องเพลงได้ทุกคนเลยเมื่อเทียบกับเราคือเขาดีมาก ตามความคาดหมายของเราพอร้องขึ้นมาก็รู้เลยว่าเก่งมาก
กังวลไหม
กังวลมากกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีในการเป็นตัวแทนประเทศไทยมากกว่าการเป็นตัวเอง
วิธีคลายความกังวลของเรา
สิ่งที่มายด์คิดตลอดคือ ทำให้ดีที่สุด เราไม่สามารถกำจัดความเครียดได้เลยจริงๆ มายด์ก็จะโฟกัสกับงานและก็คิดเสมอว่าเรามาได้ขนาดนี้มันไกลเกินที่เราฝันไว้  เรามีโอกาสสู้ไปกับมันและทำให้มันดีที่สุดไปเลยดีกว่าแพ้หรือชนะก็อีกเรื่องนึง
แนวเพลงที่เราถนัด
ชอบเพลงแนว ป็อป โซ อายแอนบี เพลงที่ แอดลิบ จะชอบมาก
เมื่อรุ้ว่า เพจไม่ได้ไปต่อรู้สึกอย่างไร
มายด์รู้สึกว่ายังไงมันก็คือเกมส์การแข่งขันดังนั้นต้องมีใครสักคนที่ต้องไปอยู่แล้ว และรู้สึกว่าเราทั้งสองมาถึงจุดนี้ได้แสดงว่ามันก็ไม่ธรรมดาแล้วซึ่ง พี่เพจ ก็มีของที่มายด์เองไม่มีรู้ และยิ่งเวลาที่เขาร้องเพลงนางดูมีความสุขและเป็น entertainer ได้ดี
รอบสุดท้ายมีความกดดันมากแค่ไหน
รอบสุดท้ายเอาจริงมายด์ไม่กดดันแล้ว รู้สึกว่ามันสุดแล้วเราก็ผ่านการแข่งขันในรายการมาเยอะ ครั้งนี้รู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีที่สุดและปล่อยของที่เรามีออกมาให้หมด
ซ้อมหนักไหม
ไม่มีเวลาให้ซ้อมหนัก มีแค่วันเดียว
การแข่งขันไหนที่ท้าทายสำหรับเรา
มายด์ว่าการแต่งเพลง มายด์แอบไปร้องให้ด้วยไม่เคยบอกใครมันเครียดมาก มายด์ไม่เคยแต่งเพลงมาก่อนในชีวิตและก็เรื่องภาษาอีก ภาษาไทยยังไม่เคยแต่งเลย กดดันมากแต่มีเพื่อนสามคนช่วยกันแบบมั้วๆเลยสุดท้ายมันก็สำเร็จ
ทำไมถึงคิดมาประกวดรายการนี้
มายด์ ออดิชั่นรายการไทยมาเยอะ และพอเข้ารอบแล้วมันก็เหมือนไม่สุดสักที เลยอยากจะลองดูเพราะเราถนัดเพลงสากลอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าเราไปรายการอินเตอร์ก็อาจจะมีสิทธ์ที่จะติด
ทำไมถึงมาประกวดรายการนี้
จริงๆแล้วก็ไม่ได้ประกวดและออดิชั่นรายการร้องเพลงเป็นปีแล้วเพราะว่ารู้สึกเริ่มท้อถอย พอดีได้รุ้จัก พี่ พีท พล ประมาณหนึ่งปีเขาจะช่วยสอนเรื่องเทคนิคการร้องและทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นแล้วก็อยากร้อง เลยมาสมัครรายการนี้
สิ่งที่มีค่าจากรายการนี้
มายด์ คิดว่าประสบการณ์และการได้ทำงานแบบศิลปินจริงๆทำให้เราได้รู้ว่า เขาทำงานกันยังไงมีขั้นตอนอย่างไรกว่าจะเป็นงานที่สำเร็จออกมาซึ่งมันไม่ง่ายเลย
คิดว่าตัวเองพัฒนาไปมากแค่ไหน
มายด์ ว่ามันขึ้นไปอีกสเต็ปนึงอาจจะไม่ใช้เรื่องร้องเพลงแต่เป็นเรื่องการควบคุมตัวเอง การมีสติเมื่อเราอยู่บนเวที มายด์ว่าตอนนี้ทำได้ดีมากขึ้น
ฝากถึงคนที่อยากประสบความสำเร็จแบบเราหน่อย
มายด์จะบอกทุกคนเสมอว่าถ้าโอกาสมาถึงอย่าทิ้งเด็ดขาด อย่าพูดว่าเดี่ยวค่อย มันไม่ได้เลยนะอย่าลังเลที่จะทำ ให้ทำเลยอย่าเลือกที่จะไม่ทำและสักวันมันก็จะประสบความสำเร็จเมื่อถึงเวลาของมัน






จุฑารัตน์ มังคลารังศรี (เพจ) ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทย
ผู้บริหารด้านการตลาด ดูแลกินการธุรกิจโรงพิมพ์ของครอบครัว เธอค้นพบว่าตัวเองหลงไหลและชื่อชอบในการร้องเพลง จากการ์ตูน Disney เธอจึงได้เริ่มเรียนร้องเพลงตั่งแต่อายุ 10 ขวบ และหลังจากนั้นเธอเริ่มที่จะเรียนรู้การร้องเพลงด้วยตัวเอง และประกวดแข่งขันวงดนตรีที่โรงเรียน เธอมีความฝันที่จะรั้องเพลงให้ทุกคนได้ฟัง
ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นตัวแทนประเทศไทย
ตอนแรกคิดว่ามันยังไม่ใช่เรื่องจริงเกินดที่เราคาดหวังไว้มาก พอเขาโทรมาบอกผลก็คิดว่าเป็นรอบสุดท้ายและต้องไปออดิชั่นอีกรอบ แต่ทางรายการบอกไม่ใช่บอกเราคือสองคนสุดท้ายที่เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าไปแข่งขันกับประเทศอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วางแผนจะไปดูงานที่จีน ตอนนั้นตัดสินใจลำบากมากว่าจะยังไงดีสุดท้ายก็ต้องเลื่อนตั๋วออกไป
ความรู้สึกเมื่อเจอ ไมเคิล โบลตัน ครั้งแรก
ครั้งแรกมันพูดไม่ถูกเพราะรู้ตั้งแต่ตอนเข้าไปสมัครแล้ว ส่วนตัวเราก็ฟังเพลง ไมเคิล โบลตัน ตั้งแต่เด็กๆรู้จักมาก่อนหน้านี้ จากการ์ตูนดีสนี้ซึ่งฟังบ่อยมาก พอเจอตัวจริงก็ตื่นเต้นระดับนึงเพราะวันถ่ายทำจริงทุกอย่างมันวุ่นวายมากค่ะ จนทำให้เราลืมความตื่นเต้นไปเลย
เขาสอนหรือแนะนำอะไรเราบ้าง
เขาจะบอกเสมอให้เราใจเย็นลงมีสติมองในแง่ดีละทิ้งทุกอย่าง ใช้เวลาอยุ่กับการร้องเพลงมีความสุขกับไมที่อยู่ตรงหน้า  เขาใช้วิธีการสอนโดยการพูดเรื่องตลกๆไม่กดดันเราพยายามให้เราไม่เครียดซึ่งงานมันก็ออกมาดี
ความรู้สึกเมื่อทำงานกับลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา
วันแรกที่ถ่ายทำมันมีปัญหานิดนึง พี่ลิเดียก็ช่วยแก้ปัญหาและก็เข้ามาช่วยเปลี่ยนแนวทางเพลง แล้วก็ปรับเรื่องดลตรีให้ พี่เขาใจดีมากช่วยหลายอย่างเลย ยืนยิ้มให้กำลังใจตลอดเวลามองแล้วบอกเราให้สู้ๆนะ พี่น่ารักมากค่ะ
ความกังวลของเราคืออะไร
เราออดิชั่นเข้าแข่งขันมาหลายรายการ และเราก็ไม่เคยผ่านอะไรเลยยิ่งมาเข้ารายการนี้เป็นหนึ่งในสองคนของประเทศไทยมันยากมากที่จะเข้ามา  และมีไมเคิล โบลตัน อีกมันเป็นรายการที่ใหญ่มากจากที่เราไม่เคยผ่านเข้ารอบรายการ  พอเข้ามาในระดับเอเชียมันยิ่งกดดันและกังวล
จุดแข็งที่ทำให้เขาเลือกเรา
น่าจะเป็นเรื่องภาษาด้วยมั้ง ที่ค่อยข้างดีในระดับนึงและความเป็นตัวเองคือความตลกเล็กๆ อย่างตอนที่ออดิชั่นเขาถามเพจ ว่าคนมักมองเรายังไง เราตอบไปว่าเหมือนเราเป็นกะเทย เขาอาจจะเห็นอะไรบ้างอย่างในตัวเราวันนั้น
แนวเพลงที่เราถนัด
แนวเพลงที่โชว์พลังเสียง อย่างเช่นเพลง I will survive ส่วนใหญ่จะร้องเป็นเพลงปิดงาน ทุกคนจะสนุกสนานเต็มที่ ถ้าเป็นงานในมหาลัยและมีน้องที่เป็นเพศที่สามก็คือเต็มเวที เหมือนเป็นคุณแม่ของน้องๆ  เลยต้องใส่พลังความเป็นเพศที่สามเข้าไปเยอะ
สิ่งที่เราได้จากรายการนี้
ได้ประสบการณ์เยอะมากเลย อย่างการเข้าสตูดิโอมันต้องเข้าไปอัดเพลง  เป็นครั้งแรกของเราเลย ทำตัวไม่ถูกไม่รู้ต้องทำยังไง พี่เขาก็จะเข้ามาสอนต้องอยู่ใกล้ไมประมาณนี้นะ ใช้เสียงยังไงเพื่อให้พอดีเมื่ออัดเสร็จ
การต่อยอดหลังจากจบรายการนี้
เราก็ได้รู้ว่าเราทำได้นะ แม้ว่าเราจะไม่เคยชนะรายการไหนเลยอาจจะยังไม่ใช้เวลาของเรา แต่เราไม่ท้อจะลองออดิชั่นไปเรื่อยๆ
ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้ไปต่อ
จริงๆแล้วการที่ได้เข้ามาในรายการมันเกินฝันมากและยิ่งเจอมายด์  ก่อนหน้านี้เคยร้องเพลงคู่กันตามงานกาชาด พอเห็นน้องร้องเพลงแล้วคือให้รางวัลน้องไปเลย น้องน่าจะเป็นตัวแทนของประเทศไทยที่ดีมากๆ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรมากแต่แค่รู้สึกว่าเราอาจจะยังทำไม่ดีขนาดนั้นได้แค่นี้ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองแล้ว
ฝากถึงคนที่ท้อแท้
พี่ พีช-พล บอกกับเพจเสมอว่าอะไรที่เป็นความฝันของเราแล้วเรารักที่จะทำมันอย่ายอมแพ้ ถ้าเรายังมีความรักและยังอยากที่จะทำตรงนั้นก็ออดิชั่นต่อไปสักวันถ้ามันถึงแล้วมีโอกาส วันนั้นจะเป็นวันของเรา
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 8.1

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google