ทราย ฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อ พาดหัวแรง ลูกทรพี

"ทราย เจริญปุระ" ถูกสำนักข่าวหนึ่งเผยแพร่ข้อความพาดหัวข่าว โดยมีส่วนหนึ่งของใจความบอกว่า ความในใจจากลูกทรพี? ทำให้เธอถูกผู้คนรุมประณามต่อว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง จึงทำให้นักแสดงสาวตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อคู่กรณี โดย ทราย เปิดใจกับรายการ โหนกระแส ชี้แจงถึงประเด็นที่เกิดขึ้น อาการเริ่มต้นของคุณแม่
"คือมีพฤติกรรม ความคิดที่เปลี่ยนไปจากเดิม คือเราอยู่กับแม่เรามาตลอด เรารู้ว่าเขามีนิสัยอะไรยังไง มีความเครียดมากขึ้น อยู่ดีๆ ก็คิดว่าลูกไม่รัก ทั้งๆ ที่ไม่มีสาเหตุอะไรเลย ทรายก็ไปทำงานของทรายปกติ ขับรถเริ่มกะระยะไม่ได้ ถอยรถออกมาชนประตูรั้วบ้านตัวเอง ทั้งที่ถอยออกมาไม่รู้กี่สิบปีแล้ว ตอนแรกเราก็คิดว่าสายตาไม่ดี คุณแม่อายุ 60 เราก็ไม่คิดว่ามีผลเรื่องทางสมอง จนหลังๆ เริ่มมีความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย ถึงขั้นออกปากว่าอยากตาย ด้วยสาเหตุว่าลูกไม่รัก ซึ่งมันไม่ใช่ แกโทรมาหาว่าทรายเคยพูดใช่ไหมว่าคนเป็นแม่ทำอะไรก็ไม่ผิด ทรายก็เอ๊ะ แม่ไปทำอะไรมาหรือเปล่า แกก็บอกว่าอย่าเลี่ยงคำตอบ เราก็งง ปกติเราอยู่กองถ่ายแม่จะไม่โทรตาม ก็แปลกๆ กลับไปรถมีรอยชนรอบคัน ก็ถามว่าแม่ไปชนอะไรมา เขาก็บอกว่าทำไม ถ้าเขาชนแล้วจะทำไม เธอกลัวเธอเสียชื่อเสียงเหรอ เราก็เอ๊ะ ทำไมมันแปลกขึ้นเรื่อยๆ"

รับมือกับคุณแม่อย่างไร
"ก็ดูแลกันจนป่วยเป็นซึมเศร้าไปอีก เพราะมันเครียดมาก ตอนนั้นก็เริ่มรู้แล้ว แต่เรารู้สึกว่าเราต้องดูแลแม่ได้ คิดว่ายังไม่เกินมือ ทรายก็เริ่มซึมเศร้าตาม เพราะเครียดมากให้น้องชายช่วยดู น้องชายก็บอกว่าโดนแม่ทำร้ายเหมือนกันเลย เฮ้ย มันจะไล่ไปเรื่อยๆ มันไม่ไหวแล้ว มันไม่ดีกับตัวแม่เองด้วย เพราะว่ายิ่งเขาเครียด สมองส่วนที่มันเสียหาย มันก็จะเสียหายมากขึ้นไปอีก ก็เลยตัดสินใจว่าต้องรักษาทางโรคเฉพาะทาง คือพาไปที่ศรีธัญญา"

มีสำนักข่าวสำนักหนึ่งได้เขียนว่า เป็นลูกทรพี เป็นเครื่องหมายคำถาม รู้สึกอย่างไร
"คือทรพีเลยเหรอ คือต่อให้มันมีปรัศนีตามหลังหรืออะไรก็ตาม ด้วยหลักการภาษาไทย เราไม่ได้มีการขึ้นเสียงสูงจนต้องใส่ปรัศนี นอกจาก ใช่ไหม หรือไม่ ถ้าพาดว่าตกลงใช่ลูกทรพีหรือไม่ มันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยนะ เข้าใจได้ แต่อันนี้คุณตัดสินเราไปแล้ว"

คนที่พาดหัวนี้ออกมา ได้ติดต่อมาไหม
"ติดต่อมา ก็โทรมาก่อน ต้องใช้คำว่าอ้างว่าเพราะทรายก็ไม่เห็นหน้าตา บอกว่าเป็นคนที่เขียนข่าวนี้ ขอโทษในความผิดพลาด มันเรียกว่าข้อผิดพลาดไม่ได้ คือกว่าคุณจะเขียนออกมา กว่าคุณจะส่งบก.ข่าว ส่งอะไรใดๆ มันต้องมีกระบวนการสักนิดหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเขียนตกสระอุ สระไอ มันไม่ใช่ อย่างน้อยแสดงความจริงใจ คุณลงข่าวตรงนี้ คุณลงขอโทษได้ไหมว่ามันเป็นความผิดใดๆ ของคุณก็ตามคุณก็ลงชื่อไป ก็ไม่มี สักพักก็ส่งมาใหม่ว่าขอโทษ ข่าวลงในสำนักข่าวนี้ แล้วก็ไปขอโทษอีกที่หนึ่ง แล้วก็แค่นั้น ทรายก็เลยบอกว่าคุยกับทนายทรายแล้วกัน คือนี่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุดเท่าที่คนพึงจะกระทำต่อกันสำหรับการเรียกว่าลูกทรพี โดยไม่ชกหน้ากันซะก่อน ก็ไม่ได้มีการขานรับ หรือเร่งรีบในการแก้ไขอะไร"

คำที่เขาลงไปเชิญให้คนอื่นมาด่า
"ใช่ไง เชิญคนมาร่วมกันด่า สนุกกันใหญ่เลย คราวนี้เรื่องเกี่ยวไม่เกี่ยว ชอบไม่ชอบเป็นการส่วนตัวตั้งแต่สมัยไหน ข่าวจริงข่าวเท็จ เอามารวมกันหมด มัดรวมแล้วรวบตึงไปเลย แล้วมีคนที่เมนต์ตรงนั้น แล้วคนที่แชร์ไปด่าต่างหาก มีอีกแบบสารพัดค่ะ"

เรื่องนี้จะจบลงกันได้ด้วยดีไหม
"คืออย่างน้อยเลยนะ จริงๆ เขาควรขอโทษทราย ตอนที่ทรายยังไม่ทันจะฟ้องเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้มันเลยจุดนั้นไปนานแล้วค่ะ คือทรายทำงานมา 20 กว่าปี เจอพี่นักข่าวไม่รู้กี่สำนัก ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ทรายมองมุมนี้ด้วยว่านักแสดงกับนักข่าว มันจริงใจ มันอยู่ใกล้ๆ กัน อ้าว แล้วที่อื่นๆ กับเราเขาก็ดี ไม่ได้มีปัญหาต่อกัน"

จะฟ้องคนที่เข้ามาด่าด้วย
"ใช่ค่ะ เพราะด่าด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หลายอันด่าด้วยข้อความที่รุนแรงมาก มากจนเกินกว่าที่วิญญูชนฟังแล้วจะมองไปแง่บวกได้"

จะดำเนินการให้ถึงที่สุดใช่ไหม
"ใช่ เพื่อแม่ด้วย ไม่รู้สิ ทรายกับแม่ค่อนข้างใกล้ชิด เขาไม่มีพ่ออยู่ใกล้ๆ เขาแล้ว เราเป็นยังไงก็รู้กัน มันเหมือนเราไม่ได้ปกป้องเขา"

มีอะไรจะฝากบอกหรือเปล่า
"สำหรับคนที่คอมเมนต์ในข่าว ทรายเข้าใจว่าโซเชียลเป็นเรื่องใหม่มาก แต่บางทีเช็กข่าวนิดหนึ่งก็ดี เพราะหมายศาลไปถึงบ้านไม่น่าจะสนุก"


#ทรายเจริญปุระ