ฟิลเลอร์ สารเพิ่มความสวย ที่มีทั้งข้อดี และข้อเสียภายในตัว

ฟิลเลอร์ คืออะไรกันแน่ ทำไมสาวๆ ในยุคปัจจุบันถึงให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลาย ถ้าไม่อยากเสียเวลาเรามาทำความรู้จัก ฟิลเลอร์  กันดีกว่าจ้า ว่ามันจะมี ข้อดี ข้อเสีย อย่างไรกันบ้าง
ฟิลเลอร์ คืออะไร
จริงๆแล้ว ฟิลเลอร์ มันคือสารไฮยารูโรนิก แอซิต นั่นเองค่ะ ซึ่งจริงๆแล้ว ไอเจ้าสารตัวนี้ มันเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
ซึ่งความสามารถของเจ้า ฟิลเลอร์ สามารถช่วยปรับโครงสร้างใต้ชั้นผิวได้นั่นเองค่ะ

จึงทำให้ปัจจุบันนี้ ฟิลเลอร์ ถูกเรียกไปอีกชื่อนึงว่า สารเติมเต็ม สามารถช่วยทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม ช่วยลดริ้วรอย รวมถึงเติมจุดบกพร่องบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี แถมดูดีแบบเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ

ถ้าจะพูดง่ายๆ ” การฉีดฟิลเลอร์ “ ก็คือการฉีดสารเติมเต็มความสวยในแบบที่คุณต้องการนั่นเอง ซึ่งสารที่ว่านี้ก็คือสารไฮยารูโรนิก แอซิต (Hyaluronic acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง


ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยทำให้เราช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าได้ดียิ่งขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ จะทำให้ ใบหน้าของเราดูเด็กลง แลดูสุขภาพผิวดี
การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มจุดบกพร่องต่างๆ เช่น ปัญหาร่องใต้ตา หรือแก้มตอบ (เป็นที่นิยมเอามากๆ โดยเฉพาะสาวๆ)
การฉีดฟิลเลอร์ ใช้เวลาไม่นาน แถมไม่เจ็บอีกด้วย
เห็นผลหลังจากทำทันที

ข้อจำกัดของฟิลเลอร์

1. ไม่สามารถฉีดได้กับทุกคน อันนี้เป็นเรื่องจริงนะคะ ไม่ได้พูดเล่น เพราะว่าบางคนก็เกิดอาการแพ้สาร ชนิดนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติก็ตามเถอะ

2. หากท่านใดมีอาการแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า (เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ )

3. สตรีมีครรภ์ ผู้ที่ให้นมบุตร หรือผู้ที่มีเลือดออกและหยุดยาก ควรหลีกเลี่ยงการใช้วิธีนี้

ฟิลเลอร์ ที่ได้มาตรฐานจะอยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐาน อย. ในปัจจุบัน จะสามารถอยู่ได้ 1 ปี , 1 ปีครึ่ง และไม่เกิน 2 ปี

แต่มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีสารตกค้างอย่างแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์ ค่ะ เพราะมันเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลย เมื่อหมดเวลาของสารมันจะหายไปเองค่ะ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

คือการไปฉีดฟิลเลอร์ กับ หมอกระเป๋า หมอกระปี๋ เพราะว่ามีโอกาสที่จะทำให้หน้าของเราเสียโฉมได้นะคะ ตายกันมาเยอะแล้ว อย่าเห็นว่ามันมีราคาถูก เพราะเรื่องแบบนี้ มันทำแบบขอที ไม่ได้ ดังนั้นจะทำอะไร ควรศึกษาข้อมูลดีๆนะคะ

หรือ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมต้นฉบับได้ที่นี่ http://www.thaibeautysurgery.com/filler/