บิณฑ์ ลำดับเหตุการณ์ก่อนที่ อิน ณัฐนิชา จะเสียชีวิต ยืนยันไม่ได้เมาแล้วขับ

เป็นข่าวช็อคและเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับทุกคนก่อนเทศกาลสงกรานต์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับข่าวการประสบอุบัติเหตุของ อิน ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี อดีตนักแสดงเด็กชื่อดัง
ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากการที่ขับรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ ระหว่างมุ่งหน้าไป
จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา

ด้าน บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พี่ชายคนสนิทของ อิน ได้ลำดับเหตุการณ์ที่น้องสาวคนสนิทได้เสียชีวิตให้ฟังว่า"ผมคุยกระทั้งอดีตแฟนคือผู้ชาย และปัจจุบันน้องไทม์ซึ่งเป็นทอม เหตุการณ์วันนั้นคือ วันที่น้องไปอยุธยา น้องไปพัทยาก่อนไปกับเพื่อนประมาณ 4-5 คน ตอนประมาณเกือบ 4 ทุ่ม น้องอินโทรหาน้องไทม์บอกว่าเบื่อมากที่พัทยา จะไปหาไทม์ได้ไหม ไทม์เขาบอกว่าถ้าเที่ยงคืนไปแล้ว ไม่ต้องมามันดึกเกินไป แต่น้องอินบอกว่า จากพัทยาไปอยุธยา ถามไทม์ว่าประมาณกี่กิโล ไทม์บอก 200 กว่า อินบอกว่าขับแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ซึ่งไทม์ก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้อย่างน้อยต้อง 3 ชั่วโมง ตอนที่น้องอินออกจากพัทยาน่าจะประมาณสัก 5 ทุ่มกว่า แต่บอกกับไทม์ว่าออกมาสักพักหนึ่งแล้ว จนประมาณตี 1 กว่า อินน่าจะถึงกรุงเทพ จนประมาณเกือบตี 2 น้องอินยังไม่ถึงอยุธยา แต่บอกกับไทม์ว่าอีก 50 กิโลจะถึงอยุธยาและไทม์ก็บอกว่าตอนนี้ที่อยุธยาฝนตกหนักมาก ถ้าอินอยู่กรุงเทพ ก็ไม่ต้องมา ให้ตีรถกลับกรุงเทพไปเลย แต่อินบอกว่าจะถึงแล้ว ถ้ามาแล้วยังไงก็ต้องขอเจอ เพราะว่าคิดถึง ไทม์เขาบอกด้วยว่า ไทม์จะลงอินสตาแกรมคู่กันได้ไหมกับน้องอิน เปิดเผยได้ไหมว่าเราคบกัน อินก็บอกได้ แต่ด้วยอารมณ์อะไรไม่รู้ ก็อาจจะมีที่น้องอินไม่พอใจนิดหน่อย ตลอดทางน้องไทม์ก็บอกคุยกันและมีปากเสียงกัน"



"จนกระทั่งตี 2 ครึ่ง เริ่มคุยไม่รู้เรื่อง น้องอินก็บอกเอางี้เดี๋ยวเจอกันค่อยคุยกัน ก็วางสายไปตอนตี 2 ครึ่ง ประมาณ 2 นาที ไทม์ก็โทรหาใหม่ น้องอินก็รับและก็คุยกันอีกไม่ถึงนาที น้องอินบอกโอเคกำลังจะถึงแล้วจะรีบขับรถและก็วาง จนกระทั่งตี 3 ไม่มีการติดต่อ โทรไปประมาณ 10-20 รอบ สายยังติดอยู่ น้องไทม์เลยเข้าใจว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น น้องอินยังไม่ถึงน้องไทม์ เพียงอยู่ระหว่างที่จะไปถึงอยุธยา เพราะดูจากที่เกิดเหตุไม่มีรอยเบรคเลย แสดงว่าขับรถมาด้วยความเร็วมาก และฝนตกถนนลื่่น จึงเกิดอุบัติเหตุ ที่กู้ภัยไปเจอรถและร่างกายของน้องอิน น้องอินก็จะเริ่มแข็ง คือต้องเสียชีวิตไม่ต่ำมาแล้วกว่า 4-5 ชั่วโมง แน่นอนต้องเสียชีวิตตอนประมาณ ตี 3 กว่าๆ ตอนที่น้องไทม์โทรมาถามว่าถึงหรือยัง จนกระทั่งมารู้ข่าวอีกที 9 โมงเช้า ว่าน้องอินเสียชีวิต น้องไทม์ยืนยันว่าน้องอิน ไม่มีการกินเหล้า ไม่มีการง่วงนอน น้องอินคุยปกติมาก คิดว่าน่าจะเป็นลักษณะรีบขับ แล้วฝนตกหนักแล้วชนกับตรงสะพาน" ส่วนโทรศัพท์ของผู้ตายยังไม่มีใครพบ "ถามกู้ภัยก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เจอมันอาจจะกระเด็นอยู่ตรงไหนสักอย่าง ที่เรายังไม่ได้ไปหาแบบจริงๆ จังๆ"



บิณฑ์ ยังได้เล่าอีกว่า ทำไมตนถึงได้ออกมาพูดถึง น้องอิน ในครั้งนี้ว่า "น้องอินรู้จักผมตอนอายุ 8 ขวบ ก็เหมือนเป็นญาตคนหนึ่งของผม ก็สนิทสนมกันตลอด น้องอินเป็นคนที่ธรรมธัมโม และสิ่งที่เกิดขึ้นผมยังแปลกใจทำไมต้องเกิดขึ้นกับน้องอิน แต่วันนั้นที่เอารถบีเอ็มมารับ บอกน้องอินออกรถแล้วนะพี่บิณฑ์มานั่งหน่อยสิ ผมก็ไปนั่ง ก็ตกใจขับรถเร็วมาก บอกน้องอินถ้าขับรถแบบนี้อันตรายนะบอกโอเคไม่เป็นไร อินดูแลตัวเองได้ และเมื่อวานก่อนเสียชีวิตประมาณเที่ยงวัน น้องอินไลน์มาบอกพี่บิณฑ์ว่างเมื่อไร จะได้เอาสินค้าไปให้ดู บอกตอนนี้พี่กำลังยุ่งอยู่ บอกก่อนสงกรานต์เจอกันแน่ และตอนเช้าก็มาเจอน้องอินเสียชีวิต"



ในส่วนพิธีศพ บิณฑ์ ได้ระบุว่า จะทำการสวด 3 คืน และในวันที่ 11 เม.ย. จะเป็นพิธีฌาปนกิจ
ส่วนในวันที่ 12 เม.ย. จะเป็นพิธีลอยอังคาร ที่วัดช่องลม จากนั้นจะเป็นการทำบุญกระดูก 7 วัน
ส่วนคุณแม่ของน้องอิน ญาติพี่น้องของแม่น้องอินจะพาไปอยู่ด้วย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในวัด ตนเป็นคนจัดการเอง



ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ อิน มา ณ ที่นี้ด้วย RIP