ปิดไม่ได้เลยกับ 2 หน้ากากจาก The Mask Singer 4

การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับรายการ "The Mask Singer หน้ากากนักร้อง 4" คนแรกที่ถูกกระชากหน้ากากในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หน้ากากงิ้ว ซึ่งความขี้เล่นของเขาทำให้กรรมการรู้สึกคุ้นเคยและคาดเดาถูกได้ไม่ยาก นั่นคือ "ลิง - สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์" หรือ "เสนาลิง" ซึ่งกล่าวว่าที่เลือก หน้ากากงิ้ว เพราะเคยใกล้ชิดกับการแสดงงิ้ว "สมัยก่อนที่ผมเข้ามาในกรุงเทพมหานคร พอจบประถมมาจากระยองนะครับ ก็มาอยู่ที่เยาวราช อยู่ที่วัดปทุม (วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร) นะฮะ ไปเป็นเด็กวัดจนถึงมหาวิทยาลัย ผ่านโรงงิ้ว ไปเดินตามบาตรพระเนี่ยก็จะเห็นคนจีนออกมาใส่บาตร แล้วก็มีโรงงิ้วตั้งถาวร สมมติว่าใครบนได้ เขาชนะ เขาทำธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เขาก็จะเอางิ้วมาเหมือนไหว้ศาลเจ้า เหมือนเราไหว้ลิเก ผมก็ได้ดูงิ้วเป็นประจำ นึกว่าถ้าวันหนึ่งเราขึ้นไปใส่ชุดงิ้วคงเท่ดี (ยิ้ม)" เจ้าตัวบอกเหตุผลที่มารายการนี้ว่าลูกสาวชอบดูรายการมาก "ลูกสาวเป็นแฟนรายการนี้ คือเขาชอบดูมาก เขาจำได้ว่าใครเป็นหน้ากากอะไรหมดเลย ตั้งแต่ซีซันที่หนึ่ง หน้ากากทุเรียน เขามีเสื้อด้วย แล้วเขาจะใส่เป็นประจำ ผมว่าเราจะทำอะไรสักอย่าง ต้องทำด้วยความตั้งใจ การใช้ชีวิตถึงจะสุดยอดนะครับ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เรื่องแค่นี้เรื่องมหาศาล ที่ไหนก็ตาม เวลาเราได้รับมอบหมายเราต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตเราจะทำได้ อย่ารู้งี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด นี่คือคำปฏิญาณของผมเวลาทำงานครับ อะไรก็ตามที่มันท้าทายที่มันสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเราแล้วก็วงการได้เรื่อยๆ เช่นรายการนี้ เป็นสิ่งหนึ่งในการทำรายการเพื่อความบันเทิงและเพื่อจรรโลงใจของคนวงการบันเทิง ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ (ยิ้ม)"


ส่วนอีกหนึ่งหน้ากาก ได้แก่ หน้ากากต้นไม้ ซึ่งภายใต้หน้ากากนั้นก็คือ "แพรว - คณิตกุล เนตรบุตร" สาวที่คณะกรรมการมักจะทายชื่อของเธอมาตลอด ในที่สุดก็ได้มาขับกล่อมผู้ชมในรายการด้วยเสียงอันไพเราะ แพรว กล่าวความรู้สึกที่ได้มาร่วมร้องเพลงในรายการว่า "จริงๆ รู้สึกว่าอยากจะมาตั้งนานแล้ว เพราะว่าทุกคนแท็กมาทุกครั้งเวลาที่มีรายการว่า ทายพี่อีกแล้ว มาเหอะ แต่รู้สึกดีมากค่ะ เพราะว่าแพรวรู้สึกว่าทั้งประเทศเรามีนักร้องเยอะมาก แต่ว่าทุกคนในใจก็ยังนึกถึงแพรวอยู่ทุกๆ ครั้งนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม)"

นักร้องสาวเล่าที่มาของการเลือกเป็นหน้ากากต้นไม้ว่าต้นไม้จะเติบโตในที่ที่เหมาะสม "มันเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว ความเชื่อส่วนตัวที่เป็นตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็คือแพรวจะอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าต้นไม้เยอะมาก ต้นไม้คือที่ที่เราไปพิง ไปเล่น แล้วเรารู้สึกว่าเย็นสบาย เวลาแพรวแต่งเพลง แพรวจะอยู่ใต้ต้นไม้ แล้วแพรวจะได้เพลงมาตลอด มีความเชื่ออันหนึ่งที่เรารู้สึกแล้วเราใช้มาตลอดตั้งแต่เด็กก็คือต้นไม้จะอยู่ในที่ที่ดินเหมาะสม น้ำเหมาะสม อากาศเหมาะสม ถึงจะเติบโตได้ เพราะฉะนั้นเวลาแพรวจะทำเพลงหรือว่าแพรวจะใช้ชีวิตอะไรก็ตาม แพรวจะคิดถึงตัวเองว่า เอาล่ะ ที่แม่เคยบอกเรามาว่า ลองดูว่าอันไหนที่มันเหมาะกับเราจริงๆ เพราะไม่ใช่ว่าทุกที่เราจะสามารถเติบโตได้ค่ะ"


#เสนาลิง #แพรวคณิตกุล