สามแยกปากหวาน ใกล้ลาผัง เหตุไม่เกี่ยวประเด็นดราม่าของ ป๊อบ ปองกูล กับ เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้
4 พ.ค. 61 17:57 น. /
ดู 875 ครั้ง /
22 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#สามแยกปากหวาน
สามแยกปากหวาน รายการอารมณ์ดีที่มีสามพิธีกร ป๊อบ ปองกูล, อ๊อฟ ปองศักดิ์ และ ว่าน ธนกฤต
กำลังใกล้จะยุติลงแล้ว เนื่องจากทั้ง 3 คน ไม่อยากโกงความรู้สึกของผู้ชมในเรื่องของการทำรายการ
แต่ก็มีคำถามว่าเหตุเกิดมาจากประเด็นดราม่าของชาวเน็ตเรื่อง ป๊อบ กับ เฟี้ยว์ฟ้าว หรือไม่
ทางป๊อบก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่เกี่ยวกัน
ข้อความจาก Twitter ของ ป๊อบ ปองกูล
ด้าน อ๊อฟ ก็ได้มาชี้แจงเรื่องรายการ สามแยกปากหวาน ที่ทั้ง 3 คน ได้มีการคุยกัน
ถึงเรื่องการทำรายการว่าควรจะทำยังไงกันต่อไป
"อ๊อฟจะบอกตรงนี้เลย คือตัวพี่ป๊อบเองเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
แล้วปกติเวลาเราจะตอบหรือว่าอะไรอย่างนี้ คนที่จะเป็นคนตอบมากที่สุดคืออ๊อฟ
แต่คราวนี้มันดันกลายเป็นพี่ป๊อบตอบก่อน พูดก่อน ก็เลยแบบจะบอกให้ตรงนี้เลยว่า
คือเดี๋ยวรายการ สามแยกปากหวาน มันจะไม่มีครับ เพราะว่าอ๊อฟว่า
ด้วยความที่พอถึงเวลาที่เรา 3 คนทำงานด้วยกันมากๆ อะไรอย่างนี้
เราอยู่ด้วยกันตลอด เราเหมือนเราทำการบ้านหนักมากครับ
คือเราก็ไม่อยากจะโกงความรู้สึกคนดูนะ เพราะว่าจริงๆ แล้วในแต่ละเทปหลังๆ
เรารู้สึกว่าเราแทบไม่ได้ใช้ความจินตนาการของตัวเองเลย
พวกเราทั้ง 3 คน ก็เลยคุยกันว่า เราควรจะพอไหมกับรายการทีวีอะไรอย่างนี้
แต่ว่าเราก็คงจะไปทำอื่นๆ ที่มีโปรเจกต์ร่วมกันอะไรอย่างนี้ครับในที่อื่นๆ มากกว่า"
เรื่องที่จะหยุดทำรายการ อ๊อฟ บอกว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คนดราม่าประเด็นของ เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้
"ไม่เกี่ยวเลย เอาจริงๆ อ๊อฟจะบอกว่าตอนที่อยู่ในถ่ายทำกันไม่ได้รู้สึกอะไรกันเลยครับ ไม่ได้มีอะไรเลย
แล้วอ๊อฟจะบอกว่าถ้ารู้จักพี่ป๊อบจริงๆ นะ เขาไม่เคยเป็นคนแบบนั้นเลย
แล้วก็ตัวอิมเองเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง หรือว่าแบบถูกพวกเราพิธีกรกด
หรือว่าถูกแบบดูถูกหรือว่าถูกเหยียดอะไรอย่างนี้
แต่ว่ามันขึ้นอยู่กับว่าคนเขาจะรับหรือว่าเขาจะเลือกอะไรมากกว่า หมายถึงว่าคนดูนะครับ
คือคนดูส่วนใหญ่แล้วบางทีแบบเขาก็เลือกบทจะโลกสวยก็โลกสวยเกิน
เหมือนกรณีพี่โป๊ปอย่างนี้ ขออนุญาตพูด เหมือนกรณีพี่โป๊ป คือแบบถ้าเป็นคนอื่นนะ
คุณก็แบบ โอ้โห ด่ากระหน่ำแล้ว แต่นี่ดันกลายเป็นพี่โป๊ป ก็เลยไม่รู้สึกไม่ต้องด่า
หรือในบางกรณีที่แบบพวกที่ไปด่าพี่โป๊ปว่าแบบทำไมถึงไปอย่างนั้นอย่างนี้ พวกที่แอนตี้เขา
สรุปคือพวกผู้หญิงพวกนั้นเนี่ย ก็เป็นคนแบบ อุ๊ย ชอบผู้ชายคนนี้จังเลย อย่างนี้
มันก็เป็นอย่างนั้นอะ คือมันเป็นปกติ คนเราเนี่ยนะอ๊อฟจะบอกว่าอย่าโลกสวยมาก
คือทำอะไรให้มันคิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องของบันเทิงมากกว่า
เอาจริงๆ แล้วถ้าเกิดว่าเรารู้จุดประสงค์ของการนำเสนอในแต่ละอย่างอะไรก็ตาม
เราก็จะเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร แล้วเราก็จะมองแค่ว่ามันเป็นเรื่องของความสนุกมากกว่า
แล้วอีกอย่างหนึ่งคือพวกเราทั้ง 4 คน ที่อยู่ในรายการในวันนั้นอะ ไม่ได้มีอะไรที่แบบผิดใจกันเลย
อิมอยู่หมู่บ้านเดียวกับอ๊อฟ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรเด็ดขาดแน่ๆ ครับ แต่ว่าเราก็ห้ามคนดูไม่ได้ไง"
อ๊อฟ เล่าที่มาของเรื่องที่ป๊อบออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงในทวิตเตอร์
"มันมีกลุ่มคนที่ไปตั้งกระทู้หรือว่าตั้งในทวิตเตอร์เขียนถึงเขาว่าเหมือนเหยียดอิมนะอะไรอย่างนี้
พูดจาไม่ให้เกียรติหรืออะไรอย่างนี้ครับ ซึ่งตัวอ๊อฟเอง เราอยู่ในรายการ เราจะรู้กันว่า
คนที่จิตใจดีที่สุดคือพี่ป๊อบ อ๊อฟเป็นคนที่แบบปากยังไงใจก็อย่างนั้น
เพราะฉะนั้นในบรรดา 3 คนนี้ คืออ๊อฟจะเป็นคนชั่วที่สุดแล้ว
อ๊อฟก็เลยงงว่า เอ๊ะ ทำไมวันนั้นพี่ป๊อบถึงโดนคนเดียวอะไรอย่างนี้
คืออ๊อฟจะนั่งอยู่ฝั่งเดยวกับพี่ป๊อบ เวลาอยู่ในรายการ เวลาเรามีเรื่องอะไรเราก็จะหันมามองหน้ากัน
แล้วคือแบบวันนั้นไม่มีอะไรเลย มันมีแต่ความสนุก"
อ๊อฟ พูดเรื่องที่ป๊อบได้มีการบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นพิธีกร
"อ๊อฟจะบอกว่าเขาพูดตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ พูดกับพวกเราทั้ง 3 คนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ว่าเราไม่อยากทำรายการเพราะว่า เขาเองเขาไม่สามารถรับผิดชอบการเป็นพิธีกรได้
แต่ว่าตอนแรกรูปแบบรายการมันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่พอทำไปแล้วสักพักหนึ่ง
มันก็กลับกลายเป็นรูปแบบที่เป็นพิธีกรแล้วก็สัมภาษณ์
แล้วปกติพวกเรา 3 คน ก็ไม่ได้เป็นคนที่เก่งในเรื่องของการเป็นพิธีกรอยู่แล้ว
ถ้าเทียบชั้นความเป็นพิธีกรกับพิธีกรคนอื่นๆ ที่มีตามรายการทั่วๆ ไป เราถือว่าเป็นศูนย์มากเลยครับ
แต่ว่าด้วยความที่พอรายการมันอยู่ได้ด้วยความเป็นคาแรกเตอร์ของเรา 3 คน
ด้วยความเป็น อ๊อฟ ป๊อบ ว่าน มันก็เลยทำให้รายการมันอยู่ได้
แล้วก็อยู่ได้มาดีๆ เรื่อยๆ จนอย่างที่อ๊ฟบอกแหละว่ามันถึงจุดหนึ่งที่เรารู้สึก
เราแทบไม่ได้ทำอะไรเลยอะ เราแทบไม่ได้คิดอะไรเลย
เราเหมือนเป็นโรบอทเข้าไปทำในรายการอะไรอย่างนี้ฮะ"
และอ๊อฟก็ยังบอกเหตุผลอีกว่าไม่อยากทำรายการแล้วโกงความรู้สึกของผู้ชม
"เวลาเราทำเราไม่อยากโกงความรู้สึกคนดูอย่างที่อ๊อฟบอก
เราคิดกันหนักมากเลยนะครับกว่าที่มันจะออกมาเป็นรายการอย่างนี้
คือแต่ละ 1 เทป อ๊อฟคิดกันแบบเชื่อไหมว่าไหนเราจะคิดเกม ด้วยความที่มันเป็นรูปแบบรายการใหญ่
คือเราต้องคิดเกม เราต้องคิดว่าเราจะสัมภาษณ์แขกรับเชิญในหัวข้ออะไร
แล้วถ้าเกิดว่าเราพูดแบบนี้ไปแล้วแขกรับเชิญจะเป็นยังไง
แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าเกิดว่าแขกที่รับเชิญที่มาในรายการแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่ได้อินกับเขา
หรือเราไม่สามารถสัมภาษณ์คนที่ไม่ใช่เพื่อนเราได้ หรือไม่ใช่คนที่เรารู้จักได้
มันก็หมดวงการแล้วไง หมายถึงว่าคนที่เป็นเพื่อนเราในวงการมันก็หมดแล้ว
ให้เราไปนั่งสัมภาษณ์คนอื่นเขาก็ไม่เก็ตกับความเป็น อ๊อฟ ป๊อบ ว่านไง
เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่าเราควรจะยุติกันดีกว่า"
Credits
YouTube: GMM25Thailand รายการ สามแยกปากหวาน 2018, NineEntertain Official
Twitter: pongkool
Instagram: pongkool, aofpongsak
#สามแยกปากหวาน
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google