เต๋อ นวพล นำทีม 3 สาว ปัญ น้ำใส โมบายล์ พูดคุยคลุกวงในกว่าจะได้มาเป็นซึ่ง ภาพยนตร์สารคดี BNK48 : Girls Don't Cry

คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากสำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง เต๋อ นวพล
กับสาวๆ BNK48 ที่อบอุ่นเเปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว
ล่าสุด พี่เต๋อ ผกก.โปรเจ็กต์ภาพยนตร์สารคดี BNK48 : Girls Don't Cry
พา 3 สาว ปัญ น้ำใส โมบายล์ ไปเปิดใจและเล่าให้ฟังถึงบรรยากาศการถ่ายทำ
ภาพยนตร์ ในรายการเปิดประเด็นบันเทิง

ตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมงานกับสาวๆ BNK48 ในระหว่างการถ่ายทำโปรเจ็กต์ภาพยนตร์
เป็นอย่างไรบ้าง?

เต๋อ "เอาจริงๆ เราก็รู้จักน้องๆ ประมาณหนึ่งที่เราอ่านเจอ แต่เวลาที่เข้ามาอยู่แล้ว เราก็จะเห็นอีกอย่างหนึ่ง
หมายถึงเห็นที่ลึกขึ้น ได้เห็นมุมต่างๆ มากขึ้น ผมเลยรู้สึกว่าโยนที่อ่านมาทิ้งไปเหอะ ก็ลองอยู่กับเขาคุยกับเขาไปว่าจริงๆ แล้วมุมต่างๆ เส้นทางชีวิตของแต่ละคนมันเป็นยังไงบ้าง"



26 สาว เป็นอย่างไรบ้าง เป็นอย่างที่คิดไว้ไหม?

เต๋อ "ผมว่ามันคนละทิศคนละทางเลย (ยิ้ม) ไม่ใช่ว่าอยู่เวทีแล้วเป็นอย่างหนึ่งหมายถึงว่าเราได้เจอในสิ่งที่มันลึกกว่า แต่ละคนเรามีเสลาได้คุยกับเขาเยอะในการสัมภาษณ์ประมาณ 2-3 ชั่วโมง อันนี้คือนั่งตัวต่อตัวคุยกันไปเลย และเราจะค่อยๆ เห็นว่าแต่ละคนเขาก็มีเรื่องของเขา แตกต่างกันไปไม่ซ้ำกันเลย 26 คน"



กับคำพูดเปิดหัวในตัวอย่างภาพยนตร์ที่เรียกแขกของ ปัญ จำโมเมนต์ความรู้สึกในตอนนั้นที่
ตอบคำถามจากพี่เต๋อได้ไหม ?



ปัญ "ช่วงตั้งแต่ตอนนั้นที่สัมภาษณ์มาจนถึงตอนนี้ มันน่าจะหลายเดือนแล้ว เหมือนมันเกิดเรื่องราว
มากมายเกิดขึ้นมาเหมือนกัน สิ่งที่เราเจอในตอนนั้นกับตอนนี้มันก็ไม่ค่อยเหมือนกันแล้ว แต่น่าจะ
เป็นเพราะว่าการที่เราอยู่รวมกันมีผู้หญิง 26 คน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีปัญหากัน อาจะมีปัญหา
แต่ว่าพูดหรือไม่พูด เลยรู้สึกว่าถ้าเราพูดเลยดีกว่า จะได้ปรับจะได้ทำความเข้าใจกัน มันจะได้มี
ทีมเวิร์กที่ดีต่อไป"

น้ำใส มีความรู้สึกยังไงบ้างที่ได้นั่งพูดคุยกับพี่เต๋อ ถึง 3 ชั่วโมง?



น้ำใส "เอาจริงที่พี่เต๋อถามพวกหนูก็จำไม่ได้แล้วว่าตอบอะไรกันไปบ้าง เพราะมันนานมากๆ
และสิ่งที่พวกหนูตอบไปมันออกมาจากใจจริงๆ เหมือนเราได้ปลดปล่อย เราก็มองพี่เต๋อเป็นพี่ชาย
เหมือนเป็นครอบครัวเราคอรอบครัวหนึ่งไปแล้ว 3 ชั่วโมง ที่อยู่กับเขาเราไม่อึดอัดเลย เหมือนได้นั่งระบายกับพี่ชายคนหนึ่ง"

เห็นเค้าว่าเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย เป็นเพลงที่แทบจะกรีดเลือดในการร้อง อยากให้ โมบายล์
อธิบายในฐานะที่เป็นเซ็นเตอร์ในเพลงนี้



โมบายล์ "เพลงถ้าเราฟังเผินๆ มันก็จะสนุกครื้นเครง แต่ถ้าลองดูจริงๆ มันเหมือนชีวิตของพวกเราเลย"

ไหนจะฟุตเทจไหนจะบทสัมภาษณ์ มีแกนหลักความยากง่ายยังไงในการที่จะเลือกนำมาหยิบใส่ในภาพยนตร์



เต๋อ "พอสัมภาษณ์เสร็จ 60 ชั่วโมง ผมต้องนำมาดูใหม่หมดเลย ก้พยายามดูว่าแต่ละคนเขามี
เรื่องอะไรที่น่าสนใจของเขาเองและก็คัตออกมา แล้วค่อยหาแกนร่วมกันว่าจากที่สัมภาษณ์ทั้ง 26
คน อะไรคือสิ่งที่มารวมกันได้เป็นหนังเรื่องนี้ แต่ผมพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ทุกคนอยู่ในพาร์ทที่
ตัวเองถนัดและก็รวมกันเป็นหนังเรื่องนี้"



ปัญ พูดถึงความประทับใจในตัวพี่เต๋อด้วยว่า "วันแรกที่เขาเข้ามาแนะนำว่าอันนี้คือพี่เต๋อนะ
จะมาทำสารคดีของเรา คำหนึ่งที่พี่เต๋อพูดแล้วหนูประทับใจมาก หนังเรื่องนี้ทุกคน คือ เซมบัตสึนะ
หนูรู้สึกว่า พี่เต๋อให้ความสำคัญของเมมเบอร์ทุกคนเท่าเทียมกันเลยรู้สึกประทับใจมาก"

ผู้กำกับคนเก่ง ยังได้พูดเสริมด้วยว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสารคดีด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งผมรู้สึกว่า
มันก็เป็นไดอารี่ส่วนตัวของพวกเขาแหละ บันทึกจุดหนึ่งของพวกเขาในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อย่างที่น้องๆ
บอกว่าตอนนี้เขาอาจจะไปข้างหน้าละ แต่ว่ามันคือโมเมนต์ที่เขารู้สึกอย่าวนั้นจริงๆ ก้บันทึกเอาไว้
ส่วนใครจะเติบโตเปลี่ยนไปแบบไหนอันนี้ก็แล้วแต่"

สุดท้ายให้แต่ละคนฝากถึงเหตุผลที่ทุกคนจะพลาดไม่ได้กับสารคดีภาพยนตร์เรื่องนี้



น้ำใส "ที่ไม่อยากให้พลาดอย่างคำโปรยเรื่องนี้ น้ำตาของวัยรุ่นมีหลายความหมาย
ที่เราต้องการจะสื่อออกไปแต่พูดมันออกไปไม่ได้ อยากให้ทุกคนได้มาดูหนังเรื่องนี้
ทุกคนอาจจะได้รู้จักเรามากขึ้นในแบบมุมมองที่เราอยากให้ทุกคนได้เห็น"



ปัญ "เหมือนอย่าางที่ใครหลายๆ คนได้พูดไว้ว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนสิ่งที่เรารู้สึกจริงๆ
ที่เราไม่สามารถพูดกับสื่อได้แต่พอเป็นพี่เต๋อเราก็สามารถพูดได้หมดเลยที่เรารู้สึก
อยากให้ทุกคนได้มาเข้าใจจริงๆ ว่าพวกเราไม่ได้เป็นไอดอลแบบ (ทำเสียงจู้) เราก็มีมุม
ที่เราเป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็อยากให้เข้าใจเพื่อนร่วมโลกคนนี้ พวกเราทั้ง 26 คนด้วยนะคะ"



โมบายล์ "Girls Don't Cry  อย่างที่พี่ๆ เขาบอกมามันก็ไม่ใช่แค่ไอดอลเต้นๆ มันมีอะไรมากกว่า
ที่ทุกคนยังไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัส บางคนคิดว่าถ้าไม่ได้ติดตาม BNK48 จะดูรู้เรื่องไหม หนูคิด
ว่าน่าจะดูรู้เรื่อง มันก็เหมือนเป็นมนุษย์ 26 คน ที่ทำตามความฝันต้องผ่านอะไรมาบ้างถึงจะประ
สบความสำเร็จมันก็มีอะไรที่น่าติดตามอยู่ในหนังค่ะ"



เต๋อ "ถ้าไม่นับความเป็นบีเอ็นเค สามารถดูได้ในหนังเชิงว่าเป็นหนังวัยรุ่นเรื่องหนึ่ง เราจะได้เห็นวิธีคิดต่างๆ อยากให้ลองมาดูกันเยอะๆ ผมว่าสิ่งที่เขาพูดในหนังบางอย่างมันสามารถเชื่อมโยงในชีวิตคุณได้อย่างง่ายดาย"



และก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉายพี่เต๋อ ได้โพสต์เฟสบุ๊กซึ้งๆ ถึงสาวๆ ด้วย
เรียกได้ว่าไออุ่นความผูกพันตลอดระยะเวลาที่ถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ด้วยกันนั้น
ลอยออกมาจากข้อความทุกบรรทัดเลยจริงๆ







#BNK48 #GirlsDontCry