ขนส่งฯ แจง กฎหมาย ไม่มี - ไม่พกใบขับขี่ ยังไม่มีผลบังคับใช้

24 ส.ค. 61 18:27 น. / ดู 273 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ตอนนี้ อ่านจากกระแสโซเชี่ยว มีแต่เรื่องดราม่า ไม่เข้าใจ เรื่องกฏหมายเพิ่มโทษ เรื่องการขับรถแต่ไม่มีใบขับขี่ ซึ่งคนที่มีใบขับขี่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เรามาดู ไลฟ์ข่าวนี้กันดีกว่าเพื่อความเข้าใจ
https://www.facebook.com/PR.DLT.NEW.........amp;__tn__=kC-R
จากกระแสข่าวเรื่องการปรับกฎหมายเพิ่มค่าปรับ กรณีไม่มี-ไม่พกใบอนุญาตขับรถจากปัจจุบัน ที่ได้มีการนำเสนอแก้ไขเพิ่มโทษสำคัญๆ  ประกอบด้วย 
          1.การขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอปรับเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท

          2. การขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต เดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท กฎหมายใหม่เสนอเพิ่มโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับเป็นสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท 3. การขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต เดิมมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ตามกฎหมายใหม่เสนอปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทนั้น ยังไม่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่กรมฯ เสนอปรับแก้กฎหมายดังกล่าว เนื่องมาจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนของไทย ที่มีสถิติสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีผลมาจากผู้ขับขี่เป็นหลัก ทางกรมฯ เห็นว่าการเพิ่มบทลงโทษ ที่มีโทษปรับสูงจะทำให้ ผู้ที่ยังไม่มีใบอนุญาตขับรถ ไม่พกใบอนุญาต หรือใบอนุญาตขับรถที่หมดอายุ หรือผู้กระทำผิด ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่กล้ากระทำผิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายอีก เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้
       
จากข้อมูลบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พบว่า ประเทศไทยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกนั้น และประชาชนไม่มีใบอนุญาตขับรถประมาณ 10  ล้านคน ซึ่งแสดงว่าเป็นผู้ที่ไม่เคยผ่านการอบรม ไม่ผ่านทดสอบใดๆ เหมือนกับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถือว่าไม่ปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นและอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุร้ายแรงได้
            ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ยกระดับมาตรฐานคุณภาพผู้ขับรถตามโครงการ Sure Driving/Smart Driver เพื่อเพิ่มคุณภาพมาตรฐานของผู้ขับรถให้มีทักษะและความรู้การขับรถอย่างปลอดภัย ลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนและลดสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะปรับหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถให้มีความเข้มข้น มีเนื้อหาอบรมสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ เป็นเวลา เป็น 5 ชั่วโมง มี เนื้อหาประกอบด้วย

1. (กฎหมายว่าด้วยรถยนต์, กฎหมายว่าด้วยทางหลวง และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก) จำนวน 1 ชั่วโมง 30 นาที
2. การขับรถอย่างปลอดภัยจำนวน 2 ชั่วโมง
3. จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถจำนวน 1 ชั่วโมง
4. ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและการให้ความช่วยเหลือและปฐมพยาบาล จำนวน 30 นาที 

ซึ่งเมื่อมีความรู้ความเข้าใจกฎการขับขี่ที่ถูกต้อง อุบัติเหตุบนท้องถนนก็จะลดลงตามไปด้วย  และเมื่อผ่านการอบรมจะ ต้องเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ทดสอบข้อเขียน (E-exam) และทดสอบขับรถกับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ จึงนับได้ว่าผู้ที่มีใบอนุญาตขับรถ เป็นผู้ที่ผ่านการปลูกฝังจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

  สำหรับกรณีที่กรมการขนส่งทางบก เสนอปรับแก้กฎหมาย เป็นการบูรณาการกฎหมาย 2 ฉบับ คือพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก  พ.ศ. 2522 เข้าด้วยกัน เพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแล รวมทั้งปรับปรุงรายละเอียดให้ทันต่อสภาวะปัจจุบัน รวมไปถึงการปรับเพื่อบทลงโทษกรณีที่ผู้ขับขี่กระทำผิด และเพื่อให้ผู้ขับขี่ปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามขั้นตอนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ จะต้องลงประกาศในราชกิจจาฯครบ 1 ปีไปแล้ว  ยืนยันว่ายังไม่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google