คิงเพาเวอร์ ผู้ถูกครหาว่า "ผูกขาด"
26 ส.ค. 61 23:25 น. /
ดู 252 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
สองสามวันก่อนได้ฟังข่าวจากสำนักนึง พูดถึงดิวตี้ฟรี ผู้ได้สัมปทานในสนามบินอย่างต่อเนื่องเป็น 10 ปี และตั้งข้อสังเกตุการสัมปทานได้มาอย่างไร
เป็นการประมูลแบบไหน ให้ผลประโยชน์กับรัฐเพียงพอแค่ไหน เลยอยากเอาข้อมูลตรงนี้เอามาแชร์ให้เห็นกัน
เดิมทีคิงเพาเวอร์เป็นร้านค้าปลอดอาการเล็กๆ ในเมืองที่มีอาคารมหาทุนพลาซ่าเป็นที่ตั้ง แล้วคิงเพาเวอร์ก็ได้เข้าทำการประมูลสัมปทานต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน รวมไปถึงการประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตอนนั้นผู้ที่ประมูลชนะมีอยู่ 2 ราย จากผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 5 ราย การแบ่งพื้นที่จึงถูกออกแบ่งเป็นสองส่วน ถ้าพูดถึงแค่นี้ก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีอะไรที่ผิดปกติ จนทำให้รู้สึกว่าคิงเพาเวอร์ผูกขาด จนกระทั่ง 1 ใน 2 รายไม่สามารถดำเนินกิจการดิวตี้ฟรีต่อไปได้ ทาง ทอท.จึงต้องปรับเปลี่ยนให้ร้านค้าปลอดอากรมีรายเดียวเพื่อมิให้มีข้อแตกต่าง ด้านสินค้า ราคาและบริการ และเนื่องจากลักษณะของสัมปทานที่ออกมาในรูปแบบนี้ รวมไปถึงความยาวนานนับ 10 กว่าปี สำหรับบทบาทผู้ที่ได้รับสัมปทานเจ้าใหญ่ของประเทศไทย จึงทำให้รู้สึกเหมือนว่าคิงเพาเวอร์ผูกขาด
แต่ในอีกไม่ช้าสัมปทานอันยิ่งใหญ่ กำลังจะหมดอายุลงในปี 2563 ไหนๆ ก็ไหนๆ เราลองมาย้อนดูสิ่งที่คิงเพาเวอร์จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับ ทอท. จากยอดขายกันดีกว่า ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้เงื่อนไขการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของคิงเพาเวอร์ที่ต้องจ่ายรัฐอย่างต่ำคือ 15% ต่อปี
โดยผลงานของคิงเพาเวอร์ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ตามเงื่อนไข โดยใน 1-5 ปีแรกอยู่ที่ 15% ของยอดขาย เริ่มจาก 1,200 1,600 ล้านบาทต่อปี และการจ่ายผลตอบแทนในปีที่ 6-10 ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 16%, 17%, 18%, 19% และ 20% ของยอดขาย เริ่มจาก 1,800-2,500 ล้านบาทต่อปี
ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.thebangkokinsight.com/34334
จะเห็นได้ว่าความสามารถในการส่งผลตอบแทนให้ ทอท. เพิ่มขึ้นทุกปีๆ เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าธุรกิจนี้มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นจากสิบปีที่แล้ว จึงไม่แปลกใจหรอกที่ทุกวันนี้ย่อมมีผู้เล่นมากหน้าหลายตาต้องการที่จะกระโจนเข้ามาแบ่งเค้กก้อนโตอันนี้ เมื่อเป็นที่จับตามอง ก็ย่อมจะต้องโดนกระแสคำครหาพัดพาจนทำให้บิดเบี้ยวกันไปบ้าง เป็นเจ้าใหญ่ก็ต้องทำใจแบบนี้แหละ
เครดิต: https://talk.mthai.com/politics/463012.html
เป็นการประมูลแบบไหน ให้ผลประโยชน์กับรัฐเพียงพอแค่ไหน เลยอยากเอาข้อมูลตรงนี้เอามาแชร์ให้เห็นกัน
แต่ในอีกไม่ช้าสัมปทานอันยิ่งใหญ่ กำลังจะหมดอายุลงในปี 2563 ไหนๆ ก็ไหนๆ เราลองมาย้อนดูสิ่งที่คิงเพาเวอร์จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับ ทอท. จากยอดขายกันดีกว่า ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้เงื่อนไขการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของคิงเพาเวอร์ที่ต้องจ่ายรัฐอย่างต่ำคือ 15% ต่อปี
โดยผลงานของคิงเพาเวอร์ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ตามเงื่อนไข โดยใน 1-5 ปีแรกอยู่ที่ 15% ของยอดขาย เริ่มจาก 1,200 1,600 ล้านบาทต่อปี และการจ่ายผลตอบแทนในปีที่ 6-10 ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 16%, 17%, 18%, 19% และ 20% ของยอดขาย เริ่มจาก 1,800-2,500 ล้านบาทต่อปี
ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.thebangkokinsight.com/34334
จะเห็นได้ว่าความสามารถในการส่งผลตอบแทนให้ ทอท. เพิ่มขึ้นทุกปีๆ เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าธุรกิจนี้มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นจากสิบปีที่แล้ว จึงไม่แปลกใจหรอกที่ทุกวันนี้ย่อมมีผู้เล่นมากหน้าหลายตาต้องการที่จะกระโจนเข้ามาแบ่งเค้กก้อนโตอันนี้ เมื่อเป็นที่จับตามอง ก็ย่อมจะต้องโดนกระแสคำครหาพัดพาจนทำให้บิดเบี้ยวกันไปบ้าง เป็นเจ้าใหญ่ก็ต้องทำใจแบบนี้แหละ
เครดิต: https://talk.mthai.com/politics/463012.html
แก้ไขล่าสุด 26 ส.ค. 61 23:25 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google