ศอ.บต. ยกขบวนผลิตภัณฑ์โดดเด่น “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” นำเสนอใจกลางกรุง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

20 ก.ย. 61 11:46 น. / ดู 350 ครั้ง / 4 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ศอ.บต.สานพลังประชารัฐ ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และผู้ประกอบการร้านค้าของดีชายแดนใต้ ยกผลิตภัณฑ์ ดี เด่น ดัง กว่า 50 ร้านค้า จากแนวคิด “ตลาดของดีชายแดนใต้สัญจร ของดี. . .จากร้านสู่ห้าง” จัดจำหน่าย ถึงมือผู้บริโภคกลางกรุง พร้อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการค้าการลงทุน และมนต์เสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวของกลุ่ม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในงาน “เสน่ห์ใต้ ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” 18 – 20 กันยายนนี้ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประธานในพิธี เปิดเผยว่า ปัญหาของชีวิตความเป็นอยู่ และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ให้ความสนใจและคอยติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบหมายให้ส่วนราชการทุกภาคส่วนไปร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน การช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้ต่ำด้วยโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฯลฯ โดยการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ช่วยให้เกิดผลดีในด้านการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นของประชาชนในพื้นที่ เช่น ประการแรก จะเห็นว่า มีการเพิ่มสูงขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยในปีที่ผ่านมามากถึง 1,534,193 คน และจำนวนการจับจ่าย ใช้สอยก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกันโดยรวมแล้วมีรายได้จำนวนมากกว่า 6,433.46 ล้านบาท เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคนมีความเชื่อมั่นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเป็นพื้นที่ที่น่าท่องเที่ยวสวยงามและรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ในเดินทางไปท่องเที่ยวยังพื้นที่มากขึ้น

ประการต่อมา มูลค่าการค้าชายแดนและการลงทุนเพิ่มสูงขึ้น จำแนกเป็นจังหวัดยะลา ภาคการบริการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.72 ภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.51 ภาคการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.76 และมูลค่าการค้าชายแดนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.98 จังหวัดนราธิวาส ภาคเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 และการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 ในขณะที่จังหวัดปัตตานี ภาคเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0

ประการสุดท้าย คือ ภาคอุตสาหกรรม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 มีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมไม่น้อยที่ดำเนินการแล้ว เช่น โรงงานปาล์มน้ำมัน โรงงานมะพร้าว โรงงานยางพารา โรงงานปศุสัตว์ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ ยังมีแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลในพื้นที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมยางพารา พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดสงขลาและจังหวัดนราธิวาส พื้นที่เมืองต้นแบบ ทั้งอำเภอเบตง จังหวัดยะลา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานีและอำเภอ สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส รวมทั้ง ที่จะมีการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ณ พื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ศูนย์รวบรวมและกระจายผลผลิตของประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พื้นที่ด่านการค้าชายแดนอำเภอตากใบ พื้นที่เขตอุตสาหกรรมเดิมอย่างอุตสาหกรรมบานา จังหวัดปัตตานีและอุตสาหกรรมฮาลาล อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ก็ล้วนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและรัฐบาลต้องการสร้างให้เป็นเขตเศรษฐกิจไร้รอยต่อและอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติต่อไป โดยในส่วนนี้ ศอ.บต. ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเมืองต้นแบบฯ จะเข้าไปทำหน้าที่กลไกการประสานและเชื่อมโยงให้เกิดการบริหารจัดการที่เป็นเอกภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ มหกรรม “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่รัฐบาลต้องการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ทำมาค้าขายได้ ผลทางตรง คือ ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในพื้นที่ในพื้นที่ได้ เกิดการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมทั้งระบบไปสู่พี่น้องเกษตรกรและประชาชนอื่นๆ ผลทางอ้อม คือ การใช้เสน่ห์ของสินค้าชายแดนภาคใต้ที่ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ในการเชิญชวนคนทั้งในประเทศให้ไปสัมผัสด้วยตา รับรู้ด้วยใจว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้สวยงามเพียงใด ทั้งผืนป่า ภูเขา ที่ราบและชายทะเล คนในพื้นที่มีอัธยาศัยที่น่ารักและเป็นกันเองไม่ใช่อย่างที่เห็นเป็นข่าวเช่นที่สื่อนำเสนอเพียงด้านเดียว

นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่า 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ส่งผลให้การทำมาค้าขายของประชาชนในพื้นที่เป็นไปได้อย่างยากลำบาก จนเกิดเป็นคำถามของประชาชนว่า “ผลิตแล้วจะไปขายให้ใคร” และเป็นที่มาของการมีตัวเลขสถิติรายได้ครัวเรือนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นับตั้งแต่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลาและจังหวัดปัตตานีต่ำสุดของประเทศไทยหลายปีติดต่อกัน

ศอ.บต. ได้ใช้ความพยายามในการแก้ไขปัญหาตลอดมา โดยการนำผลผลิตในพื้นที่ไปจำหน่าย ยังจังหวัดอื่นๆ เช่น ปี 2560-2561 ที่ผ่านมา ศอ.บต. ได้นำผู้ประกอบการไปจำหน่ายยังพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าของดีชายแดนใต้กว่า 80 ล้านบาท

แต่ภายหลังที่รัฐบาลได้มีโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” นับตั้งแต่ 4 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับ อัตราตัวเลขการค้าและการลงทุนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น การจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรมีมากขึ้น และตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นมากจากที่ต่ำสุดประมาณไม่เกิน 2 แสนราย แต่ปีที่ผ่านมาขยับตัวสูงขึ้นกว่า1.5 ล้านคนเศษ ในขณะที่ภาคการค้าการขายของประชาชนก็มีแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้นด้วยแนวทาง การเปิดช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งการตลาดโดยตรงและการตลาดทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดงานมหกรรม “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” เป็นการขับเคลื่อนการดำเนินการตามแนวทาง “สานพลังประชารัฐ” ของรัฐบาลที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ที่เปิดพื้นที่การจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ สิ่งสำคัญคือ การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุน นักท่องเที่ยว มีความเชื่อมั่น และเล็งเห็นถึงความพร้อม และศักยภาพด้านการค้า และสัมผัสมนต์เสน่ห์ของการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนใต้ ณ ใจกลางเมือง

ความน่าสนใจของงาน “เสน่ห์ใต้ ชายแดน” เผยให้เห็นหลายแง่มุมต่างๆ อันมีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์เฉพาะตัวของ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ ผลงานที่หาชมยาก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว่า 50 ร้านค้า ,อาหารเด่น จากวัตถุดิบคุณภาพ โดยถ่ายทอดให้เห็นในรูปแบบ “ฟู้ดแฟชั่น”ที่ผสมผสานเมนูสุดพิเศษ พร้อมวัฒนธรรมการตกแต่ง และการแต่งกายที่มีเอกลักษณ์ ทันสมัย สวยงาม ,ละครเวที และแลนด์มาร์คการท่องเที่ยว ที่จะสื่อให้เห็นภาพความประทับใจของแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีมนต์เสน่ห์ พร้อมทัศนียภาพที่งดงาม ชวนให้หลงใหลและน่าจดจำ

“เสน่ห์ใต้ ชายแดน” จึงไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้าจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นงานสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของ 5 จังหวัดชายแดนใต้อย่างใกล้ชิด ตลอดจน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้มีโอกาสพบปะกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วไปได้ทราบว่า “5 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นเมืองที่ มีศักยภาพพร้อมทั้งด้านการท่องเที่ยว การลงทุน และมีมนต์เสน่ห์ชวนให้ลงไปสัมผัส”

เชิญผู้ที่สนใจเที่ยวงาน “เสน่ห์ใต้ ชายแดน” 18 – 20 กันยายนนี้ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
แก้ไขล่าสุด 20 ก.ย. 61 11:48 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | tontago | 20 ก.ย. 61 11:55 น.

ศอ.บต. ยกขบวนผลิตภัณฑ์โดดเด่น “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” นำเสนอใจกลางกรุง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#2 | tontago | 20 ก.ย. 61 11:55 น.

ศอ.บต. ยกขบวนผลิตภัณฑ์โดดเด่น “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” นำเสนอใจกลางกรุง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#3 | tontago | 20 ก.ย. 61 11:55 น.

ศอ.บต. ยกขบวนผลิตภัณฑ์โดดเด่น “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” นำเสนอใจกลางกรุง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

#4 | tontago | 20 ก.ย. 61 11:55 น.

ศอ.บต. ยกขบวนผลิตภัณฑ์โดดเด่น “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” นำเสนอใจกลางกรุง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

ศอ.บต. ยกขบวนผลิตภัณฑ์โดดเด่น “เสน่ห์ใต้ชายแดน สัมผัสด้วยใจ ไม่ไปไม่รู้” นำเสนอใจกลางกรุง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google