RICE เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษาไต้หวัน ร่วมเรียนรู้และสัมผัสมนต์เสน่ห์ของอาหารไทย

8 ต.ค. 61 14:13 น. / ดู 267 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
อย่างที่ทราบกันดีว่า ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยเรานั้นมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านภาษา วัฒนธรรม การละเล่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของอาหาร ที่โด่งดังจนหลายคนให้การยอมรับว่าอาหารไทยเป็นอาหารที่อร่อยอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งด้วยรสชาติ วัตถุดิบ และกรรมวิธีการปรุงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวต่างชาติต่างภาษาจากทั่วทุกมุมโลกพากันหลงใหลและให้ความสนใจกับอาหารไทยมาโดยตลอด

ด้วยโอกาสอันดีที่ วิทยาลัยผู้ประกอบการสร้างสรรค์นานาชาติรัตนโกสินทร์ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตศาลายา ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต้อนรับคณะนักศึกษาแลกเปลี่ยน จากสาขาวิชาผู้ประกอบการสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซิ่วผิง (Hsiuping University of Science and Technology) แห่งเมืองไถจง สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในโครงการศึกษาภาษาและวัฒนธรรมไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติได้มาเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการแบรนด์ในตลาดไทย รวมทั้งได้ศึกษาวัฒนธรรมไทยในด้านต่างๆ อาทิ การละเล่นพื้นบ้าน การร้องเพลง รวมทั้งการทำอาหารไทยซึ่งมี อาจารย์มังกร-ภูริ ชุณห์ขจร หัวหน้าสาขาวิชานวัตกรรมการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจการประกอบอาหาร (หลักสูตรนานาชาติ) ซึ่งล่าสุดอาจารย์มังกรได้รับเกียรติให้เป็น Master Chef จาก World Master Chefs Society, London ที่เป็นทั้งอาจารย์และเป็นเชฟมืออาชีพ เป็นผู้ลงครัวเพื่อฝึกสอนให้น้องๆ นักศึกษาจากไต้หวัน ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงกรรมวิธีในการปรุงอาหารไทยอย่างถูกต้องทั้งเมนูคาวหวาน รวมถึงได้ชิมฝีมือการทำอาหารไทยของตนร่วมกันเป็นครั้งแรก


จาง เหวินเยี่ยน หรือ เควิน อายุ 20 ปี ปัจจุบันเควินกำลังศึกษาอยู่ในสาขาวิชาผู้ประกอบการสร้างสรรค์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซิ่วผิงเช่นกัน ซึ่งเควินได้มาร่วมเล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทำอาหารไทยครั้งแรกด้วยความตื่นเต้นเล็กๆ ให้พวกเราได้ฟังกันด้วยว่า

“ปกติเวลาอยู่ที่บ้านผมก็มีช่วยพ่อแม่ทำกับข้าวบ้างเป็นบางครั้ง อย่างพวกข้าวผัด หรือผัดผักง่ายๆ แต่ยังไม่เคยลองทำอาหารไทยมาก่อนเลย ซึ่งเท่าที่ผมได้ลองทำในวันนี้ก็มองว่า ในส่วนของพวกวัตถุดิบและเครื่องปรุงต่างๆ ของอาหารไทยและอาหารที่บ้านผมมีความแตกต่างกันไม่มากนัก แต่วิธีในการปรุงจะมีความแตกต่างกันพอสมควรเลยครับ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ผมได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการปรุงอาหารในแบบใหม่ๆ บ้าง ส่วนความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของรสชาติ จากเท่าที่ได้ลองทานอาหารไทยมา ผมรู้สึกว่าอาหารไทยมีรสจัดกว่าอาหารที่บ้านผม โดยเฉพาะรสเผ็ดและรสเปรี้ยวที่อาหารไทยจะโดดเด่นกว่ามากเลย เพราะอาหารที่บ้านผมจะเน้นรสชาติเค็มและรสชาติที่อ่อนกว่าครับ ซึ่งวันนี้เราได้ลองทำปอเปี๊ยะทอด แกงจืด ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และขนมบัวลอย โดยตัวผมชอบปอเปี๊ยะมากที่สุด เพราะรสชาติออกไปทางเค็มและใกล้เคียงกับอาหารที่บ้านของผม แต่รสชาติปอเปี๊ยะของไทยจะเข้มข้นกว่า และอร่อยมากๆ ครับ” เควิน เล่า


ปิดท้ายกับสาวน้อยคนนี้ หลิน หยุนถิง หรือ โซเฟีย อายุ 20 ปี ปัจจุบันโซเฟียกำลังศึกษาอยู่ในสาขาวิชาผู้ประกอบการสร้างสรรค์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซิ่วผิงเช่นกันกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งโซเฟียได้เล่าให้เราฟังว่า สาเหตุที่ตัดสินใจมาเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทย เพราะอยากทำความรู้จักกับประเทศไทย และอยากเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารที่เจ้าตัวตั้งใจว่าจะต้องมาชิมให้ได้เลยทีเดียว

“รู้สึกสนุกและได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับประเทศไทยเยอะมากเลยค่ะ ทั้งในส่วนของภาษา การละเล่นพื้นบ้านน่ารักๆ ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน  และโดยเฉพาะอาหารไทยที่ได้ลองลงมือทำเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจค่ะ เพราะว่าถึงแม้ในส่วนของวัตถุดิบอย่างพวกผักหรือเนื้อสัตว์ต่างๆ เราอาจจะมีไม่ต่างกันมาก แต่ในส่วนของวิธีการนำมาปรุงและการใช้เครื่องปรุงจะมีจุดที่แตกต่างกันพอสมควรเลย ทำให้เห็นว่าเวลาที่เราทำอาหารไทยจะต้องใจเย็นมาก (หัวเราะ) อย่างขนมบัวลอย เราก็ต้องเตรียมแป้งทำเม็ดบัวลอยก่อน ปั้นเสร็จแล้วก็เอามาต้มให้สุกแล้วพักไว้ แล้วก็หันมาต้มกะทิกับน้ำตาลจนเดือด แล้วกลับไปเอาเม็ดบัวลอยที่พักไว้มาใส่ลงไป รอจนเดือดอีกครั้งแล้วก็ปิดเตา ตรงนี้ถ้าใครอยากใส่ไข่ก็ให้เอาไข่ไก่มาตอกใส่ในน้ำเชื่อมเดือดๆ รอจนไข่แดงสุกแล้วก็ตักใส่ถ้วยทานพร้อมบัวลอยได้เลย ซึ่งเป็นวิธีการทำที่ละเอียดมากๆ รวมถึงพวกรสชาติของอาหารต่างๆ ก็จัดจ้าน ทั้งเปรี้ยว เผ็ด หวาน เค็ม ครบทุกรส ซึ่งเมื่อเทียบกับรสชาติของอาหารที่บ้านที่จะมีรสอ่อนๆ แล้วก็รู้สึกว่าแตกต่างกันมากเลย ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี และคิดว่าเมื่อกลับไปจะลองทำให้ที่บ้านทานกันดูค่ะ” โซเฟีย กล่าวทิ้งท้าย

นับว่าเป็นอีก 2 เสียงเล็กๆ ที่มาร่วมการันตีกระแสความนิยมอาหารไทยที่ทั้งถูกปากและได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติมานับไม่ถ้วน ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังนำเสนอให้เห็นถึงความประณีตและความพิถีพิถันในการรังสรรค์แต่ละเมนูออกมา เพื่อดึงเอาเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติสู่ความโดดเด่นจนยากที่ใครจะลืมเลือน.
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google