สุดยอดภาพถ่าย “หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว” โปรโมทเที่ยวไทย

“ภาพ 1 ภาพมีค่ามากกว่า 1 ล้านความหมาย” เพราะภาพถ่ายเป็นตัวแทนที่ช่วยบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์อันน่าประทับใจ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวนั้นภาพถ่ายถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ด้านศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา อาหารพื้นถิ่น สินค้า OTOP และวิถีชีวิตของแต่ละท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย เป็นมนต์เสน่ห์ของการท่องเที่ยวมิติใหม่! ในแบบที่เรียกว่า กิน อยู่ เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่นไทย           เมื่อเร็วๆ นี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดประกวดภาพถ่าย “หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว” ภายใต้แนวคิด “DESTINATIONS TO OTOP VILLAGE จุดหมาย...ปลายทาง หลากเสน่ห์ หลายผลิตภัณฑ์ วิถีชุมชน” เงินรางวัลรวม 600,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร เพื่อสร้างช่องทางการในการกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเรียนรู้การพัฒนาหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และมีสื่อภาพถ่ายที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ “โครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว : OTOP Village 8 เส้นทาง” ในพื้นที่ 31 จังหวัด จำนวน 125 หมู่บ้าน โดยแบ่งการประกวดเป็น 3 ประเภท คือ 1. ประชาชนทั่วไป 2. นักเรียน นิสิต นักศึกษา และ 3. บุคลากรในสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งมีภาพที่ส่งเข้าร่วมประกวด รวมทั้งสิ้น 3,399 ภาพ

          นิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่ายหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนในการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งได้มีการดำเนินการให้สอดคล้องกับการสนับสนุนหมู่บ้านให้มีความพร้อมในการพัฒนา 5 ด้าน (5 P) หรือหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ได้แก่ Product – การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นเป็นสินค้าที่ระลึก  Place – การพัฒนาด้านสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจ Preserve – การพัฒนาด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและศิลปวัฒนธรรมประเพณี People – การพัฒนาด้านผู้นำชุมชนให้มีวิสัยทัศน์ ประชาชนมีความรักและความสามัคคี และ Publics Relations / Promotion – การพัฒนาด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมช่องทางการตลาด 

          “การประกวดภาพถ่ายในครั้งนี้เป็นกิจกรรมสำคัญ เพราะจะเผยแพร่ไปทั่วโลก ผมมองว่าคนไทยทุกคนคือ แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่สามารถช่วยโปรโมทหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักและเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ผมอยากเห็นภาพเหล่านี้ไปปรากฏในนิตยสารสวัสดีของการบินไทย นิตยสารท่องเที่ยว หรือเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่างๆ และที่สำคัญคือ อยากให้บริษัททัวร์เพื่อเผยแพร่ภาพเหล่านี้ไปทั่วโลก อยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันเผยแพร่วัฒนธรรมซึ่งเป็นทุนอันยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก อยากให้ช่วยกันแชร์ภาพเหล่านี้ออกไป เมื่อมีคนเข้าไปเที่ยวก็จะช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชุมชน และจะทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน”
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว


  เราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ชนะเลิศการประกวดภาพถ่ายทั้ง 3 ประเภท เริ่มจาก “ซี – อนุวัฒน์ หมันเส็น” อายุ 25 ปี นักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เด็กหนุ่มจากถิ่นใต้ แดนสะตอ ใช้ทักษะความสามารถด้านการถ่ายภาพ ลั่นชัตเตอร์ โชว์ผลงานภาพ “ท่องเที่ยวสุขใจ ในหมู่บ้าน OTOP” ถ่ายทอดบรรยากาศยามเย็นริมทะเล บ้านปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ

          ซี เล่าให้ฟังว่า เป็นคนที่สนใจเรื่องการถ่ายภาพ พยายามเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาฝีมือของตนเอง จนมีโอกาสได้กลับมาฝึกงานที่บริษัททัวร์ในพื้นที่บ้านเกิดของผมคือจังหวัดสตูล เลยใช้เวลาว่างที่มีตระเวนถ่ายภาพเก็บไว้ ซึ่งแต่ละภาพให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกัน สำหรับภาพ “ท่องเที่ยวสุขใจ ในหมู่บ้าน OTOP” เป็นภาพที่ถ่ายทอดมุมหนึ่งในหมู่บ้าน OTOP ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ ชมทะเล เดินเล่นริมชายหาดในบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็น เป็นมนต์เสน่ห์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในอำเภอละงู เมืองทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดสตูลที่ใครได้พบเห็นเป็นต้องหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาบันทึกภาพความทรงจำกันอย่างแน่นอน

          “การได้รับรางวัลจากการประกวดภาพถ่ายหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่ผมจะได้มีส่วนร่วมในการบอกต่อความงดงามของบ้านปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูลที่ใครหลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่า เมืองเล็กๆ ที่ธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ อัตลักษณ์ชุมชน การดำเนินชีวิตแบบพหุวัฒนธรรม ครบครันด้วยอาหารคาว – หวาน และโดดเด่นด้วยวัฒนธรรมและประเพณีสู่สาธารณชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ หากใครมีโอกาสหรือกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวก็อย่าลืมแวะเวียนมาเที่ยวที่บ้านปากบารากันครับ” ซี กล่าวเชิญชวน

          ต่อด้วย “เอส – สุชาติ เกื้อทาน” อายุ 34 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ช่างภาพฟรีแลนด์จากดินแดนเขตวัฒนธรรมริมแม่น้ำโขง บอกเล่าวิถีชุมชนผ่านภาพถ่าย “ถนนสายวัฒนธรรม” ส่งต่อสายใยผูกพันระหว่างคน ศาสนา และวัฒนธรรม บ้านนาหมอม้า ตำบลนาหมอม้า อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทประชาชนทั่วไป ได้รับเงินรางวัล 70,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ


          เอส ถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับการถ่ายภาพว่า การถ่ายภาพที่ดีสำหรับผม ไม่ใช่การถ่ายภาพแล้วได้รับรางวัล แต่เป็นการถ่ายภาพแล้วสามารถสื่อสารให้ผู้ชม ผู้พบเห็นทราบได้ว่าผู้ถ่ายภาพต้องการนำเสนออะไร บรรยากาศหรือความรู้สึกของภาพเป็นอย่างไร สำหรับภาพ “ถนนสายวัฒนธรรม” เป็นการถ่ายทอดบรรยากาศถนนคอนกรีตที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้าง ตัดผ่านทุ่งนาเขียวขจีเพื่อเป็นเส้นทางสัญจรระหว่างหมู่บ้านไปยังวัดดงเฒ่าเก่า โดยในทุกๆ เช้า พระภิกษุจะเดินบิณฑบาตทุกเช้า ถือเป็นประเพณีชุมชนที่สืบทอดกันมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี วิถีชุมชนพื้นบ้านที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ยังไม่ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา

          “การเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม พร้อมสัมผัสบรรยากาศการของชุมชนหรือหมู่บ้านเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายหากคนในชุมชนไม่ประกาศ หรือถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นออกไป โครงการประกวดภาพถ่ายหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวนับเป็นโอกาสดีๆ ให้คนตัวเล็กๆ อย่างผมได้มีโอกาสนำเอกลักษณ์ที่มีอยู่ในชุมชนของตนเองมาบอกต่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ และก็ขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจเรื่องการท่องเที่ยววิถีชุมชนมาเที่ยวที่บ้านนาหมอม้า จังหวัดอำนาจเจริญ หรือจะเป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวอื่นๆ กันดูนะครับ รับรองว่าไปแล้วคุณจะรักแน่นอนครับ” เอส กล่าว


          และปิดท้ายกันที่ “อัฐ – อรรถพล เชิดชัยฤทธิ์” อายุ 35 ปี นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวเชิงวัฒนธรรมผ่านเลนส์กล้อง ด้วยภาพถ่าย “งานบุญดาราอั้ง” งานประเพณีท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ดาราอั้ง หรือปะหล่องในดินแดนอารยธรรมล้านนา บ้านนอแล ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทบุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ

          อัฐ พูดคุยให้ฟังว่า การทำงานพัฒนาชุมชนเป็นการทำงานร่วมกับชาวบ้าน การสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเราได้สัมผัสอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละชุมชน แต่ละหมู่บ้านก็จะมีอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวให้คนที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสและค้นหา ผมเป็นนักวิชาการพัฒนาชุมชนอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี แต่เกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีโอกาสท่องเที่ยวและทำงานในหลากหลายหมู่บ้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ชุมชนดาราอั้ง ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพจากเมียนมา มาตั้งรกรากที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ อยู่กันอย่างสุขธรรมปราศจากอบายมุข ยึดถือคติธรรม คำสอนของพระพุทธศาสนา ทุกหมู่บ้านจะมีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ และมีประเพณีวัฒนธรรมที่เคร่งครัดเป็นเอกลักษณ์ เช่น ประเพณีงานบุญดาราอั้งที่ชาวบ้านทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็กๆ จะมีส่วนร่วมในงานบุญของชุมชนเหมือนในภาพงาน “งานบุญดาราอั้ง”

          “การจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่ายหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวไปยังหมู่บ้านต่างๆ เพื่อศึกษา เรียนรู้ และท่องเที่ยวในชุมชน รวมถึงเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านของตนเอง หรือหมู่บ้านที่ตนเองเคยเดินทางไปสัมผัส ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้คนในหมู่บ้าน ในชุมชน เห็นความสำคัญและก่อให้เกิดความรักและหวงแหนบ้านเกิดของตนเองมากขึ้น ผมในฐานะนักพัฒนาชุมชนคนหนึ่งก็คาดหวังที่จะเห็นทุกๆ หมู่บ้านมีความตื่นตัวและเกิดการรวมพลังชุมชนในการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรของชุมชนให้มีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปครับ” อัฐ กล่าวทิ้งท้าย

          สุดยอดจริงๆ! สำหรับภาพที่ได้รับรางวัลจากการประกวดภาพถ่าย “หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว” เพราะนอกจากฝีมือการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว ภาพถ่ายเหล่านี้เมื่อได้รับการเผยแพร่หรือแชร์ออกไปจะช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวมิติใหม่! กับเสน่ห์ของแต่ละท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน.