เฌอปราง BNK48 กับ เจมส์ ธีรดนย์ เปิดใจชีวิตการเป็นไอดอล พร้อมให้กำลังใจเต็มเปี่ยม เชื่อมั่นว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร

18 ต.ค. 61 17:58 น. / ดู 746 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์

กำลังมาแรงสุดๆ สำหรับ 2 ไอดอลขวัญใจวัยรุ่นอย่าง "เฌอปราง อารีย์กุล" จากวง "บีเอ็นเค 48" (BNK48)
และ "เจมส์ - ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ" ที่ได้มาแสดงภาพยนตร์ด้วยกันในเรื่อง "HOMESTAY"
ซึ่งจะเข้าฉายในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 นี้ แต่ก่อนที่จะได้ดูหนังกัน คราวนี้เจมส์กับเฌอปราง
ก็ได้มาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวตนของตัวเองในบทบาทอื่นๆ นอกจากการเป็นไอดอล
ในช่องของ The Cloud จะเป็นยังไงและจะได้รู้จักพวกเขามากขึ้นขนาดไหน ไปดูกันเลยจ้า




เริ่มต้นรายการมาแบบสนุกสนานด้วยการเล่นใบ้คำกันในหมวดของผี ไม่ว่าจะเป็นผีตาโบ๋
ผีบ้านผีเรือน ผีในโรงเรียนก็มาหมดนะจ๊ะ พอเจมส์ทายถูกดีใจเหมือนถูกหวยเลย 5555555












ก่อนจะเข้าสู่บทสัมภาษณ์ในวันที่เป็นไอดอลแต่ก็ต้องไปเรียน เฌอปรางบอกว่า
"ง่ายมากค่ะ เรียนเช้า บ่ายทำงาน กลางคืนทำงาน ตื่นไปเรียนเช้าใหม่
เป็นวังวนค่ะ ไม่มีเวลาพักค่ะ"
ก่อนจะพูดถึงวิธีฟื้นฟูตัวเองว่า "กินของอร่อยกับนอนเยอะๆ ซึ่งทำไม่ค่อยได้
ช่วงสอบมักจะขอลาวันสอบค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นก็จะมีงาน แล้วก็อ่านหนังสือตอนเช้าวันสอบเลย
แต่ว่าจริงๆ ก็คือเก็บมาในห้องเรียนเรื่อยๆ อยู่แล้ว เทคนิคของเฌอคือตั้งใจเรียนในห้องค่ะ"






ก่อนจะเชื่อมบทสัมภาษณ์ต่อไปด้วยการเล่นทายคำ ซึ่งคำตอบก็คือผีบ้านั่นเอง
คำถามจึงถามว่า ไอดอลในวันที่บ้าๆ เบลอๆ เป็นยังไง เจมส์บอกว่า

"ช่วงนี้ก็เป็นอย่างนี้บ่อยครับ ปล่อยเลยตามเลยครับ" เฌอปรางเสริมว่า
"แต่นี่ (ชี้เจมส์) กลางคืนดึกๆ จะคึก ส่วนใหญ่คือถ่ายเช้าถึงเช้าอีกวันหนึ่ง นี่เบลอ
แต่พอกินอะไรบางอย่างเข้าไปก็จะดีด แล้วก็จะปล่อยมุกตลอดเวลา"




เจมส์ เผาเฌอปรางว่า
"เฌอมีปัญหาเรื่องการรับมุกฮะ คือเจอกันแรกๆ เราก็ยังไม่กล้าเล่นหรอก ก็ต้อง Keep cool
พอสนิทกันไปสักพักเท่านั้นแหละ
" เฌอปรางพูดต่อว่า "ไม่เหลือ อะไรมาหมดก็ไม่รู้ แล้วนี่คือไม่เก็ตไง"
เจมส์ เสริมว่า "แต่เดี๋ยวนี้เฌอเก็ตนะครับ (หัวเราะ)"





มีการเล่นมุกแนววิทยาศาสตร์ของเฌอปรางให้ดูด้วย นั่นก็คือ
"ถึงเราจะไม่ใช่โซเดียม แต่เราก็คอลไลน์ได้นะ" โอ๊ยยยย เอ็นดู 555555555






คำถามต่อมาคือ ไอดอลในวันที่เป็นลูกของแม่ เป็นยังไง เจมส์ เล่าว่า
"เวลาผมอยู่กับแม่ผมจะพูดเยอะ แต่เราจะเลือกเรื่องที่พูด
เราจะพูดเรื่องที่เหมือนยกยอตัวเองว่าเรามีความสุขมาก ผมไม่ค่อยได้เจอกับแม่บ่อย
เวลาคุยก็เลยเอาด้านความสุขใส่ เขาจะได้ไม่รู้ว่าที่จริงเราเครียดมาก ทำงานเยอะ"




ทัศนคติของคำว่าไอดอล
เจมส์
"ผมเคยมีตอนเด็กๆ ว่าอยากเป็นวิศวเหมือนพ่อ เพราะว่าพ่อเป็น
คือมันเหมือนเป็นความคิดเด็กๆ ว่าอยากเป็นเหมือนพ่อเฉยๆ แต่ว่าพอผมโตขึ้น คำว่าไอดอลของผม
มันคือเริ่มเลือกจากสิ่งที่เราชอบจริงๆ อาชีพที่เราอยากเป็นจริงๆ มันคือศิลปิน ที่เรามองนะ
เรารู้สึกว่าคือคนที่ทำให้เรามีแรงผลักดันตัวเองไปถึงจุดที่เราอยากเป็นได้"




เฌอปราง "ของเฌอ ถ้าเป็นเรื่องความชอบ เฌอก็มีไอดอลที่เฌอชื่นชมที่ประเทศญี่ปุ่น
นั่นทำให้เฌอได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการ อยู่ BNK48 สุดท้ายก็คือ ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งที่
เฌอจับแต่ละส่วนของเขามาผลักดันตัวเองว่าอยากให้ได้ได้แบบนี้บ้าง
เห็นเขาพยายามแล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากยอมแพ้ อยากพยายามเหมือนกัน"




วันที่เป็นตัวของตัวเองเป็นยังไง
เจมส์ "วันแรกที่ผมเจอเฌอในห้องเวิร์กชอปเราก็เปิดกันด้วยคำนี้"
เฌอปราง "คำแรกที่เปิดขึ้นมาคือเราเป็นคนจริงจังกับงานนะ นี่ก็ตอบ เราก็จริงจังเหมือนกัน
ถ้าพูดจริงๆ คือเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองในบางเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน
เป็นความคิดความเชื่อของเฌอเฉยๆ ว่า คนเราทำอะไรก็ได้ แค่เราให้เวลาหรือตั้งใจกับมันค่ะ
เฌอก็รู้สึกว่าตัวเองพิสูจน์กับมันมาหลายๆ อย่างแล้ว ตอนเด็กๆ คือ เฌออยากเรียนภาษาญี่ปุ่น
เพราะว่าอยากฟังการ์ตูนเข้าใจ เฌอก็เรียนจนพอที่จะฟังเข้าใจ ใช้ภาษาญี่ปุ่นแล้วมันมีประโยชน์
ในอนาคตขึ้นมาเฉยๆ โดยที่ไม่รู้ เรียนตั้งแต่มอต้นตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าจะได้ทำงานอะไรบ้างเหมือนกัน"




"การร้องการเต้นมันก็ค่อยๆ ดีขึ้นมาได้หลังจากที่เฌอเข้า BNK เพราะเฌอไม่เป็นเลย
ศูนย์แบบต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ติดลบด้วยซ้ำ แล้วสุดท้ายมาถึงเรื่องการแสดง ซึ่งเฌอเรียกว่าเป็นคนที่
ไม่มั่นใจในเรื่องการแสดง แล้วจะถามตลอดมันโอเคไหม มันโอเคจริงหรือเปล่า"




เจมส์ พูดถึงการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเฌอปรางว่า
"เฌอทำได้ดีมากสำหรับเรื่องแรก เพราะว่าเป็นบทที่หนักมาก และเป็นเรื่องแรกของเฌอ
คือเฌอไม่รู้หรอกว่าบทที่ตัวเองได้รับสำหรับคนที่ได้เรื่องแรกมันโหดมาก
แล้วพอเราเห็นกระบวนการ เราเห็นความที่เฌอสู้ ทุ่มเทกับมัน แล้วสุดท้ายมันออกมาดีจริงๆ"






เฌอปราง พูดต่อว่า
"แต่ว่าเรามีความเชื่อหนึ่งว่าถ้าเราทุ่มเท ทำมัน พยายามใส่แรงกับมันไปเท่าไร
เราจะยิ่งค่อยๆ ดีขึ้นกับมัน จะค่อยๆ มีความมั่นใจกับมันขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ติดเป็นเพอร์เฟกชั่นนิส
แต่ก็ใช้เพื่อที่จะทำให้ดีที่สุดเฉยๆ ค่ะ"




หากมีคนกำลังท้อ จะพูดให้กำลังใจอย่างไร
เจมส์
"มันต้องเหนื่อยก่อน คือมันมีคำหนึ่งที่ว่าก่อนที่จะเก่งต้องกากมาก่อน
มันไม่มีใครอยู่ดีๆ จะเก่งขึ้นมาเลย ถ้าในวันนี้คุณคิดว่าคุณเก่งแล้ว คุณก็จะหยุดแค่นั้น
ชีวิตเรามันคือการพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ มันคือการสู้ ไม่ใช่นั่งรอโอกาส ทำไมไม่วิ่งไปหาโอกาส
ทำไมไม่ทำตัวให้พร้อมกับโอกาสที่จะมาเสมอ แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ เชื่อในสิ่งที่ทำ
เชื่อและทุ่มกับมัน เราไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง ฟีดแบ็กเป็นยังไง"




เฌอปราง เสริมว่า "เราเชื่อว่ามันจะดี เราเชื่อในทุกๆ คนที่ทำงานร่วมกัน"
เจมส์ พูดต่อว่า "แล้วพอเราเต็มที่กับทุกอย่างแล้วมันไม่มีจุดให้เราเสียดาย
วันหนึ่งทีมันเสร็จสมบูรณ์ออกมาแล้ว เรามีความสุขแล้ว เท่านั้นมันพอ
และเชื่อว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร"






เฌอปราง กล่าวว่า "บอกเลยทั้งคู่ ตอนนั้นมันเหนื่อยมาก ใกล้เสียชีวิต ใช้คำนี้ก็ได้
เป็น 3 เดือนที่สุญเสียพลังงานชีวิตมาก เพราะว่าเฌอนอนตีสองตีสามเกือบทุกวัน
แล้วตื่นหกโมงเช้า 7 โมงเช้าคือไปเรียน เรียนเช้า ทำงานบ่าย เย็นเวิร์กชอป
เวิร์กชอปเสร็จบางทีซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้นอีก เตรียมทำงานเที่ยงคืนถึงตีสอง
เพราะฉะนั้นทุกอย่างเฌอแค่พยายามเต็มที่กับทุกโอกาส
แต่ว่าต้องดูแลร่างกายกันดีๆ นะคะ ทุกคน เพราะร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ"




Credits
YouTube: The Cloud
แก้ไขล่าสุด 19 ต.ค. 61 12:28 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | awkward55555 | 19 ต.ค. 61 12:04 น.

หลงแคปเฌอหนักเข้าไปทุกวันๆ ><

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google