ร้อนใน แผลในปากที่กวนใจคุณ
21 พ.ย. 61 15:07 น. /
ดู 268 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ร้อนในคือแผลขนาดเล็กและตื้น มีสีเหลืองหรือขาวล้อมรอบด้วยสีแดง เกิดขึ้นที่เนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากหรือเหงือก บ้างก็พบว่าเกิดขึ้นบริเวณด้านในริมฝีปาก แก้มหรือลิ้น เป็นแผล ทำให้เกิดความเจ็บและรับประทานอาหารหรือพูดคุยได้ลำบาก ซึ่งมันทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างยากลำบาก เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยพบปัญหานี้ วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านได้รู้จักเจ้าร้อนในมากขึ้น
สำหรับสาเหตุของแผลร้อนในนั้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้อย่างแน่ชัด แต่ทั้งนี้ก็อาจเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมกัน รวมทั้งอาจมีความสัมพันธ์กับปฏิกิริยาภูมิต้านทานของร่างกายด้วย โดยเฉลี่ยแล้วพบว่าคนที่เป็นแผลร้อนในบ่อยประมาณ 30-40% มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย ซึ่งสาเหตุนี้เกิดจากพันธุกรรม ดังนั้นจึงทำให้เชื่อได้ว่าโรคแผลร้อนในสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม และส่วนใหญ่ก็เกิดอาการขึ้นมาเองโดยที่ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวกระตุ้น ในขณะที่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่เกิดแผลร้อนในจากสิ่งกระตุ้นจนทำให้มีอาการกำเริบ ได้แก่
1. ความเครียด ความกังวล และความเหนื่อยล้า
2. มีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ
3. ใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลทำให้เกิดแผลร้อนใน
4. ทานอาหารร้อนจัด
5. มีอาการแพ้สารบางชนิดที่อยู่ในยาสีฟัน
6. มีภาวะขาดวิตามินและเกลือแร่บางชนิด โดยเฉพาะธาตุเหล็ก สังกะสี กรดโฟลิก และวิตามินบี12
7. แพ้อาหารบางชนิด
8. แพ้สารเคมีที่อยู่ทั้งในสิ่งบริโภคและอุปโภค เช่น น้ำยาบ้วนปาก
การรักษาด้วยตนเอง
แผลร้อนในสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยดูแลตัวเองได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยในช่องปาก เช่น การแปรงฟันโดยใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก หรือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด เพื่อให้แผลร้อนในหายได้เร็วขึ้น รวมไปถึงดื่มนม รับประทานโยเกิร์ตหรือไอศกรีม ก็สามารถช่วยลดความเจ็บปวดจากแผลร้อนในได้ หรือจะใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากที่อ่อนๆมากลั้วปากก็ได้
การป้องกันการเป็นร้อนใน
1. การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การออกกำลังกายหรือดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอก็จะสามารถช่วยลดอาการเจ็บป๋วยได้อยู่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงการช่วยลดการเป็นร้อนในอีกด้วย
2. การทานอาหารให้มีประโยชน์ การเป็นร้อนในบางทีอาจเกิดจากการขาดวิตามินบางอย่าง ดังนั้นควรทานอาหารที่มีปรธโยชน์และครบ 5 หมู่
3. แปรงฟันหลังทานอาหารแต่ละมื้อเป็นประจำ หรือใช้ไหมขัดฟันวันละครั้งก็จะสามารถช่วยทำให้ช่องปากสะอาด ไม่มีเศษอาหารหลงเหลือที่อาจไปกระตุ้นทำให้เกิดแผลร้อนใน ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโซเดียม ลอริล ซัลเฟต อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง
4. การพักผ่อนให้เพียงพอ
จบกันไปแล้วสำหรับเจ้าโรคร้อนใน ซึ่งตนผมเองก็ประสบปัญหานี้บ่อยมากจึงอยากจะมาแชร์สิ่งที่พอทราบมาให้ทุกคนได้รู้ หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google