ท้องผูกเรื่องใกล้ตัวที่คุณควรรู้

27 พ.ย. 61 15:06 น. / ดู 398 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์

ท้องผูกเชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีปัญหานี้ ท้องผูกคืออาการที่มีปัญหาของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ขับถ่ายลำบาก ซึ่งรอบนี้เราจะพาทุกท่านเจาะลึกลงไปอีก เพื่อรู้จักโรคท้องผูกนี้มากยิ่งขึ้น
ท้องผูก เกิดจากการเคลื่อนไหวของลำไส้ไม่สม่ำเสมอหรือมีการขับถ่ายลำบาก ซึ่งพฤติกรรมและความถี่ในการถ่ายอุจจาระปกติของแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกัน โดยปกติคือน้อยกว่า 3 สัปดาห์ อุจจาระของคุณอาจจะแข็งขึ้น และมีอาการถ่ายลำบากหรือเจ็บเวลาถ่าย โดยในขณะที่ท้องผูกคุณอาจจะต้องใช้แรงมากกว่าปกติในการเบ่งถ่าย หรือรู้สึกว่าไม่สามารถถ่ายอุจจาระให้สุดได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก
1. รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย
2. มีกิจกรรมทางกายหรือการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย
3. ดื่มน้ำน้อย
4. การทานยาบางชนิด (เช่น ยาต้านซึมเศร้า ยาระงับปวด ยาลดกรดในกระเพาะ และยาเสริมธาตุเหล็ก)
5. รับประทานยาระบายหรือสวนถ่ายบ่อย
6. มีการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน เช่น เดินทางไกล
7. สุขนิสัยการขับถ่ายไม่เหมาะสม เช่น ชอบกลั้นอุจจาระ
8. มีปัญหาหรือความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น ลำไส้แปรปรวน เนื้องอก หรือลำไส้อุดตัน
9. โรคและสภาวะความเจ็บป่วยต่างๆ เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง  เบาหวาน ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ โรคพากินสัน เส้นเลือดในสมองตีบ  และการได้รับบาดเจ็บของเส้นประสาท

การรักษาอาการท้องผูก
1. รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงโดยเฉพาะผักและผลไม้
2. ดื่มน้ำมาก ๆ
3. ขยันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
4. ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้ถูกต้อง
5. ไม่ควรใช้ยาระบายติดต่อกันเป็นเวลานาน
6. การใช้ยาระบายเป็นทางเลือกสุดท้ายแต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
7. การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่ท้องผูกมีสาเหตุมาจากการลำไส้เกิดการอุดตัน ตีบแคบ หรือหย่อนออกมา โดยแพทย์อาจจะมีการผ่าตัดลำไส้ใหญ่ในบางช่วงออก

ภาวะแทรกซ้อนของอาการท้องผูก
อาการท้องผูกโดยทั่วไปไม่ค่อยก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดในขณะขับถ่าย แต่หากเกิดอาการท้องผูกบ่อยมากขึ้นอาจส่งผลให้อุจจาระตกค้างอยู่ภายในลำไส้จนแห้งและแข็ง ทำให้ถ่ายออกได้ลำบากหรือไปเสียดกับผนังลำไส้และทวารหนักขณะถ่าย จึงอาจทำให้ถ่ายเป็นเลือด ในบางรายอาจพัฒนาเป็นแผลแตกรอบ ๆ ทวารหนักหรือโรคริดสีดวงทวารขึ้นได้ เนื่องจากต้องใช้แรงเบ่งในการขับอุจจาระ

จบกันไปแล้วสำหรับเรื่องของท้องผูก ที่แม้จะไม่อาการที่หนักอะไรแต่ทุกท่านก็ควรรับรู้เอาไว้ เพื่อประโยชน์ต่อไป หวังว่าทุกท่นจะได้รับข้อมูลที่ดีจากบทความนี้
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | Bolbbalgan | 12 ก.พ. 62 17:49 น.

แต่ก่อนดื่มน้ำน้อย แล้วก็ไม่ค่อยกินไฟเบอร์ เลยจะท้องผูกบ่อย เดี๋ยวนี้เราก็พยายามดื่มน้ำให้เยอะขึ้น กินไฟเบอร์ fabbella ช่วยดีท็อกซ์เยอะมาก ไม่ค่อยท้องผูกเท่าไรแล้ว พุงยุบไปเยอะเลยด้วย

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 8.1

#2 | ctoon | 3 ก.ค. 62 17:36 น.

https://hellokhunmor.com/สุขภาพชีวิตที่ดี/เคล็ดลับสุขภาพ/ป้องกันอาการท้องผูก/

ขออนุญาติมาแชร์ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องของ อาหารที่ควรกินและอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อมีอาการท้องผูกค่ะ หากคุณผู้อ่าน่ทานใดสนใจรายละเอียดของเรื่องนี้เพิ่มเติม สามารถคลิกเข้ามาอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google