คินเนติค ปักหมุดใช้เครื่องมือวัดผลสื่อนอกบ้านเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยันวัดผลได้จริงและแม่นยำ
19 มี.ค. 62 11:34 น. /
ดู 300 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเอเยนซี่สื่อนอกบ้าน นำเครื่องมือวัดผลสื่อนอกบ้านที่มีประสิทธิภาพจาก Cuende ประเทศสเปน มาใช้งานเป็นครั้งแรกในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อช่วยในการวางแผนสื่ออย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเติมเต็มการวัดผลสื่อโฆษณาครบวงจร
นางสาวอัญชลี ยุพเมฆ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเอเยนซี่ด้านบริการและวางแผนกลยุทธ์การใช้สื่อนอกบ้าน (Out of Home Media : OOH) ระดับโลก เปิดเผยว่าธุรกิจสื่อนอกบ้านเข้ามามีบทบาทต่อการตัดสินใจซื้อของผู้คนมากขึ้น และจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านของคนเมืองเฉลี่ยในแต่ละวันประมาณ 12-20 ชั่วโมง หรือโดยเฉลี่ยกว่า 70% ทำให้ภาคธุรกิจเห็นถึงความสำคัญและลงทุนในสื่อประเภทนี้มากขึ้น ดังนั้นคาดการณ์ว่าในปี 2562 ภาครวมการเติบโตของสื่อนอกบ้านจะเติบโตประมาณ 12% หากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกดีขึ้น แม้เทรนด์สื่อนอกบ้านในไตรมาสแรกจะซบเซาอยู่บ้าง เนื่องจากรอผลการเลือกตั้งทั่วไป ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลต่อไป โดยส่วนใหญ่จะรอความชัดเจนของทิศทางนโยบายของรัฐบาลใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร
การจะพัฒนาอะไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวัดผล สื่อโฆษณาก็เช่นเดียวกัน ถ้าสื่อนอกบ้านไม่มีการวัดผลก็จะไม่มีการพัฒนาสื่อนอกบ้าน เพราะก็คิดว่าลงโฆษณาไปก็เห็นกันหมด การวัดผลเป็นตัวบอกมาตรฐาน เหมือน KPI บริษัท โดยที่ผ่านมาไม่มีการวัดผลที่เป็นมาตรฐานเหมือนสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะในเรื่องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือจำนวนคนที่เห็นโฆษณา (Reach) และจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาออกไป แม้ว่าจะแสดงโฆษณาซ้ำกับคนเดิมก็ตาม (Impression) แต่จะวัดในเรื่อง การมองเห็น (Eyeballs) แทน ซึ่งไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน สำหรับเครื่องมือวัดผลสื่อนอกบ้านของควอนเด้ (Cuende) ประเทศสเปน ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงและได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยมีประสบการณ์ในด้านนี้มา 28 ปีแล้ว ใช้ดาวเทียมตรวจจับทุกจอด้วยเทคโนโลยี Geoposition และใช้สมาร์ทโฟนตรวจจับโค้ดรูปแบบการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายว่าแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือนเดินทางไปไหนบ้าง โดยมีกลุ่มตัวอย่างกว่า 400,000 คน อีกวิธีการคือใช้สัมภาษณ์ออนไลน์ และคำนวณผ่านอัลกอริทึมที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Cuende เลือกกลุ่มเป้าหมายใด เป้าหมายหนึ่งได้ หรือจะเป็นแมสก็ได้ ตอบสนองได้ทุกโจทย์การตลาดของลูกค้าได้อย่างลงตัว ช่วยทำให้การวางแผนสื่อโฆษณาได้ครบสมบูรณ์ทุกสื่อ
นับเป็นการวัดผลสื่อโฆษณาได้ครบทุกสื่อเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยการวัดผลครั้งนี้จะช่วยในการวางแผนสื่อให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นลูกค้าวัดผลอัตราส่วนผลตอบแทนการลงทุน (ROI), จำนวนเงินที่ลงโฆษณาไปหารด้วยจำนวนเรตติ้ง (CPRP), มีคนพูดถึงแบรนด์หรือสินค้า (Share of Voice) เท่าไหร่ คุ้มค่าหรือไม่ ขณะเดียวกันก็จะทำให้เจ้าของสื่อพัฒนาสื่อไปเรื่อย ๆ โดยอาจจะนำไปเชื่อมโยงหรือผสานกับสื่อโทรทัศน์และสื่อดิจิทัลต่อไป
สำหรับในเฟสแรก จะเป็นการเปิดตัวเครื่องมือวัดผลสื่อนอกบ้านเฉพาะในกรุงเทพฯ ก่อน เนื่องจากมีป้ายบิลบอร์ดจำนวนมากที่สุด เพื่อดูผลตอบรับจากลูกค้า และจากนั้นในเฟสที่สอง จะนำไปใช้วัดผลในหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ ปริมณฑลทั้งหมด รวมถึงภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น และอุดรธานี ขณะที่เฟสที่สามจะนำไปใช้วัดผลในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศเป็นลำดับต่อไป
สำหรับเทรนด์ของสื่อนอกบ้านในปี 2562 จะถูกปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบของป้ายโฆษณาดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G โดยแบ่งเป็นสัดส่วนในกรุงเทพฯ 50% และต่างจังหวัด 50% จากเดิมเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ป้ายโฆษณาดิจิทัลในต่างจังหวัด ยังเติบโตไม่มากนัก โดยเป็นผลพวงมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบความรวดเร็ว ทันสมัย และเบื่อง่าย ดังนั้นสื่อดิจิทัลจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประเภทธุรกิจ 5 อันดับแรก ที่นิยมเลือกใช้สื่อนอกบ้าน ได้แก่ 1.แบรนด์มือถือ 2.สินค้าท้องถิ่น 3.ธุรกิจความงามของคนไทย 4.เว็บไซต์ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และ 5.สถาบันการเงิน
จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ทำให้การจดจำแบรนด์สินค้าเป็นพฤติกรรมที่ฉาบฉวยตามไปด้วย รวมถึงคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้เท่าทัน ซึ่งสื่อนอกบ้านในรูปแบบของดิจิทัลถือว่าตอบโจทย์ได้ดี ผู้บริโภคจะให้ความสนใจกับสื่อที่เป็นภาพเคลื่อนไหวมากกว่าภาพนิ่ง และหากทำให้ผู้บริโภคสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อโฆษณาดังกล่าวได้ด้วย ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการจดจำแบรนด์ และตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด นางสาวอัญชลี กล่าวในตอนท้าย
การจะพัฒนาอะไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวัดผล สื่อโฆษณาก็เช่นเดียวกัน ถ้าสื่อนอกบ้านไม่มีการวัดผลก็จะไม่มีการพัฒนาสื่อนอกบ้าน เพราะก็คิดว่าลงโฆษณาไปก็เห็นกันหมด การวัดผลเป็นตัวบอกมาตรฐาน เหมือน KPI บริษัท โดยที่ผ่านมาไม่มีการวัดผลที่เป็นมาตรฐานเหมือนสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะในเรื่องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือจำนวนคนที่เห็นโฆษณา (Reach) และจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาออกไป แม้ว่าจะแสดงโฆษณาซ้ำกับคนเดิมก็ตาม (Impression) แต่จะวัดในเรื่อง การมองเห็น (Eyeballs) แทน ซึ่งไม่เพียงพอแล้วในยุคปัจจุบัน สำหรับเครื่องมือวัดผลสื่อนอกบ้านของควอนเด้ (Cuende) ประเทศสเปน ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงและได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยมีประสบการณ์ในด้านนี้มา 28 ปีแล้ว ใช้ดาวเทียมตรวจจับทุกจอด้วยเทคโนโลยี Geoposition และใช้สมาร์ทโฟนตรวจจับโค้ดรูปแบบการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายว่าแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือนเดินทางไปไหนบ้าง โดยมีกลุ่มตัวอย่างกว่า 400,000 คน อีกวิธีการคือใช้สัมภาษณ์ออนไลน์ และคำนวณผ่านอัลกอริทึมที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Cuende เลือกกลุ่มเป้าหมายใด เป้าหมายหนึ่งได้ หรือจะเป็นแมสก็ได้ ตอบสนองได้ทุกโจทย์การตลาดของลูกค้าได้อย่างลงตัว ช่วยทำให้การวางแผนสื่อโฆษณาได้ครบสมบูรณ์ทุกสื่อ
นับเป็นการวัดผลสื่อโฆษณาได้ครบทุกสื่อเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยการวัดผลครั้งนี้จะช่วยในการวางแผนสื่อให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นลูกค้าวัดผลอัตราส่วนผลตอบแทนการลงทุน (ROI), จำนวนเงินที่ลงโฆษณาไปหารด้วยจำนวนเรตติ้ง (CPRP), มีคนพูดถึงแบรนด์หรือสินค้า (Share of Voice) เท่าไหร่ คุ้มค่าหรือไม่ ขณะเดียวกันก็จะทำให้เจ้าของสื่อพัฒนาสื่อไปเรื่อย ๆ โดยอาจจะนำไปเชื่อมโยงหรือผสานกับสื่อโทรทัศน์และสื่อดิจิทัลต่อไป
สำหรับในเฟสแรก จะเป็นการเปิดตัวเครื่องมือวัดผลสื่อนอกบ้านเฉพาะในกรุงเทพฯ ก่อน เนื่องจากมีป้ายบิลบอร์ดจำนวนมากที่สุด เพื่อดูผลตอบรับจากลูกค้า และจากนั้นในเฟสที่สอง จะนำไปใช้วัดผลในหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ ปริมณฑลทั้งหมด รวมถึงภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น และอุดรธานี ขณะที่เฟสที่สามจะนำไปใช้วัดผลในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศเป็นลำดับต่อไป
สำหรับเทรนด์ของสื่อนอกบ้านในปี 2562 จะถูกปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบของป้ายโฆษณาดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G โดยแบ่งเป็นสัดส่วนในกรุงเทพฯ 50% และต่างจังหวัด 50% จากเดิมเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ป้ายโฆษณาดิจิทัลในต่างจังหวัด ยังเติบโตไม่มากนัก โดยเป็นผลพวงมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบความรวดเร็ว ทันสมัย และเบื่อง่าย ดังนั้นสื่อดิจิทัลจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งประเภทธุรกิจ 5 อันดับแรก ที่นิยมเลือกใช้สื่อนอกบ้าน ได้แก่ 1.แบรนด์มือถือ 2.สินค้าท้องถิ่น 3.ธุรกิจความงามของคนไทย 4.เว็บไซต์ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และ 5.สถาบันการเงิน
จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ทำให้การจดจำแบรนด์สินค้าเป็นพฤติกรรมที่ฉาบฉวยตามไปด้วย รวมถึงคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้เท่าทัน ซึ่งสื่อนอกบ้านในรูปแบบของดิจิทัลถือว่าตอบโจทย์ได้ดี ผู้บริโภคจะให้ความสนใจกับสื่อที่เป็นภาพเคลื่อนไหวมากกว่าภาพนิ่ง และหากทำให้ผู้บริโภคสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อโฆษณาดังกล่าวได้ด้วย ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการจดจำแบรนด์ และตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด นางสาวอัญชลี กล่าวในตอนท้าย
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google