[SCIENCE] ส่วนประกอบธรรมชาติที่สำคัญ น้ำยาปรับผ้านุ่ม
17 พ.ค. 62 07:33 น. /
ดู 1,757 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
สารที่นำมาละลายน้ำทำเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเป็นกลุ่มของ Wax derivative โดยที่ จะต้องมีหมู่โซ่อัลคิลที่ยาวพอดูแล้วอาจจะเชื่อมต่อกับหมู่ที่มีประจุบวก (ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุด) ซึ่งสามารถที่จะจับอยู่กับผิววัสดุได้ดี เนื่องจากว่าวัสดุส่วนใหญ่เมื่ออยู่ในน้ำจะแสดงประจุลบออกมาในสภาวะที่เป็นกลาง หรือ ด่าง ซึ่งกลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นสับเซตของ Cationic surfactant
แต่ที่จริงแล้วสารเพิ่มความนุ่มบนผ้าก็อาจจะมีหมู่ที่แสดงประจุเป็นลบก็ได้ ถือว่าเป็นสับเซ็ตของ Anionic surfactant หรืออาจจะมีหมู่ที่ละลายน้ำแต่ไม่แสดงประจุออกมา อันนี้ก็ถือว่าเป็นสับเซ็ตของ non-ionic surfactant
โดยสรุป สารปรับความนุ่มบนผ้าจะต้องมีโซ่ไขมันยาวๆ เพื่อทำตัวเหมือนเป็นการหล่อลื่นหรือลดแรงเสียดทานของวัสดุเอง เลยทำให้ความนุ่มลื่นเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องประจุก็ขึ้นอยู่กับหมู่แทนที่ ถ้ามีประจุบวกด้วยก็สามารถที่จะจับกับประจุลบของเส้นใยได้ ทำให้เส้นใยพองฟูดูนุ่มขึ้น เนื่องจากว่ามันจะหันส่วนไขมันออกนอกผิวผ้า
แต่ถ้าแบบไม่มีประจุการเกาะมันก็จะเกาะอยู่ข้างๆกับเส้นใยด้วยพันธะไฮโดรเจน ดังนั้นสารกลุ่มนี้จะเพิ่มความนุ่มแบบลื่นมากกว่านุ่มฟูในกรณีที่เป็นประจุลบ ส่วนที่ชอบน้ำก็จะถูกประจุลบของเส้นใยผลักออก สารกลุ่มนี้จะให้ความนุ่มที่ห่วยสุด แต่ว่าผลดีก็คือ ทำให้ผ้าที่นุ่มนี้สามารถดูดความชื้นได้ดีขึ้น พวกนี้โรงงานผ้าขนหนูชอบใช้ เพราะจะได้ผ้าขนหนูที่นุ่ม แล้วยังซึมน้ำได้ดีอยู่ในกรณีของ Wax และ Silicone oil แบบนี้มักจะให้ความนุ่มลื่น เว้นแต่มีการดัดแปรทางเคมีก็จะทำให้ผิวสัมผัสเปลี่ยนไปตามความต้องการ พวกนี้จะให้ความคงทนสูงกว่าแบบข้างต้น เนื่องจากตัวสารเองนั้นไม่สามรถละลายน้ำหลุดออกมาได้ง่าย หรือ ไม่ก็สามารถทำปฏิกิริยากับเส้นใยได้ ถ้าอบด้วยอุณหภูมิ-เวลาที่เหมาะสม
ประโยชน์
ประโยชน์ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม คือ ทำให้ผ้านุ่ม ทำให้เส้นใยฟูขึ้น
ส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
สารที่นำมาละลายน้ำทำเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเป็นกลุ่มของ Wax derivative โดยที่ จะต้องมีหมู่โซ่อัลคิลที่ยาวพอดูแล้วอาจจะเชื่อมต่อกับหมู่ที่มีประจุบวก (ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุด) ซึ่งสามารถที่จะจับอยู่กับผิววัสดุได้ดี เนื่องจากว่าวัสดุส่วนใหญ่เมื่ออยู่ในน้ำจะแสดงประจุลบออกมาในสภาวะที่เป็นกลาง หรือ ด่าง ซึ่งกลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นสับเซตของ Cationic surfactant
แต่ที่จริงแล้วสารเพิ่มความนุ่มบนผ้าก็อาจจะมีหมู่ที่แสดงประจุเป็นลบก็ได้ ถือว่าเป็นสับเซ็ตของ Anionic surfactant หรืออาจจะมีหมู่ที่ละลายน้ำแต่ไม่แสดงประจุออกมา อันนี้ก็ถือว่าเป็นสับเซ็ตของ non-ionic surfactant
โดยสรุป สารปรับความนุ่มบนผ้าจะต้องมีโซ่ไขมันยาวๆ เพื่อทำตัวเหมือนเป็นการหล่อลื่นหรือลดแรงเสียดทานของวัสดุเอง เลยทำให้ความนุ่มลื่นเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องประจุก็ขึ้นอยู่กับหมู่แทนที่ ถ้ามีประจุบวกด้วยก็สามารถที่จะจับกับประจุลบของเส้นใยได้ ทำให้เส้นใยพองฟูดูนุ่มขึ้น เนื่องจากว่ามันจะหันส่วนไขมันออกนอกผิวผ้า
แต่ถ้าแบบไม่มีประจุการเกาะมันก็จะเกาะอยู่ข้างๆกับเส้นใยด้วยพันธะไฮโดรเจน ดังนั้นสารกลุ่มนี้จะเพิ่มความนุ่มแบบลื่นมากกว่านุ่มฟูในกรณีที่เป็นประจุลบ ส่วนที่ชอบน้ำก็จะถูกประจุลบของเส้นใยผลักออก สารกลุ่มนี้จะให้ความนุ่มที่ห่วยสุด แต่ว่าผลดีก็คือ ทำให้ผ้าที่นุ่มนี้สามารถดูดความชื้นได้ดีขึ้น พวกนี้โรงงานผ้าขนหนูชอบใช้ เพราะจะได้ผ้าขนหนูที่นุ่ม แล้วยังซึมน้ำได้ดีอยู่ในกรณีของ Wax และ Silicone oil แบบนี้มักจะให้ความนุ่มลื่น เว้นแต่มีการดัดแปรทางเคมีก็จะทำให้ผิวสัมผัสเปลี่ยนไปตามความต้องการ พวกนี้จะให้ความคงทนสูงกว่าแบบข้างต้น เนื่องจากตัวสารเองนั้นไม่สามรถละลายน้ำหลุดออกมาได้ง่าย หรือ ไม่ก็สามารถทำปฏิกิริยากับเส้นใยได้ ถ้าอบด้วยอุณหภูมิ-เวลาที่เหมาะสม
ประโยชน์
ประโยชน์ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม คือ ทำให้ผ้านุ่ม ทำให้เส้นใยฟูขึ้น
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google