[SCIENCE] มะนาว ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus aurantifolia Swing.

17 พ.ค. 62 07:42 น. / ดู 1,867 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
มะนาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus aurantifolia Swing. อาณาจักร Plantae ส่วน Magnoliophyta ชั้น Magnoliopsida อันดับ Sapindales วงศ์ Rutaceae สกุล Citrus สปีชีส์ C. aurantifolia
มะนาว (อังกฤษ: lime) เป็นไม้ผลชนิดหนึ่ง ผลมีรสเปรี้ยวจัด จัดอยู่ในสกุล ส้ม (Citrus) ผลสีเขียว เมื่อสุกจัดจะเป็นสีเหลือง เปลือกบาง ภายในมีเนื้อแบ่งกลีบๆ ชุ่มน้ำมาก นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย
ลักษณะของต้นมะนาว
ผลมะนาวโดยทั่วไปมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 – 4.5 เซนติเมตร ต้นมะนาวเป็นไม้พุ่มเตี้ย สูงเต็มที่ราว 5 เมตร ก้านมีหนามเล็กน้อย มักมีใบดก ใบยาวเรียวเล็กน้อย คล้ายใบส้ม ส่วนดอกสีขาวอมเหลือง ปกติจะมีดอกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้ง จะออกผลน้อย และมีน้ำน้อย          มะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้คนในภูมิภาคนี้รู้จักและใช้ประโยชน์จากมะนาวมาช้านาน น้ำมะนาวนอกจากใช้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหารหลายประเภทแล้ว ยังนำมาใช้เป็นเครื่องดื่ม ผสมเกลือ และน้ำตาล เป็นน้ำมะนาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศทั่วโลก นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดยังนิยมฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆ เสียบไว้กับขอบแก้ว เพื่อใช้แต่งรส
ในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึง 7% แต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม และการบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้างจาน ส่วนคุณสมบัติที่สำคัญ ทว่าเพิ่งได้ทราบเมื่อไม่ช้านานมานี้ (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 19) ก็คือ การป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักเดินเรือมาช้านาน ภายหลังได้มีการค้นพบว่าสาเหตุที่มะนาวสามารถช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เพราะในมะนาวมีไวตามินซีเป็นปริมาณมาก
มะนาวมีน้ำมันหอมระเหยที่ให้กลิ่นสดชื่น เพราะมีส่วนประกอบของสารซิโตรเนลลัล (Citronellal) ซิโครเนลลิล อะซีเตต (Citronellyl Acetate) ไลโมนีน (Limonene) ไลนาลูล (Linalool) เทอร์พีนีออล (Terpeneol) ฯลฯ รวมทั้งมีกรดซิตริค (Citric Acid) กรดมาลิค (Malic Acid) และกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซึ่งถือเป็นกรดผลไม้ (AHA : Alpha Hydroxy Acids) กลุ่มหนึ่ง เป็นที่ยอมรับว่าช่วยให้ผิวหน้าที่เสื่อมสภาพหลุดลอกออกไป พร้อมๆ กับช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ๆ ช่วยให้รอยด่างดำหรือรอยแผลเป็นจางลง
ชื่อของมะนาว
มะนาวก็เหมือนกับส้มทั้งหลาย ที่มีปัญหาในการจัดหมวดหมู่และแยกแยะทางอนุกรมวิธาน สำหรับชื่อวิทยาศาสตร์ที่ค้นเคยของมะนาว ก็คือ Citrus aurantifolia Swingle หรือ "Citrus aurantifolia" ( Christm & Panz ) Swing." แต่ยังมีชื่ออื่นๆ อีก ดังนี้
C. acida Roxb.
C. lima Lunan
C. medica var. ácida Brandis และ
Limonia aurantifolia Christm
สำหรับชื่อสามัญนั้น ในหลายภาษาก็เรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น ในภาษาอังกฤษ เรียก Mexica lime, West Indian lime, และ Key lime หรือเรียก lime สั้นๆ ก็ได้ สาเหตุที่มีหลายชื่ออาจเป็นเพราะเป็นพืชต่างถิ่น จึงไม่มีชื่อดั้งเดิมในภาษานั้นๆ ทำให้เกิดการเสนอชื่ออื่นๆ มาหลายชื่อก็เป็นได้ ส่วนในประเทศไทยยังเรียกอีกหลายชื่อ เช่น โกรยชะม้า, ปะนอเกล, ปะโหน่งกลยาน, มะนอเกละ, มะเน้าด์เล, มะลิ่ว, ส้มมะนาว, ลีมานีปีห์, หมากฟ้า
อนึ่ง คำว่า เลมอน (lemon) ในภาษาอังกฤษ หมายถึง ผลส้มอีกชนิดหนึ่ง ที่หัวท้ายมน ไม่ใช่ผลกลมอย่างมะนาวที่เรารู้จักกันดี สำหรับ มะนาวเทศ (Triphasia trifolia) นั้น เป็นพืชในวงศ์เดียวกัน (Rutaceae) กับมะนาว แต่ต่างสกุล ส่วน มะนาวควาย หรือ ส้มซ่า (Citrus medica Linn. Var. Linetta.) เป็นพืชสกุลส้มเช่นเดียวกัน แต่ต่างชนิด (สปีชีส์) กัน
ส้มนาวเป็นภาษาใต้ที่ใช้เรียกมะนาว เช่นเดียวกับทางภาคอีสานเรียกผลไม้บางอย่างว่า"บัก"ในการขึ้นต้น เช่นบักม่วงที่หมายถึงมะม่วง คำว่าส้มในภาษาใต้จะใช้เรียกผลไม้บางชนิดที่มีรสเปรี้ยว อย่าง ส้มนาว ส้มขาม เป็นต้น
[แก้] พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย
1. มะนาวไข่ ผลกลม หัวท้ายยาว มีสีอ่อนคล้ายไข่เป็ด ขนาด 2-3 เซนติเมตร เปลือกบาง
2. มะนาวแป้น ผลใหญ่ ค่อนข้างกลมแป้น เปลือกบาง มีน้ำมาก นิยมใช้บริโภคมากกว่าพันธุ์อื่นๆ
3. มะนาวหนัง ผลอ่อนกลมยาวหัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีเปลือกหนา ทำให้เก็บรักษาผลได้นาน
4. มะนาวทราย ทรงพุ่มสวยใช้เป็นไม้ประดับ ให้ผลตลอดปีแต่ไม่ค่อยนิยมบริโภค เพราะน้ำมีรสขมเจือปน
มะนาวพันธุ์อื่น ๆ ได้แก่ มะนาวฮิตาชิ, มะนาวหวาน, มะนาวปีนัง, มะนาวโมฬี, มะนาวพม่า, มะนาวเตี้ย และมะนาวหนัง เป็นต้น (มะนาวบางพันธุ์อาจเรียกได้หลายชื่อ แต่ในที่นี้ไม่ได้สืบค้นเพื่อจำแนกเอาไว้)
สรรพคุณทางยา
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิค ไวตามินซี จากน้ำมะนาว ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว มีไวตามินเอ และซี ทั้งยังมีธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ำมะนาวอีกด้วย
มะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพร ขับเสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการปวดศีรษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงตา บำรุงผิว เป็นต้น
สำนวนเกี่ยวกับมะนาว
• มะนาวไม่มีน้ำ หมายถึง พูดไม่น่าฟัง ไม่ไพเราะ ไม่รื่นหู ห้วนๆ ขาดความนุ่มนวล
• องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน (จากนิทานอีสป แต่ใช้กันมานาน จนรู้สึกราวกับเป็นสำนวนไทยแท้) หมายถึง เลี่ยงที่จะยอมรับในสิ่งที่ตนต้องการ เนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จ หรือเป็นไปไม่ได้ และยอมรับสิ่งที่ไม่ต้องการแทน
นอกจากนี้ยังมีการเล่นของเด็ก เรียกว่า "ซักส้าว" ที่มีเนื้อร้องกล่าวถึง "มะนาว" ดังนี้
ซักส้าวเอย มะนาวโตงเตง
ขุนนางมาเอง จะเล่นซักส้าว
มือใครยาวสาวได้สาวเอา มือใครสั้นเอาเถาวัลย์ต่อเข้า
บ้างก็ว่า
ซักส้าวเอย มะนาวโตงเตง ขุนนางมาเอง ว่าจะเล่นซักส้าว

















บทที่ ๓
วิธีการดำเนินโครงงาน
ตารางปฏิบัติกิจกรรมโครงงาน ๑๘ - ๒๓ มกราคม ๒๕๕๓

วัน / เดือน / ปี กิจกรรมที่ปฎิบัติ สถานที่ทำกิจกรรม ผู้รับผิดชอบ
๑๘ ม.ค. ๕๓ -เลือกหัวข้อการทำโครงงานและนำเสนอครู พร้อมทั้งเหตุผลในการทำ ห้องเรียน ๔๑๗ สมาชิกในกลุ่ม
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
๑๙ ม.ค. ๕๓ -ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารในห้องสมุด ห้องสมุด สมาชิกในกลุ่ม

๒๐ ม.ค. ๕๓ -ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารในอินเทอร์เน็ต บ้านของสมาชิกในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่ม

๒๑ ม.ค. ๕๓ -ลงมือปฏิบัติทำน้ำยาล้างจานจากขี้เถ้าโดยแช่ไว้ ๓ วัน บ้านของสมาชิกในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่ม

๒๒ ม.ค. ๕๓ -ทำรายงาน บ้านของสมาชิกในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่ม

๒๓ ม.ค. ๕๓ -ตรวจสอบผลงานบันทึกผลการทดลอง บ้านของสมาชิกในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่ม








เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา
อุปกรณ์
๑. ผ้ากรอง/ตะแกงกรองสิ่งสกปรก
๒. ถังใส่น้ำ
วัสดุ
๑. ขี้เถ้า
๒. น้ำมะนาวแท้
๓. น้ำเปล่า
วิธีการทำ
        ๑. ใช้น้ำ4ส่วน ผสมกับขี้เถ้า 1 ส่วนคนให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ 3 วัน
๒.  ขี้เถ้าจะตกตะกอน ค่อยๆตักน้ำส่วนที่ใส เทใส่ผ้ากรอง
๓.  นำน้ำขี้เถ้าที่กรองแล้ว ผสมกับน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน
วิธีการศึกษา
๑. ศึกษาจากเอกสารอ้างอิง และคำบอกเล่าของผู้รู้
๒. ประเด็นการศึกษา
- ได้รู้ถึงประโยชน์ของขี้เถ้า
- ได้รู้ถึงสรรพคุณและประโยชน์ของมะนาว
- ได้รู้วิธีในการทำน้ำยาล้างจานจากขี้เถ้า
  การใช้งาน
๑. นำน้ำที่ผสมเสร็จแล้ว ไปล้างจานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำอีก


  บทที่  4
ผลการศึกษา
๑. ได้ศึกษาประโยชน์ของขี้เถ้า
๒. ได้ศึกษาประโยชนและสรรพคุณของมะนาว
๓. ได้ศึกษาวิธีการทำน้ำล้างจานจากขี้เถ้า









บทที่  5
สรุปผลการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
การทดลองทำน้ำยาล้างจานจากขี้เถ้า เป็นการนำสิ่งใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์  เป็นการฝึกทำ  เพื่อที่จะนำมาพัฒนาเป็นอาชีพเสริมได้










ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
-ได้ทราบถึงวิธีการทำน้ำยาล้างจานที่ประหยัดและปลอดภัย
ข้อเสนอแนะ
-สามารถนำมาใช่ในชีวิตประจำวันได้
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google