พลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาดสำหรับขับเคลื่อนอนาคต

จากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในประเทศทำให้หลายๆคนหันมาใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งในที่จริงแล้วปัญหาเรื่องนี้ถูกพูดถึงกันมาค่อนข้างนานมากแล้ว ซึ่ง 1 ในสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นขึ้นคือ ระบบขับของเสียของเครื่องยนต์ต่างๆโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล โดยควันดีเซลมีส่วนผสมของก๊าซ,ไอระเหย,ละอองของเหลวและสารที่สร้างขึ้นจากอนุภาค ซึ่งประกอบด้วยสารที่เกิดจากการเผาไหม้ และเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครซึ่งการคมนาคมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของมนุษย์ชาวกรุงเทพเลยทีเดียว
    แต่มีหลายๆองค์กรที่เห็นถึงปัญหาตรงจุดนี้แล้วมาช่วยกันป้องกันปัญหามลพิษที่เกิดจากการคมนาคม โดยทางหนึ่งที่น่าสนใจมากๆคือ “ระบบคมนาคม โดยใช้พลังงานไฟฟ้า” ทดแทนการคมนาคมที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลัก ซึ่งระบบคมนาคมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนเนี่ยเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากโดยวันนี้จะมาดูว่ามาระบบคมนาคมอะไรบ้างแล้วมาทดแทนได้ถึงขั้นไหน 1. รถยนต์ไฟฟ้า : รถยนต์ไฟฟ้าปลดปล่อยมลพิษค่อนข้างต่ำมาก ซึ่งจริงๆแล้วรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นที่สนใจมาค่อนข้างนานแล้วเพิ่งจะมาเกิดกระแสอีกครั้งหลังจากที่ ครม.อนุมัติ ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) โดยเสนอให้ลดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการลงทุนภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จากปัจจุบันอัตราภาษี 2% ให้ลดลงเหลืออัตรา 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 จนถึง 31 ธ.ค.2565 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปี ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจในการใช้งานค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้จะบอกว่าประเทศไทยสามารถผลิตรถไฟฟ้าได้ด้วยนะ โดยเป็นยี่ห้อ MINE Mobility เปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์-เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีที่แล้ว (จขกท.ไปดูมาด้วย น่าสนใจมากๆ) ยิ่งถ้ารัฐฯสนับสนุนจะน่าสนใจขึ้นอีกมาก




2. เรือไฟฟ้า : เรือ เป็นการคมนาคมหลักอีกหนึ่งสิ่งของคนในกรุงเทพฯ โดยเรือข้ามฝากส่วนใหญ่จะปล่อยมลพิษออกมาในรูปแบบควันดำ และเมื่อมีปัญหาควันพิษ 2.5 พุ่งขึ้นสูง ก็มีไอเดียของการนำ “เรือไฟฟ้า” มาใช้ทดแทนเรือรูปแบบเดิม เริ่มด้วยบริษัทพลังงานบริสุทธิ์หรือ EA นำเรือด่วนโฉมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจำนวน 54 ลำมาใช้ โดยตัวเรือที่กว้าง 7 เมตร ยาว 24 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 200 คนต่อเที่ยว โดย EA มีแผนจะนำมาให้บริการผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเส้นทางท่าน้ำนนทบุรีไปท่าน้ำวัดราชสิงขร เป็นเส้นทางแรก รวมระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึง 40 นาที ซึ่ง จะทยอยออกมาให้บริการประมาณ 20 ลำภายในปีนี้ และจะออกมาจนครบ 54 ลำ ภายในกุมภาพันธ์ 2563

    จากที่นำเสนอมาจะเห็นได้ว่าหลายฝ่ายได้พยายามเป็นอย่างมากที่จะลดฝุ่นควันพิษ 2.5 นี้ลง ซึ่ง จขกท. เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากจะยกมือสนับสนุนโครงการดีดีแบบนี้ ตอนนี้ก็รอให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงมาในมุมที่จับต้องได้ (ได้ข่าวว่าจะมีรุ่นที่ราคา 5 – 6 แสนด้วย) ยิ่งถ้ารัฐฯลงมาร่วมสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นในมุมการลดภาษีหรือมุมใดก็ได้ที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าต่ำลง ก็ไม่มีเหตุผลไหนที่ผู้บริโภคอย่างเราจะไม่ร่วมแรงร่วมใจใช้คมนาคมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม
CR.https://pantip.com/