6 วิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ

                  โรคหลอดเลือดสมองตีบ เสี่ยงต่อการอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นอาการที่คนทั่วไปโดยเฉพาะผู้สูงอายุจะเกรงกลัวกันมาก ซึ่งอาการดังกล่าวหมายถึง การที่แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง หรือมีอาการหลายอย่างพร้อมกัน ที่สามารถสังเกตได้ดังนี้ มีอาการชาครึ่งซีก , อ่อนแรงและหน้าเบี้ยว หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย พูดลำบาก หรือฟังไม่เข้าใจ , เวียนศีรษะ การทรงตัวไม่ดี เดินเซ กลืนลำบาก ปวดศีรษะ (บางครั้งจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง)  , พูดไม่ออก หรือไม่เข้าใจ หรือพูดไม่ชัด ทันทีทันใด , ตาข้างใดข้างหนึ่งมัว หรือมองไม่เห็น เห็นภาพซ้อน หรือมีอาการคล้ายม่านบังตาที่เป็นฉับพลัน , ปวดศีรษะรุนแรงฉับพลัน ชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน , งุนงง เวียนศีรษะ หรือเสียการทรงตัว เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดร่วมกับอาการอื่น ๆ ข้างต้น แต่ก็มีวิธีป้องกันที่เราสามารถทำได้ หรือผ่อนจากอาการหนักเป็นเบาได้ มีดังนี้           วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบ
1.ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงก่อนเกิดอาการ
2.ควบคุมระดับความดันโลหิต ปริมาณไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอดเวลา
3.ควบคุมอาหาร โดยลดอาหารรสเค็ม หวาน และมัน
4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ และอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง
5.งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
6.หากมีอาการตามที่กล่าวเอาไว้ตามข้างต้นอยู่ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

            โรคหลอดเลือดสมองตีบเมื่อเป็นแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ ดังนั้นต้องคอยควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้หลอดเลือดเกิดการตีบ อุดตัน หรือแตก หมั่นตรวจเช็กสุขภาพประจำปีอยู่เสมอเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ถ้าพบต้องรีบรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ หากใครที่เคยเป็นแล้ว แพทย์จะให้การรักษาโดยใช้ยาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคหลอดเลือดสมอง แต่การใช้ยาเหล่านี้จำเป็นต้องมีการติดตามผลและใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากถ้ามีการใช้ยาผิด ประมาทเลินเล่อ หรือไม่มีการติดตามดูแลอย่างสม่ำเสมออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรง เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ

#หลอดเลือดสมองตีบ