เลือกโรงพยาบาลผิดชีวิตแทบพัง!!!
19 ต.ค. 62 12:10 น. /
ดู 898 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เลือกโรงพยาบาลผิดชีวิตแทบพัง!!!
เคยเป็นไหมคะ ศัลยกรรมแล้วพลาดจนหน้าเกือบพัง วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ทำศัลยกรรมที่เลวร้ายของเราให้ฟังค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ เราชื่อขนม ขนมเป็นพริตตี้และนางแบบให้กับเสื้อผ้าหลายๆแบรนด์ค่ะ งานแบบนี้ก็ต้องเน้นหน้าตานิดนึงเนอะ เราจำเป็นมากที่ต้องทำให้ดูดีตลอดเวลา งานที่เรารับจะออกแนวใสๆ เซ็กซี่นิดๆ ก็ต้องปรับลุคของตัวเองให้เข้ากับงาน ขอเบรคไว้เท่านี้เราจะมาเล่าประกอบกับรูปภาพต่อไปให้ฟังค่ะ
ดูตาเราที่บวมโตนั่นสิคะ
อย่างที่บอกเราต้องทำหน้าตาให้ดูแบ๊วใสเข้าไว้ เพื่อนเราเลยแนะนำให้ไปฉีดตา Dolly Eye ค่ะ ด้วยความที่เรารีบไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมาก เห็นแก่ราคาถูกก็ตกลงทันที ตอนเราเข้าไปก็ไม่ได้เอะใจสักนิดค่ะ ว่าคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้เช็คด้วยว่าหมอเป็นใคร ปรากฎว่าสวยได้แค่ไม่นานสักพักตาเราเป็นอย่างในรูปเลยค่ะ บวมเหมือนมีก้อนเนื้ออยู่ใต้ตา ทำให้ใต้ตาของขนมดูห้อยและย้อยเหมือนคนแก่ ไม่ได้แบ๊วใสอย่างที่คิดไว้ เห็นได้ชัดเจนมาก เอานิ้วกดไปแล้วรู้สึกเจ็บ เป็นก้อนแข็ง เราเครียดมากถึงกับไม่ออกไปไหน อยู่แต่ในบ้าน งานก็ไม่ได้รับ ถ้าออกไปซื้อของต้องใส่แว่นดำ ถึงกับขาดรายได้และจิตตกไปช่วงนึง
ภาพก่อนเข้าผ่าตัดกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ
ขนมศึกษาข้อมูลอยู่พักหนึ่งว่าที่ไหนจะช่วยเราได้ เพราะส่วนที่เราฉีดอยู่ใกล้กับดวงตากลัวว่าจะเป็นอันตรายอีกอย่างเรื่องการผ่าตัดตาของขนมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก และไม่ได้แก้ไขได้ง่ายๆ เลยพยายามหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด สุดท้ายตัดสินใจเข้าไปที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซเพราะโรงพยาบาลนี้ขนมเคยข้าไปดูดไขมัน กับ Fat Transfer มา แล้วรู้สึกประทับใจกับผลลัพธ์และการบริการของที่นี่ที่ให้การต้อนรับอย่างดี รวมถึงทีมแพทย์ที่นี่ก็เชี่ยวชาญทุกคน
วันที่เข้ามาปรึกษาหมอที่นี่อีกครั้ง พอได้เข้ามาพบหมอขนมก็บอกปัญหาของขนมเลย หมอเองก็ประเมินนะคะ ว่าขนมต้องทำยังไงบ้าง หมอได้เล่าให้ฟังทุกขั้นตอนว่าจะกรีดถุงใต้ตาแล้วเลาะสารแปลกปลอมที่ฉีดไปออกมาโดยไม่ให้ทำลายเนื้อเยื่อส่วนอื่น รวมถึงเส้นเลือดและเส้นประสาทรอบดวงตา และจะแก้ไขตกแต่งให้สวยงาม แล้วเย็บปิดให้ไม่เห็นรอยแผล ฟังดูก็กลัวนะคะ แต่ขนมรู้สึกไว้ใจคุณหมอที่นี่มากเพราะเท่าที่ทราบหมอผ่านเคสพวกนี้มาแล้วมากมาย เรื่องของขนมคงจะเป็นเคสจิ๊บๆของคุณหมอไปเลย หลังจากนั้นขนมเลยนัดคิวคุณหมอเพื่อจะผ่าตัดอย่างไม่ลังเลเลยค่ะ
วันที่เข้ามาผ่าตัด ไม่รู้สึกกลัวเลยค่ะ เพราะจากที่คุยกับคุณหมอแล้วมั่นใจเรื่องความปลอดภัยมาก แต่ที่ขนมเจ็บสุดคือฉีดยาชา นอกจากนั้นก็จะรู้สึกมึนๆบางคนก็อาจจะหลับ แต่ขนมไม่หลับนะคะ ขนมก็ฟังเพลงชิวๆไปค่ะ หลังผ่าตัดเสร็จคุณหมอบอกว่าใต้ตาของขนม เหมือนซิลิโคนเหลวไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่สลายไปเองได้ ฮือ... ฟังแล้วก็เจ็บใจมากค่ะ!!! เลือกหมอผิดชีวิตพัง
อาการบวมหลังทำบอกเลยไม่ได้บวมมากอย่างที่คิดเลยค่ะ
วันแรกหลังจากผ่าเอาเจ้าก้อนซิลิโคลนออกมา มีอาการบวมนิดหน่อยค่ะไม่มาก ซ้ำตามปกติ ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ ก็ทำตามที่หมอแนะนำทุกอย่าง คุณหมอมือเบามากๆค่ะ
วันที่ 3 เริ่มแต่งหน้าได้ เริ่มออกไปข้างนอกได้ นี่เราแค่แต่งหน้าแบบใสๆจะเห็นได้ว่ารอยช้ำน้อยมาก มีเจ็บเล็กน้อย คิดว่าอีกไม่กี่วันเราก็ไปทำงาน ไปใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว
รูปวันที่ 7 ตอนนี้ตาเริ่มเข้าที่แต่งหน้าแต่งตัวออกไปข้างนอกได้แล้วค่ะ
วันที่ 7 แทบไม่เห็นร่องรอยเลยค่ะ ไม่มีรอยแผลและความเจ็บ พอใจมากสำหรับวันนี้ที่สามารถออกไปข้างนอกได้ ไปพบเพื่อนได้ตามปกติ จากตอนแรกที่รู้สึกไม่มั่นใจต้องใส่แว่นตลอด ตอนนี้ก็เปิดโชว์ดวงตาสวยๆได้แล้ว
สองเดือนผ่านไปงานปังๆ
สองเดือนผ่านไปไม่มีปัญหาอะไรให้กังวลใจอีกแล้วค่ะ งานเข้ามาเยอะ ชีวิตดีขึ้น โดยรวมขนมก็ค่อนข้างพอใจนะคะที่ซิลิโคลนใต้ตาหายไปสักที ส่วนรอยแผลก็แทบไม่เห็นถ้าไม่สังเกต ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามากค่ะ ใครที่ชะตากรรมเหมือนขนมเจอคลินิกใช้ของปลอมแบบนี้ก็ขอให้ใจเย็นและหาโรงพยาบาลหรือแพทย์ที่ปลอดภัยปรึกษาและช่วยแก้ไขโดยเร็วที่สุดนะคะ ขนมอยากขอบคุณทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซมากจริงๆค่ะ ที่ช่วยชีวิตขนมไว้ ให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
ดูตาเราที่บวมโตนั่นสิคะ
อย่างที่บอกเราต้องทำหน้าตาให้ดูแบ๊วใสเข้าไว้ เพื่อนเราเลยแนะนำให้ไปฉีดตา Dolly Eye ค่ะ ด้วยความที่เรารีบไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมาก เห็นแก่ราคาถูกก็ตกลงทันที ตอนเราเข้าไปก็ไม่ได้เอะใจสักนิดค่ะ ว่าคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้เช็คด้วยว่าหมอเป็นใคร ปรากฎว่าสวยได้แค่ไม่นานสักพักตาเราเป็นอย่างในรูปเลยค่ะ บวมเหมือนมีก้อนเนื้ออยู่ใต้ตา ทำให้ใต้ตาของขนมดูห้อยและย้อยเหมือนคนแก่ ไม่ได้แบ๊วใสอย่างที่คิดไว้ เห็นได้ชัดเจนมาก เอานิ้วกดไปแล้วรู้สึกเจ็บ เป็นก้อนแข็ง เราเครียดมากถึงกับไม่ออกไปไหน อยู่แต่ในบ้าน งานก็ไม่ได้รับ ถ้าออกไปซื้อของต้องใส่แว่นดำ ถึงกับขาดรายได้และจิตตกไปช่วงนึง
ภาพก่อนเข้าผ่าตัดกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ
ขนมศึกษาข้อมูลอยู่พักหนึ่งว่าที่ไหนจะช่วยเราได้ เพราะส่วนที่เราฉีดอยู่ใกล้กับดวงตากลัวว่าจะเป็นอันตรายอีกอย่างเรื่องการผ่าตัดตาของขนมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก และไม่ได้แก้ไขได้ง่ายๆ เลยพยายามหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด สุดท้ายตัดสินใจเข้าไปที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซเพราะโรงพยาบาลนี้ขนมเคยข้าไปดูดไขมัน กับ Fat Transfer มา แล้วรู้สึกประทับใจกับผลลัพธ์และการบริการของที่นี่ที่ให้การต้อนรับอย่างดี รวมถึงทีมแพทย์ที่นี่ก็เชี่ยวชาญทุกคน
วันที่เข้ามาปรึกษาหมอที่นี่อีกครั้ง พอได้เข้ามาพบหมอขนมก็บอกปัญหาของขนมเลย หมอเองก็ประเมินนะคะ ว่าขนมต้องทำยังไงบ้าง หมอได้เล่าให้ฟังทุกขั้นตอนว่าจะกรีดถุงใต้ตาแล้วเลาะสารแปลกปลอมที่ฉีดไปออกมาโดยไม่ให้ทำลายเนื้อเยื่อส่วนอื่น รวมถึงเส้นเลือดและเส้นประสาทรอบดวงตา และจะแก้ไขตกแต่งให้สวยงาม แล้วเย็บปิดให้ไม่เห็นรอยแผล ฟังดูก็กลัวนะคะ แต่ขนมรู้สึกไว้ใจคุณหมอที่นี่มากเพราะเท่าที่ทราบหมอผ่านเคสพวกนี้มาแล้วมากมาย เรื่องของขนมคงจะเป็นเคสจิ๊บๆของคุณหมอไปเลย หลังจากนั้นขนมเลยนัดคิวคุณหมอเพื่อจะผ่าตัดอย่างไม่ลังเลเลยค่ะ
วันที่เข้ามาผ่าตัด ไม่รู้สึกกลัวเลยค่ะ เพราะจากที่คุยกับคุณหมอแล้วมั่นใจเรื่องความปลอดภัยมาก แต่ที่ขนมเจ็บสุดคือฉีดยาชา นอกจากนั้นก็จะรู้สึกมึนๆบางคนก็อาจจะหลับ แต่ขนมไม่หลับนะคะ ขนมก็ฟังเพลงชิวๆไปค่ะ หลังผ่าตัดเสร็จคุณหมอบอกว่าใต้ตาของขนม เหมือนซิลิโคนเหลวไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่สลายไปเองได้ ฮือ... ฟังแล้วก็เจ็บใจมากค่ะ!!! เลือกหมอผิดชีวิตพัง
อาการบวมหลังทำบอกเลยไม่ได้บวมมากอย่างที่คิดเลยค่ะ
วันแรกหลังจากผ่าเอาเจ้าก้อนซิลิโคลนออกมา มีอาการบวมนิดหน่อยค่ะไม่มาก ซ้ำตามปกติ ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ ก็ทำตามที่หมอแนะนำทุกอย่าง คุณหมอมือเบามากๆค่ะ
วันที่ 3 เริ่มแต่งหน้าได้ เริ่มออกไปข้างนอกได้ นี่เราแค่แต่งหน้าแบบใสๆจะเห็นได้ว่ารอยช้ำน้อยมาก มีเจ็บเล็กน้อย คิดว่าอีกไม่กี่วันเราก็ไปทำงาน ไปใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว
รูปวันที่ 7 ตอนนี้ตาเริ่มเข้าที่แต่งหน้าแต่งตัวออกไปข้างนอกได้แล้วค่ะ
วันที่ 7 แทบไม่เห็นร่องรอยเลยค่ะ ไม่มีรอยแผลและความเจ็บ พอใจมากสำหรับวันนี้ที่สามารถออกไปข้างนอกได้ ไปพบเพื่อนได้ตามปกติ จากตอนแรกที่รู้สึกไม่มั่นใจต้องใส่แว่นตลอด ตอนนี้ก็เปิดโชว์ดวงตาสวยๆได้แล้ว
สองเดือนผ่านไปงานปังๆ
สองเดือนผ่านไปไม่มีปัญหาอะไรให้กังวลใจอีกแล้วค่ะ งานเข้ามาเยอะ ชีวิตดีขึ้น โดยรวมขนมก็ค่อนข้างพอใจนะคะที่ซิลิโคลนใต้ตาหายไปสักที ส่วนรอยแผลก็แทบไม่เห็นถ้าไม่สังเกต ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามากค่ะ ใครที่ชะตากรรมเหมือนขนมเจอคลินิกใช้ของปลอมแบบนี้ก็ขอให้ใจเย็นและหาโรงพยาบาลหรือแพทย์ที่ปลอดภัยปรึกษาและช่วยแก้ไขโดยเร็วที่สุดนะคะ ขนมอยากขอบคุณทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซมากจริงๆค่ะ ที่ช่วยชีวิตขนมไว้ ให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google