เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เสียใจ ถูกมองว่าเนรคุณ

"เจนนี่ - รัชนก สุวรรณเกตุ" หรือ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ผู้แต่งเพลงติดหูอย่าง "เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว" ล่าสุดเจ้าตัวก็มีเรื่องที่ต้องปวดหัว เพราะพี่สาวของคุณพ่อออกมาแฉในทำนองที่ว่าสาว เจนนี่ เนรคุณ ซึ่ง เจนนี่ เปิดใจต่อเรื่องนี้ว่า หลังจากที่เห็นข่าวรู้สึกอย่างไร
"หนูไม่ได้เป็นคนเห็นคนแรก หนูถ่ายงานเสร็จขึ้นรถตู้ ที่ทุกคนมองหนูเหมือนเป็นอะไรกัน แล้วแม่นั่งร้องไห้ คนในทีมแดนซ์เซอร์นั่งนิ่งกันหมด หนูก็คิดว่าแม่เจ็บแผล เพราะแม่เพิ่งผ่าตัดมา แม่ก็เอามือมาลูบหัวเรา"

คุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันถูกไหม
"ค่ะ ตั้งแต่หนูยังเล็ก"

คุณแม่ห้ามมาตลอดว่าไม่อยากให้กลับไปคุยกับคุณพ่อ
"ใช่ค่ะ คือห้ามตั้งแต่ก่อนจะมีชื่อด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่หนูรักแม่นะคะ แต่หนูมองว่าเขาก็คือพ่อ หนูก็ใช้หลากหลายคำพูด เกลี้ยกล่อมแม่ ว่าหนูอยากตอบแทนพระคุณ หนูอยากคุย หนูอยากช่วย หนูรู้สึกดีด้วยซ้ำหนูโตมากับแม่มันทำให้หนูเข้มแข็งมาก"

ไปตามหาคุณพ่อเหรอ
"ใช่ค่ะ 9 ขวบ ชวนคุณแม่ไปแล้วแม่ก็พาไปเจอที่ร้านเพื่อชีวิต แล้วก็ขอเบอร์ไว้แต่ว่าคุยกันไม่ถึงเดือนสองเดือนก็หายกันไปจนมาเจอกันอีกทีก็สองสามปีนี้"

คุณพ่อส่งเสียตลอดอันนี้จริงไหม
"อันนี้ไม่จริงค่ะ แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของพ่อด้วยเพราะว่าเขามีครอบครัวที่ต้องดูแล แต่พ่อไม่ได้ส่งเสียค่ะ หนูเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แถมเลี้ยงน้องเลี้ยงแม่ด้วยซ้ำ แล้วที่เขาบอกว่าเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอ พ่อเป็นคนแต่งให้ ก็ไม่ใช่"

เจนนี่ เป็นคนที่เคยบอกไว้ว่าทำบุญกับพระกี่วัดก็ตาม ไม่เท่าทำกับบุพการี
"ใช่ค่ะ คำนี้แม่สอนหนูตลอด แล้วหนูก็จำขึ้นใจ แล้วหนูก็นำคำที่แม่สอน มาพูดกับแม่ในวันที่แม่ไม่ให้หนูติดต่อพ่อ หนูก็บอกแม่ว่า แม่เป็นคนเคยบอกเองว่าทำบุญกับพระก็ไม่เท่าทำบุญกับคนในบ้าน ก็คือพ่อกับแม่"

ประเด็นที่บอกว่า ไม่สนิทกับคุณพ่อ มองคุณพ่อเหมือนขอทาน อันนี้จริงไหม
"อันนี้ไม่จริงค่ะ ไม่สนิทยอมรับแต่ขอทานนี่ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่เคยมองพ่อเป็นขอทาน ในส่วนของเงินที่ให้ปกติก็ให้ ในส่วนการทำเพลงเราก็คุยกันว่าถ้าเพลงไหนลูกค้าจ้างมาหนูก็จะให้เป็นค่าเพลงไป"

ระยะเวลาที่กลับมาติดต่อกันอีกรอบ การติดต่อมีปัญหาอะไรบ้างไหมหรือว่าราบรื่นดี
"หนูขออนุญาตพูดปกป้องตัวเอง คือทุกครั้งที่เราคุยกันเรื่องเงินมันไม่ลงตัว มันไม่ต้องเจาะลึกว่าทำไมแต่มันไม่ลงตัวมันจะมีความรู้สึกเฮ้อกันทั้งคู่"

ที่ทะเลาะกับคุณพ่อ เกิดอะไรขึ้น
"ก็คือหนูให้คุณพ่อแต่งเพลงให้ลูกค้าแล้วหนูก็เพิ่งโอนค่าเพลงไปให้คุณพ่อ 3000 บาทแล้วหลังจากนั้นสองวันกว่าพ่อก็โทรมาอีกโทรมาประมาณสี่สายแต่หนูไม่รับเพราะหนูรู้ว่าเดี๋ยวจะต้องคุยเรื่องอะไร แล้ววันนั้นเป็นวันที่แม่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ แล้วหนูเป็นห่วงแม่มาก แม่ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล ก็มีก้อนเนื้ออะไรก็ไม่รู้อยู่ในตัวแม่เราก็เป็นห่วงกันทั้งบ้าน ถ่ายเอ็มวีให้ลูกค้าก็ต้องถ่าย เป็นห่วงแม่ก็เป็นห่วง พอคุยไปคุยมาก็เป็นอย่างที่คิดก็คือเข้าเรื่องเดิมสเต็ปเดิม หนูก็ยิงตรงเลยว่าพูดเรื่องอื่นบ้างได้ไหมคะ เพราะว่าหนูเสียความรู้สึก คือหนูต้องพูดตรงๆ ไม่งั้นก็จะเป็นอย่างนี้ แต่ความตรงของหนูในวันนั้นมันเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น"

ตอนนั้นอาจจะเป็นความเหนื่อย
"หนูเหนื่อยมาก แม่ผ่าตัดมีก้อนเนื้อสี่ก้อนในตัว แล้วหมอกำลังตรวจอยู่ ไม่ได้การันตีว่าแม่จะเป็นร้ายแรง หรือเป็นเบาแต่เราเป็นห่วง แล้วหนูถ่ายงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าเสร็จ 6 โมงเย็นแล้วมาเจออะไรแบบนี้มันก็แย่"

คนที่มาเขียนข้อความเป็นญาติของคุณพ่อหรือ
"คุณแม่บอกว่าเป็นพี่ของพ่อ ซึ่งหนูไม่รู้จักมาก่อน วันที่หนูเห็นเขาโพสต์หนูถามตัวเองก่อนว่า พ่อเกี่ยวหรือเปล่า แล้วหนูก็นั่งรออยู่ว่าเมื่อไรพ่อจะออกมาโพสต์ปกป้อง เมื่อไรจะพูด สุดท้ายพ่อก็ไม่พูด นั่นก็ทำให้เรามั่นใจว่า โอเคน่าจะมาจากพ่อด้วยส่วนหนึ่ง"

ตอนนี้คุณพ่อได้ออกมาชี้แจงแล้ว
"โพสต์แล้ว ซึ่งหนูก็ดีขึ้นแต่ก็ยังคงเสียใจเพราะว่าหนูไม่อยากมีข่าวแบบนี้ ซึ่งคุณพ่อบอกว่าขอโทษหนู แต่เขาก็มีการเข้าข้างคุณป้า เพราะเขาเป็นพี่สาว ซึ่งหนูไม่โกรธพ่อ พ่อจะขอตังค์ เลิกกับแม่ จะอะไรก็แล้วแต่หนูไม่เคยโกรธพ่อ แล้วหนูก็ยินดีที่จะคุยกับพ่อแต่หนูไม่ขออภัยให้กับคุณป้า"

น้อยใจไหม
"ไม่น้อยใจค่ะ แต่จะมาน้อยใจก็ช่วงหลังที่ทำไมไม่เข้าใจหนูบ้าง ให้ 10 ครั้ง กับไม่ให้ครั้งเดียว มันเป็นแค่ครั้งเดียวที่เราไม่ให้ บางทีมันก็ต้องมีบ้างหรือเปล่า เราจะให้ได้ยังไงทุกครั้ง"

หลายคนอยากรู้ให้เงินเดือนพ่อเท่าไร
"อันนี้เอาตรงๆ ให้เดือนละ 5000 บาท"

บางคนรู้สึกว่าทำไมให้คุณพ่อน้อยจัง
"คือเอาจริงๆ หนูอยู่กับแม่ พ่อจะมาเอาเท่าแม่ไม่ได้ แล้วหนูก็บอกว่า 5000 บาทน่าจะสมเหตุสมผลแล้ว มันอาจจะน้อยไปสำหรับทุกคนแต่หนูเป็นคนที่หนูรู้ดีว่าแต่ละบาทกว่าจะได้มามันเหนื่อยมาก แล้วการที่ 5000 บาทนี้มันไม่ได้เสมอไป บางทีสองสามวันมีมาอีกเรื่องสองเรื่องสามเรื่องก็ให้กันไปอีก"

ให้คุณแม่เดือนละเท่าไร
"200,000 บาทค่ะ วันที่เราสามคนไม่มีข้าวกิน วันนั้นเราไม่มีพ่อนะคะ วันที่เราหนีหนี้นอกระบบ วันที่หนูต้องดร็อปเรียนเลี้ยงน้อง วันนั้นหนูไม่มีป้าไม่มีพ่ออะไรทั้งนั้น ไม่มีใครเห็นหนูด้วยซ้ำ หนูให้แม่เดือนละ 200,000 บาท มันยังน้อยไป ถ้าวันที่พ่อทิ้งไปแล้วแม่ทิ้งหนูด้วยหนูจะมีชีวิตอยู่มาถึงทุกวันนี้ไหม"

วันที่หนีหนี้นอกระบบมันโหดขนาดไหนสำหรับครอบครัว
"หนูดร็อปเรียน หนูทำงานคืน 4-5 ร้าน วินาทีนั้นไม่เห็นมีใครมายื่นมาเรียกร้องอะไร เรียกร้องกับใครก็ไม่ได้ แต่ทำไมวันนี้ทุกคนมารุมทำร้ายหนู หนูไม่อยากพูดมากเพราะหนูรู้ว่ามันจะทำร้ายพ่อ ทุกคนไม่ต้องไปโกรธพ่อเพราะเขาก็มีเหตุผล เขาเงินไม่พอ แต่ที่หนูต้องพูดเพราะหนูต้องปกป้องตัวเองเพราะป้าคนนั้นเขาบอกว่าหนูเนรคุณ ทั้งๆ ที่หนูไม่เคยเนรคุณเลย"




#เจนนี่รัชนก