วิธีง่าย ๆ ในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบที่เราไม่ควรมองข้าม

              โรคหลอดเลือดสมองตีบถือเป็นโรคอย่างหนึ่งที่สามารถคร่าชีวิตของเราไปได้ภายในเวลาไม่นาน ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองตีบนี้เกิดจากการที่มีลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดระหว่างที่เลือดกำลังไหลไปตามกระแสเลือดเข้าสู่สมอง หรืออาจจะมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดสมอง และขยายใหญ่ขึ้นจนอุดตันเส้นเลือดในสมอง หรือทำให้เส้นเลือดในสมองตีบจนเลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ทำให้หลอดเลือด หรือเส้นเลือดตีบแคบลง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบก็มีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุทั้ง อายุที่เริ่มมากขึ้น , การแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ , ความดันโลหิตสูง , เบาหวาน , ไขมันในเลือดสูง , โรคหัวใจ , สูบบุหรี่ , การใช้ยาคุมกำเนิด , โรคซิฟิลิส เป็นสาเหตุของอาการหลอดเลือดอักเสบ และหลอดเลือดแข็ง , ขาดการออกกำลังกายอย่างพอเพียง และเหมาะสม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบได้ โดยวิธีป้องกันที่เราสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบได้มีดังนี้
      วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบ
1.ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงก่อนเกิดอาการ
2.ควบคุมระดับความดันโลหิต ปริมาณไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอดเวลา
3.ควบคุมอาหาร โดยลดอาหารรสเค็ม หวาน และมัน
4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปดาห์ และอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง
5.งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
6.หากมีอาการชา หรืออ่อนแรงที่ใบหน้า หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย , พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ขยับปากได้ไม่ปกติ น้ำลายไหล กลืนลำบาก , ปวด หรือเวียนศีรษะเฉียบพลัน , ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือเห็นเพียงครึ่งซีก หรืออาจจะตาบอดข้างเดียวเฉียบพลัน , เดินเซ ทรงตัวลำบาก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
        เพราะโรคหลอดเลือดสมองตีบมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด แต่ก่อนที่แพทย์จะตัดสินใจเลือกวิธีการรักษา ผู้ป่วยจะต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด วิธีที่แพทย์ใช้ในการตรวจเพื่อยืนยันโรคหลอดเลือดสมองตีบ มีดังนี้ทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย ตรวจเลือด , เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ , เอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า , ตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดแดงที่คอ , การฉีดสีที่หลอดเลือดสมอง , การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงความรวดเร็วในการรักษาถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะยิ่งปล่อยไว้จะทำให้สมองเกิดความเสียหายมากขึ้น โดยการรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบจะแตกต่างกันไปตามชนิดของโรคค่ะ #หลอดเลือดสมองตีบ