ลูกแพ้อาหาร อาการที่คุณพ่อคุณแม่กังวลที่สุด!!!

เมื่อลูกเข้าสู่วัยที่เริ่มทานอาหารได้ อาการที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านมักเกิดความกังวลคือ "ลูกแพ้อาหาร" ซึ่งคุณหมอหลายท่านก็ให้คำแนะนำเบื้องต้น ด้วยการให้ลูกเริ่มทานอาหารใหม่ทีละชนิด ทุก 3-5 วัน เพื่อทดสอบอาการแพ้อาหารของลูก ซึ่งการแพ้อาหารในเด็ก เกิดได้จากหลายปัจจัย ในปัจจุบันพบว่าการแพ้อาหารในเด็กมีอัตราเพิ่มมากขึ้นถึง 80% ของทารกในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการที่แม่ทานอาหารชนิดเดียวกันซ้ำๆ ตั้งแต่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์ จึงทำให้ลูกมีความเสี่ยงที่จะแพ้อาหารสูง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และหมุนเวียนกันให้หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เรื่องของกรรมพันธุ์ หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ 1 คนจะมีความเสี่ยงได้ถึง 40% หรือเผ่าพันธุ์ คนผิวดำที่ไม่ใช่คนเอเชีย เพศชายก็มีความเสี่ยงสูง รวมไปถึงการขาดวิตามินดี ก็เพิ่มความเสี่ยงในการแพ้อาหารได้เช่นกัน
อาการแพ้อาหารมักจะเกิดขึ้นภายใน 2 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นหลังจากทานอาหารที่แพ้เข้าไป ไม่ว่าอาหารนั้นจะผ่านความร้อนจากการประกอบอาหารมาแล้วหรือไม่ก็ตาม  ซึ่งอาการแพ้อาหารของแต่ละรายอาจไม่เท่ากัน บางคนอาจแค่เป็นผื่นคัน แต่ในบางรายอาจมีอาการท้องเสีย อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งอาการแพ้อาหารแบ่งได้ 2 แบบ
แพ้อาหารแบบเฉียบพลัน จะเริ่มมีอาการแพ้เมื่อรับประทานอาหารเข้าไป หลังรับประทานไปแล้วก็อาจจะเกิดการปากบวม หนังตาบวม คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก อาจอยู่ในสภาวะช็อก ความดันต่ำ ไม่รู้สึกตัว หายใจหอบเหนื่อย ชีพจรเบาและเร็ว หมดสติ เป็นต้น
แพ้อาหารแบบช้าๆ  เกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารนั้นๆ เข้าไปนานกว่า 1-24 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะมีการคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ลมพิษ ผื่นคันตามปาก คอ จมูก ตา ปวดเมื่อยเนื้อตัว ปวดศีรษะ เป็นต้น
ซึ่งกลุ่มอาหารที่มักมีอาการแพ้ ได้แก่อาหารประเภท นม ถั่ว รวมไปถึงอาหารทะเลที่มีเปลือก เช่น กุ้งหรือหอย ในกรณีที่มีการแพ้ นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง และแป้งสาลี เมื่อโตขึ้นอาการแพ้มีแนวโน้มที่จะลดน้อยลง แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ตลอดชีวิต
ในปัจจุบันก็มีการนำเอาอาหารชนิดอื่นมาทดแทนสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อาหาร แต่ยังคงคุณประโยชน์เช่นเดิม เช่น น้ำนมข้าว ซึ่งน้ำนมข้าว มีคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารบริบูรณ์ต่อร่างกายในระดับหนึ่ง ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความมันป้องกันการเกิดสิว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ น้ำนมข้าวรวงอ่อนยังสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นอีกด้วย
เพราะน้ำนมข้าวมีประโยชน์มากมาย ฟอร์แคร์ จึงได้คิดค้น Balance Organic Rice Drink น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก ที่ผลิตจากข้าวกล้องออร์แกนิก ปลูกและเก็บเกี่ยวด้วยน้ำพักน้ำแรงของเกษตรกรไทยในภาคอีสาน ภายใต้แนวคิดเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล USDA (สหรัฐอเมริกา) และ EU (สหภาพยุโรป) ที่เน้นการควบคุมทั้งระบบนิเวศของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งดิน แหล่งน้ำและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงกระบวนการผลิตทั้งหมด ให้ปราศจากสารเคมีเจือปนอย่างแท้จริง ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ที่คนแพ้กันมาก 8 ชนิด และมีแคลเซียมจากพืชธรรมชาติ
• Balance Organic Rice Drink เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพทุกคน
• เด็กที่แพ้อาหาร เช่น แพ้กลูเตน แพ้นม แพ้โปรตีนถั่วเหลืองและสารก่อภูมิแพ้กลุ่ม Top 8
• คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอดหรือให้นม ใช้เสริมแคลเซียมแทนนมวัว เพื่อลดโอกาสเสี่ยงและป้องกันลูกเป็นภูมิแพ้/แพ้อาหารกลุ่ม Top 8
• ผู้ที่ต้องการอาหารปลอดสารเคมี เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง
• ผู้ที่ทานเจ และมังสวิรัติ ในปัจจุบันนี้อัตราการแพ้อาหารในเด็กพบได้มากขึ้นกว่าในอดีตและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย การหันมาดูแลสุขภาพตนเอง และคนที่คุณรักจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยน้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพทั่วไป และเหมาะเป็นพิเศษสำหรับเด็กที่แพ้อาหาร แพ้นมวัว แพ้โปรตีนถั่วเหลืองและแพ้กลูเตน คุณแม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ปลอดภัยแม้สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เบาหวาน ก็สามารถรับประทานได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.4care.co.th/