รวม 12 มาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ลดผลกระทบ COVID-19
12 มี.ค. 63 12:02 น. /
ดู 659 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
รวมมาตรการช่วยเหลือของทางภาครัฐ เฟสที่ 1
เพื่อบบรรเทาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบของไวรัส COVID-19
ครอบคลุมทั้งนโยบายทางด้านการเงิน ภาษี และช่วยเหลือด้านอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย
เพื่อบบรรเทาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบของไวรัส COVID-19
ครอบคลุมทั้งนโยบายทางด้านการเงิน ภาษี และช่วยเหลือด้านอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย
Highlight ของมาตรการช่วยเหลือจากโควิด-19 เฟสแรกของรัฐบาล]
คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะดูแลลดผลกระทบให้กับประชาชน พนักงานบริษัท ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย
แนวคิดหลักของมาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้คือ "ทันการณ์ ตรงเป้าหมาย และชั่วคราวตามจำเป็น" ซึ่งเน้นการปรับลดเงื่อนไขต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ช่วยเหลือทางด้านเงินลงทุน และมาตรการทางภาษีที่เกี่ยวข้อง
มาตรการที่หลายคนน่าจะสนใจเป็นพิเศษ คงจะเป็นคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าก่อนกำหนด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ทำให้แต่ละครอบครัวจะมีเงินมาใช้จ่ายมากขึ้น เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยเลย
หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และเริ่มกระจายออกไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็ได้สร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัวของผู้คนทั่วทุกมุมโลก เพราะไม่ใช่เรื่องว่าตัวเองจะติดเชื้อไวรัสหรือไม่ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากการแพร่ระบาดข้ามทวีปจากเอเชีย ไปยังทวีปยุโรปและอเมริกาก็คือภาวะเศรษฐกิจที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงไม่แพ้กันเลย
แนวคิดหลักของมาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้คือ "ทันการณ์ ตรงเป้าหมาย และชั่วคราวตามจำเป็น" ซึ่งเน้นการปรับลดเงื่อนไขต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ช่วยเหลือทางด้านเงินลงทุน และมาตรการทางภาษีที่เกี่ยวข้อง
มาตรการที่หลายคนน่าจะสนใจเป็นพิเศษ คงจะเป็นคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าก่อนกำหนด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ทำให้แต่ละครอบครัวจะมีเงินมาใช้จ่ายมากขึ้น เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยเลย
หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และเริ่มกระจายออกไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็ได้สร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัวของผู้คนทั่วทุกมุมโลก เพราะไม่ใช่เรื่องว่าตัวเองจะติดเชื้อไวรัสหรือไม่ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากการแพร่ระบาดข้ามทวีปจากเอเชีย ไปยังทวีปยุโรปและอเมริกาก็คือภาวะเศรษฐกิจที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงไม่แพ้กันเลย
ทำไมรัฐบาลถึงต้องออกมาตรการช่วยเหลือพิเศษ?
เนื่องจากก่อนหน้านี้เศรษฐกิจของประเทศไทย ก็อยู่ในภาวะชะลอตัวมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ทางรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากโครงการ "ชิมช้อปใช้" ที่ได้รับความร่วมมือจากร้านค้าต่างๆที่เข้าร่วมโครงการ และออก โปรโมชั่น
ทั้ง ลดราคา ซึ่งมีออกมาถึง 3 เฟส เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้นในภาคครัวเรือน รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยก็เป็นตัวส่งสัญญาณว่าตอนนี้สภาพเศรษฐกิจของประเทศเป็นยังไง แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ได้เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นมา ซึ่งในช่วงแรกอาจจะดูไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่เพราะเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ไม่ธรรมดา สามารถแพร่ติดต่อได้อย่างรวดเร็วเกินกว่าใครจะคาดคิด ทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 100,000 คน และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้เลย ส่งผลกระทบไปในวงกว้างทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจสายการบินและท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบเต็มๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก คนไม่กล้าเดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยง และบางประเทศถึงขนาดต้องปิดประเทศ เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก นักท่องเที่ยวลดลงกว่า 44% ในเดือน ก.พ. 63 ส่งผลกับธุรกิจต่างๆ เป็นลูกโซ่อย่างเลี่ยงไม่ได้
ทั้ง ลดราคา ซึ่งมีออกมาถึง 3 เฟส เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้นในภาคครัวเรือน รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยก็เป็นตัวส่งสัญญาณว่าตอนนี้สภาพเศรษฐกิจของประเทศเป็นยังไง แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ได้เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นมา ซึ่งในช่วงแรกอาจจะดูไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่เพราะเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ไม่ธรรมดา สามารถแพร่ติดต่อได้อย่างรวดเร็วเกินกว่าใครจะคาดคิด ทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 100,000 คน และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้เลย ส่งผลกระทบไปในวงกว้างทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจสายการบินและท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบเต็มๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก คนไม่กล้าเดินทางไปในประเทศที่มีความเสี่ยง และบางประเทศถึงขนาดต้องปิดประเทศ เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก นักท่องเที่ยวลดลงกว่า 44% ในเดือน ก.พ. 63 ส่งผลกับธุรกิจต่างๆ เป็นลูกโซ่อย่างเลี่ยงไม่ได้
สภาวะเศรษฐกิจที่แต่เดิมก็ไม่ได้เติบโตในระดับดีอยู่แล้ว เมื่อเจอความรุนแรงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซ้ำเติมเข้าไปอีก ยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจต่างๆ มากกว่าเดิม หลายบริษัทต้องลดจำนวนพนักงานลง หรือร้ายแรงที่สุดก็คือเลิกกิจการไปเลย จะเห็นว่าถ้ายังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปก็คงไม่รอดกันหมดแน่นอน ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน จึงทำให้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือและลดกระทบที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึง 12 มาตรการที่จะเข้ามาดูแลเบื้องต้น แต่นี่เป็นเพียงแค่เฟสแรกเท่านั้น ถ้าหากยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจภาพรวมฟื้นขึ้นมาได้ เชื่อว่าทางภาครัฐจะต้องมีมาตรการอื่นๆ ออกมาเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือที่ พี่ promotion นำมาแจ้งนี้ทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 สามารถแบ่งออกเป็น 3 หมวดใหญ่ ได้แก่ มาตรการทางการเงิน, มาตรการทางภาษี และมาตรการช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน แต่เท่าที่ได้ลองอ่านแล้วจะเน้นไปทางธุรกิจซะเป็นส่วนใหญ่เน้อ
มาตรการทางการเงิน
(1) มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
แนวทางในการดำเนินการ จะให้ธนาคารออมสินสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้สถาบันการเงินอื่นๆ อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ ในอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี วงเงินสูงสุดไม่เกินคนละ 20 ล้านบาท เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบที่ขาดสภาพคล่องให้ช่วงเวลานี้
(2) มาตรการพักต้นเงินลดดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ*
ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้และเงื่อนไขการรับประกันในด้านต่างๆ เช่น พักชำระหนี้เงินต้น ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ และผ่อนคลายเงื่อนไขการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น และยังมีมาตรการสินเชื่อเพิ่มเติมเสริมสภาพคล่อง รวมถึง Refinance หนี้บัตรเครดิตอัตราดอกเบี้ยพิเศษอีกด้วย
*สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
(3) มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ
ธนาคารแห่งประเทศไทยออกแนวทางให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย อาทิ ผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อปกติ เพิ่มความยืดหยุ่นอนุมัติเงินกู้ เพื่อให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ หรือสามารถดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปได้
(4) มาตรการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ของสำนักงานประกันสังคม
สำนักงานประกันสังคมร่วมกับสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์ "สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ" วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้ธุรกิจสามารถจ้างงานลูกจ้างต่อไปได้
มาตรการทางภาษี
(1) มาตรการคืนสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ
ลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ชั่วคราว จากเดิม 3% เป็นอัตราใหม่ 1.5% ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 ก.ย. 63
ลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ชั่วคราว จากเดิม 3% เป็นอัตราใหม่ 2% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 - 30 ธ.ค. 64
เฉพาะการจ่ายผ่านระบบการหักภาษี ณ ที่จ่ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax) เท่านั้น
(2) มาตรการภาษีเพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของผู้ประกอบการ
ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะสามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับรายจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 31 ธ.ค. 63
(3) มาตรการส่งเสริมเสถียรภาพของการจ้างงาน
ผู้ประกอบการ SMEs หักค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าจ้างของเดือนเม.ย. - ก.ค. 63
(4) มาตรการเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้ผู้ประกอบการภายในประเทศเร็วขึ้น
คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกที่ดี
กรณียื่นแบบ ภ.พ.30 ผ่านทางอินเทอร์เน็ต จะได้รับเงินคืนภายใน 15 วัน
กรณียื่นแบบ ภ.พ.30 ที่สำนักงานสรรพากรสาขา จะได้รับเงินคืนภายใน 45 วัน
มาตรการช่วยเหลืออื่นๆ
(1) มาตรการบรรเทาภาระการจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ
การคืนเงินประกันค่าใช้ไฟฟ้า หรือค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าตามขนาดที่ใช้งานสูงสุด 6,000.- ซึ่งปกติจะคืนเงินให้ก็ต่อเมื่อยกเลิกบริการไฟฟ้า เพื่อป้องกันกรณีไม่จ่ายค่าไฟฟ้า โครงการนี้จะใช้งบประมาณคร่าวๆ 30,000 ล้านบาท
(2) มาตรการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง
ลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและผู้ประกันตน จากเดิมอัตรา 5% เป็นอัตราใหม่ 0.1% ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเงินสมทบของรัฐบาลให้คงอัตราเดิมที่ 2.75% ของค่าจ้าง เพื่อลดภาระของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
(3) มาตรการบรรเทาภาระค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าตอบแทนในการให้บริการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
จะทำการลด, ชะลอ หรือเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียม ค่าเช่าราชพัสดุ ค่าตอบแทนในการให้บริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่นเพื่อบรรเทาภาระให้แก่ผู้ประกอบการ
มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
(4) มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน
ประชาชนสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund หรือ SSF) ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิได้ ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท แยกจากกรณีปกติที่ลดหย่อนได้ 200,000 บาท แต่รวมแล้วต้องไม่เกินวงเงินหักลดหย่อนรวมของกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด สำหรับเงินลงทุนระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 63
นอกจากมาตรการในด้านต่างๆที่ พี่ โปร นำมาแจ้งตามข้าต้นแล้ว ก็ยังมีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ลดระยะเวลาของกระบวนการจัดสรรงบประมาณให้รวดเร็วขึ้น รวมถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แบ่งจากงบกลาง วงเงิน 20,000 ล้านบาทโดยเฉพาะ สำหรับเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในรูปแบบต่างๆ
เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่เพียงทำลายปอดของผู้ติดเชื้อ
แต่ยังทำลายสภาวะเศรษฐกิจของทุกประเทศ
ทั่วโลกสาหัสไม่แพ้กัน
แต่ยังทำลายสภาวะเศรษฐกิจของทุกประเทศ
ทั่วโลกสาหัสไม่แพ้กัน
App Punpro โหลดเลย ทั้งแจ้งโปร มีดิลร้อนลดราคาแรงๆ และบริการรับหิ้วสินค้าให้พร้อม
คลิ๊กเลย!!!
v
v
คลิ๊กเลย!!!
v
v
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google