ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก มิว ศุภศิษฏ์ กับความอบอุ่นแสนดี ในบทสัมภาษณ์สุด Exclusive

17 พ.ค. 63 02:57 น. / ดู 4,703 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
เป็นคอนเทนต์ที่ทำให้เรารู้จักผู้ชายชื่อ มิว ศุภศิษฏ์ ในอีกหลายแง่มุมเลย กับบทสัมภาษณ์
สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากทาง Maya Channel ที่รับรองได้ว่า ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักมิว ~
เปิดมา มิว บอกว่ามีคนชอบเขียนชื่อตัวเองผิด ขนาดเจ้าของชื่อตอนเด็กๆ ยังมีบ่นว่า
ศุภศิษฏ์ นั้นเขียนยากเลย เพราะมีแต่ตัวอักษรยากๆ ทั้งนั้น และมิวยังเคยงอแงกับหม่าม้า
ว่าขอเปลี่ยนชื่อด้วยเพราะตอนอนุบาลเขียนไม่ได้
เอ็นดู XD ส่วนความหมายของชื่อจริงก็คือ
คงแก่การเรียน ชื่อนี้พระตั้งให้ ซึ่งก็เรียนสมชื่อจริงๆ




ทีมงานถามว่าเคยเสิร์ชชื่อตัวเองและเจออะไรแปลกๆ ไหม อย่างเช่น อายุ ต่อท้ายไรงี้
และพูดเรื่องอายุไม่ได้เลย บอกผมไม่ชอบก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
ผมอายุ 19 ครับ  




เล่าเรื่องตอนเด็ก มิวบอกตัวเองเป็นคนที่กินนมเก่งมาก กินวันนึงเป็นแพ็กๆ แล้วตอนอนุบาลตัวใหญ่จนเวลา
จะถ่ายรูปครูต้องให้ไปนั่งข้างหลังจะได้ไม่บังเพื่อน แต่พอเข้าประถมเหมือนอาหารไม่อร่อย ก็เลยผอม




อันนี้มิวคือเป็นพี่ชายที่แสนดีมากๆ ในสมัยประถม
มิว "คุณครูใหญ่เขาชอบกีฬารักบี้ แล้วทีนี้ผมมีน้องสาว ถ้าเราทำกิจกรรมอะไรพวกนี้ เผื่อเขาจะมีโควต้า
ให้น้องเข้ามาด้วย แต่ต้องเล่นรักบี้ เล่นให้น้องเข้ามา เราไม่ชอบเล่นรักบี้เลย เล่น 6 ปี ถึงป.6 ตอน ป.1 ไป
แข่งที่ญี่ปุ่น มันจะเป็นสเกลรอบป.1 ถึง ป.3 ทีนี้เรา ป.1 เด็กญี่ปุ่นตัวเบ้อเริ่ม และยิ่งเราผอมๆ ไม่ค่อยกินข้าว
โดนชนปลิวเลย และเหมือนโดนเด็กญี่ปุ่นใส่รองเท้าสตั๊ดเหยียบตรงน่องขา ขาแตกเลือดออกเป็นแผล"

แงสงสาร แต่ที่เล่นรักบี้เพื่อให้น้องเข้าเรียนนี่ ประโยค my sister my responsibility ลอยมาเลย ;-;




ตอนประถมมิวจะติดเพื่อน ทำกิจกรรมเล่นกีฬากับเพื่อนๆ นอกจากรักบี้ ยังมี วิ่ง ว่ายน้ำ
เสาร์อาทิตย์ เรียนวาดรูป ส่วนช่วงมัธยมก็อยู่วงดนตรี ซึ่งทั้งสองช่วงเหมือนเป็นอะไรที่ผู้ใหญ่
กำหนดมา หรือเราเลือกตามเพื่อน จนวันนึงมีจุดที่ทำให้มิวค้นหาตัวเองเจอ
มิว "เราเริ่มดูหนัง ดูทีวี เราเริ่มรู้สึกว่าอาชีพนักแสดงมันเท่ดี ไอ้สิ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่เราอยากทำ
อันนี้ไม่ได้ตามเพื่อน วันหนึ่งเราอยากเป็นแบบนี้ เราอยากขึ้นเวทีไปเพื่อรับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม
ก็เลยเริ่มศึกษามากขึ้น ดูหนังมากๆ ดูซีรีส์เยอะๆ ไปเรียนแอ็กติ้ง ไปแคสต์งาน จนได้มาเล่นซีรีส์
แต่มีโอกาสได้แคสต์งานโฆษณาตอน ม.6 ตามสูตรเมื่อก่อนเลย ไปเดินสยามเจอโมเดลลิ่ง และเขา
ติดต่อมาให้ไปแคสต์งาน"
มีการแซวตัวเองว่าเดินสยามทุกซอย 555555555




พอได้แคสต์งาน งานแรกคือโฆษณามือถือ ได้เล่นเป็นextraเพื่อนพระเอก แต่ดันสูงกว่าพระเอก
เลยไม่ได้ถ่ายแงงงงง 




ช่วงมหาลัย ก็คือคุณเขาชอบร้องเพลงมาก เคยแบบเดินๆ อยู่รู้สึกสบายๆ เมื่อไหร่ก็จะร้องเพลงขึ้นมาอัตโนมัติ
จนคนที่จีบเขาสะกิดบอกว่า เธอมัวแต่ร้องเพลง ไม่สนใจเราเลย 




ส่วนเรื่องเรียนมิวบอกว่าเรียนเพื่อที่บ้าน ไปพร้อมๆ กับการทำตามความฝันในการเป็นนักแสดงของตัวเอง
แต่ว่าตอนจะต่อป.ตรี อาม่าอยากให้มิวเรียนหมอไม่ก็วิศวะ แต่มิวเลือกเรียนวิศวะแทนเพราะคิดว่าหมอคง
เรียนนาน แต่ว่าเจ้าตัวก็พูดติดตลกว่าตอนนี้วิศวะก็ล่อมา 7 ปีแล้ว XD





ซึ่งการเรียน ป.โท ป.เอก ที่บ้านอยากให้เรียน และถ้าที่บ้านอยากให้ทำอะไรก็จะทำ
ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง
เป็นลูกเป็นหลานเป็นพี่ชายที่น่ารักของครอบครัวจริงๆ




เรื่องเรียนตามใจที่บ้าน ในขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งความฝันของตัวเอง ช่วงที่แคสต์งาน
ก็มีเหนื่อยเหมือนกัน เพราะมีโมเดลลิ่งจากหลายเจ้าส่งงานมาให้แคสต์ และมีช่วงนึงที่รู้สึกว่า
ไปแคสต์ยังไงก็ไม่ได้ จนวันนึงยุคYมันบูมขึ้นมา จนมีการแคสต์ซีรีส์ ก็ได้ประเดิมเรื่องแรกใน
What The Duck รักแลนดิ้ง





จนได้มาแคสต์ TharnType the Series ที่แฟนคลับเป็นคนแนะนำ แต่คุณเขาเกือบจะไม่ได้เป็นธารละ
เพราะวันแคสต์ดันลืมไม่คิดว่าตัวเองจะติด คือแคสต์ 11 โมงเช้า 10 โมงครึ่งผมตื่น ก็นั่งไถทวิตเตอร์ปกติ และแฟนคลับก็บอกเดี๋ยวพี่มิวจะมาแคสต์ ไปนั่งไล่ดูก็คือติด เลยโทรไปหาทีมงาน พอดีเพิ่งรู้ว่าผมติด และผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย ผมไปช้าได้ไหมครับ เขาบอกมาก็มาได้เพราะหลายคนก็มาตอนบ่าย พอไปถึงเลือกแคสต์บทพี่ซานเพราะเรื่องอายุ แต่ว่าได้บทเฮียธาร
แต่ก็แอบหนักใจเพราะ ธารอายุแค่ 18 ก็เลยต้องทำการบ้านหนัก ว่าต้องทำยังไงให้คนดูเชื่อว่าเราอายุ 18 ก็พยายามลองเปลี่ยนทรงผม สีผม หุ่นให้มันลีนลงมา วิธีการพูด ต้องไปเวิร์กช็อป





และชอบโควตนี้มากเลย ว่าด้วยจังหวะชีวิตที่ต้องมาควบคู่กับการฝึกฝนพัฒนาตัวเอง
มิว "ถึงแม้เราจังหวะดีแค่ไหน ถ้าเราไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม ถึงเวลาเราได้อยู่จุดนั้นเราไม่สกิล
ไม่มีหุ่นที่ดี ความสามารถที่พร้อม เราไม่สามารถดันจังหวะนั้นให้มันดีได้"
ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่หยุดพัฒนา
ตัวเองด้วยการไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่ม เพราะคิดว่าใน  TharnType ซีซั่น 2 คนดูต้องได้เห็นอะไรใหม่ๆ 





ถามว่าให้คะแนนความพยายามของตัวเองในการรับบท ธาร เท่าไร
มิว "ให้เต็ม 10 ครับ แต่ทุกครั้งพอมีโจทย์ใหม่ๆ มา เกรดมันจะขยายขึ้น เราก็เลยต้องเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
10 เมื่อก่อนกับตอนนี้มันไม่เท่ากัน"
เป็นมายด์เซ็ตของคนที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเองอย่างแท้จริง




และสิ่งที่จุดประกายทำให้ มิว อยากคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม คือ เวทีออสการ์ ที่นักแสดงส่วนใหญ่ที่ได้
เข้าชิงรางวัลนี้ เวลาเปลี่ยนเรื่องคาแร็กเตอร์จะเปลี่ยนทันที ทำให้รู้สึกว่าเขาเข้าถึงบทบาทกันจริงๆ ซึ่งตรงนี้
มิว มองว่ามันเป็นการบ้านที่หนักมากๆ สำหรับตัวเอง ในการทำให้ทุกคนไม่ติดภาพ ธาร ที่อยู่กับทุกคนมา 2
ซีซั่น





ย้อนไปที่เสิร์ชชื่อ มิว ศุภศิษฏ์ ในกูเกิ้ลแล้วมีคำว่า แฟน เจ้าตัวบอกตอนนี้ โสด แต่ถ้าคนที่สำคัญ
แน่นอนคือที่บ้าน ป่าป๊า หม่าม้า น้อง ช็อปเปอร์ และเพื่อนร่วมงานที่สำคัญที่สุด น้องกลัฟ ><





พูดถึงการรับมือคอมเมนต์แง่ลบ เอ็นดูคุณเขากับคอมเมนต์ที่รู้สึกเจ็บสุดก็คือ เรื่องอายุ
สรรพนามจะเรียก แด๊ดดี้ พ่อ ก็คือยังโอเคอยู่ แต่มีเคยเจอเรียก ลุง มิวไม่ชอบเลย ถ้าไม่ติดก็
เรียก น้อง ก็ได้นะเออ น้องมิวววววว 




และความสุขของมิว ก็คือได้การทำในสิ่งที่ชอบอย่างการแสดง ได้เห็นแฟนๆ มีรอยยิ้ม
เหมือนโตขึ้นก็พยายามมีความสุขให้มันง่ายขึ้น ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากตัวเอง
จะเป็นความสุขที่ยั่งยืนมากกว่า
ความคิดทัศนคติของมิวหลายๆ อย่างมัน Positive ไปหมดเลย
ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีคนรักเขามากมายขนาดนี้ ^^



#มิวศุภศิษฏ์

ขอบคุณภาพและคลิปจาก
Youtube : Maya Channel
@PangklinPhung @saxxtangg21
@Gee_2548 @MeanNieTime
แก้ไขล่าสุด 17 พ.ค. 63 11:11 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 7

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google