สรุปให้! มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เฟส 2 ลดดอกเบี้ย-ขยายเวลาชำระหนี้ เริ่ม 1 ก.ค. 63
23 ก.ค. 63 10:59 น. /
ดู 233 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ธปท. เคาะมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ในระยะที่ 2
"ลดอัตราดอกเบี้ย-ลดค่างวด-แปลงเป็นสินเชื่อระยะยาว"
พร้อมปรับเพิ่มเพดานวงเงิน ให้ลูกหนี้ที่มีความสามารถชำระเงินคืน
เพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่อง
ปรบมือให้กับทุกคนหน่อยเร็ว ทุกคนเก่งมากค่ะ ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกัน กำลังจะครบ 1 เดือนแล้ว ทุกอย่างดูมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น หลายธุรกิจก็กลับมาเปิดได้อีกครั้งนึง แต่จะมีธุรกิจบางประเภทที่อาจจะต้องรออีกสักพักนึงก่อน ใจเย็นๆ กันหน่อยเน้อออ
แม้ว่าจะเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายทางแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการระบาดแค่ระลอกแรก ก็ทำให้เศรษฐกิจของเราพังไม่น้อยเลย ตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวออกมาติดลบ ประชาชนต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ธุรกิจปิดตัวเจ๊งไปก็เยอะ บางคนตกงาน ไม่มีงานทำ เงินที่จะเอามาใช้จ่ายไม่เพียงพอกับรายจ่ายแต่ละเดือน ไหนจะยังมีภาระทางการเงินอีกเพียบรออยู่ กู้หนี้ยืมสินเอาไว้มากมาย จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายล่ะ แบบนี้ก็ต้องหาตัวช่วยหน่อยแล้ว
https://i.ibb.co/gJjsD1N/3.jpg[/img
ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดวิกฤติหนัก ทำให้สถาบันการเงินและธนาคารต่างๆ ก็ได้ออก promotion ต่างๆช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเพียบ ไม่ว่าจะเป็นพักชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย, ปรับลดอัตราชำระเงินคืนขั้นต่ำ หรือปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยอัตราพิเศษ เป็นต้น แต่หลายมาตรการจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิ.ย. 63 หรือช่วงไตรมาสที่ 2 นี้แล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงกว้าง ยังไม่คลี่คลายไป บางคนก็ยังต้องหยุดงานอยู่เลย จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนทุกคน เชื่อว่าไม่มีใครรอดจากสถานการณ์นี้ไปได้ เจ็บกันหมดแหละ งั้นเรามาดูว่ามาตรการช่วยเหลือที่ออกมาเพิ่มเติม จะสามารถช่วยพวกเราได้มากน้อยแค่ไหนกัน?
มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้า "บัตรเครดิต"
ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์
ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 18% เหลือ 16% ต่อปี (ลดลง 2%) ทุกคนจะได้ปรับ ลดราคา ค่าอัตราดอกเบี้ยเหมือนกันหมด เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค. 63 เป็นต้นไป
ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63
ปรับเพิ่มวงเงินจากเดิมสูงสุด 1.5 เท่า เป็นสูงสุด 2 เท่าของรายได้ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี รายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/เดือน และมีความต้องการใช้วงเงินเพิ่มเติมจากเดิม โดยขยายวงเงินเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 64
สำหรับคนที่มีสถานะลูกค้าปกติ ผ่อนชำระได้อยู่ แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ สามารถแปลงเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 เดือน หรือขยายระะยะเวลาชำระหนี้ คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปีโดยพิจารณาวงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้คืน
ส่วนคนที่ประสบปัญหาไม่สามารถชำระเงินคืนได้แล้ว มีสถานะเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) สามารถเข้ารับบริการ "คลินิกแก้หนี้" ผ่านเว็บไซต์ https://www.debtclinicbysam.com ซึ่งให้บริการโดย บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ให้บริการที่เรามีภาระผูกพันอยู่ ตามความสามารถชำระคืนของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งมีแนวทางแก้ไขลักษณะเดียวกับคลินิกแก้หนี้
มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้า "สินเชื่อบุคคล"
[size=18pt]ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์
ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 28% เหลือ 25% ต่อปี (ลดลง 3%) ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ ทุกคนจะได้ปรับลดเหมือนกันหมด เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค. 63 เป็นต้นไป
ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63
ปรับเพิ่มวงเงินจากเดิมสูงสุด 1.5 เท่า เป็นสูงสุด 2 เท่าของรายได้ โปร นี้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี รายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/เดือน และมีความต้องการใช้วงเงินเพิ่มเติมจากเดิม โดยขยายวงเงินเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 64
สำหรับลูกหนี้ของสินเชื่อบุคคล โดยยังสามารถจ่ายเงินคืนได้อยู่ แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และต้องการความช่วยเหลือ ก็มีมาตรการช่วยเหลือให้เลือกได้ตามความต้องการเลย
- แบบวงเงินหมุนเวียน เช่น บัตรกดเงินสด สามารถขอลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระคืน หรือแปลงเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 เดือน หรือขยายระะยะเวลาชำระหนี้ คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปีโดยพิจารณาวงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้คืน
- ผ่อนชำระเป็นงวด สามารถขอลดค่างวด 30% คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
ส่วนคนที่ประสบปัญหาไม่สามารถชำระเงินคืนได้แล้ว มีสถานะเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) สามารถเข้ารับบริการ "คลินิกแก้หนี้" ผ่านเว็บไซต์ https://www.debtclinicbysam.com ซึ่งให้บริการโดย บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ให้บริการที่เรามีภาระผูกพันอยู่ ตามความสามารถชำระคืนของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งมีแนวทางแก้ไขลักษณะเดียวกับคลินิกแก้หนี้
มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้า "สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์"
ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์
ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 28% เหลือ 24% ต่อปี (ลดลง 4%) สำหรับ โปรโมชั่น นี้ทุกคนจะได้ปรับลดเหมือนกันหมด เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค. 63 เป็นต้นไป
ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63
สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ สามารถขอลดค่างวด 30% คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
ส่วนกลุ่มที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ประสบปัญหาไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามมาตรการช่วยเหลือปกติ ก็สามารถเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ให้บริการที่เรามีภาระผูกพันอยู่ ตามความสามารถชำระคืนของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งมีแนวทางแก้ไขลักษณะเดียวกับคลินิกแก้หนี้ และชะลอการยึดทรัพย์หลักประกัน กรณีที่อยู่อาศัย หรือยานพาหนะที่ลูกหนี้ใช้สร้างรายได้ออกไปก่อน เพราะลูกหนี้ที่มีพฤติกรรมดีอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จะได้ใช้ทำมาหากินสร้างรายได้ และนำเงินกลับมาจ่ายคืนอีกครั้งนึง
ถ้าหากลูกหนี้คนไหน มีปัญหาไม่สามารถเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ได้ สามารถติดต่อผ่านช่องทาง "ทางด่วนแก้หนี้" ของศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร. 1213 เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีไปได้เช่นกัน
มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้า "สินเชื่อเช่าซื้อ"
ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63
สำหรับลูกหนี้ที่ยังปกติอยู่ แต่ได้รับผลกระทบ สามารถเลือกได้จาก 1 ใน 2 ของมาตรการช่วยเหลือ ไม่จำกัดเงินวงเงินสูงสุด (1) เลื่อนชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน หรือ (2) ลดค่างวด โดยการขยายระยะเวลาชำระหนี้
ส่วนกลุ่มที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ประสบปัญหาไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามมาตรการช่วยเหลือปกติ ก็สามารถเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ให้บริการที่เรามีภาระผูกพันอยู่ ตามความสามารถชำระคืนของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งมีแนวทางแก้ไขลักษณะเดียวกับคลินิกแก้หนี้ และชะลอการยึดทรัพย์หลักประกัน กรณีที่อยู่อาศัย หรือยานพาหนะที่ลูกหนี้ใช้สร้างรายได้ออกไปก่อน เพราะลูกหนี้ที่มีพฤติกรรมดีอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จะได้ใช้ทำมาหากินสร้างรายได้ และนำเงินกลับมาจ่ายคืนอีกครั้งนึง
ถ้าหากลูกหนี้คนไหน มีปัญหาไม่สามารถเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ได้ สามารถติดต่อผ่านช่องทาง "ทางด่วนแก้หนี้" ของศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร. 1213 เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีไปได้เช่นกัน
มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้า "สินเชื่อบ้าน"
ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63
สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ และต้องการรับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน สามารถเลือกได้จาก 1 ใน 3 ของมาตรการช่วยเหลือที่กำหนด ไม่จำกัดวงเงินสูงสุด (1) เลื่อนชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน หรือ (2) เลื่อนชำะเงินต้น 3 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยตามความเหมาะสม หรือ (3) ลดค่างวด โดยการขยายระยะเวลาชำระหนี้ เลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะ
ส่วนกลุ่มที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ประสบปัญหาไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามมาตรการช่วยเหลือปกติ ก็สามารถเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ให้บริการที่เรามีภาระผูกพันอยู่ ตามความสามารถชำระคืนของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งมีแนวทางแก้ไขลักษณะเดียวกับคลินิกแก้หนี้ และชะลอการยึดทรัพย์หลักประกัน กรณีที่อยู่อาศัย หรือยานพาหนะที่ลูกหนี้ใช้สร้างรายได้ออกไปก่อน เพราะลูกหนี้ที่มีพฤติกรรมดีอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จะได้ใช้ทำมาหากินสร้างรายได้ และนำเงินกลับมาจ่ายคืนอีกครั้งนึง
ถ้าหากลูกหนี้คนไหน มีปัญหาไม่สามารถเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ได้ สามารถติดต่อผ่านช่องทาง "ทางด่วนแก้หนี้" ของศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร. 1213 เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีไปได้เช่นกัน
สิทธิพิเศษเพิ่มเติม สำหรับลูกหนี้ที่ยังสามารถชำระคืนได้ปกติ
ไม่ต้องน้อยใจไปก่อนล่ะ สำหรับลูกค้าที่ยังสามารถชำระหนี้คืนได้ตามปกติ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือที่ออกมา สถาบันการเงินแต่ละแห่ง ก็สามารถออกสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมมอบให้ได้ เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย หรือให้เป็นเงินคืนพิเศษ (Cashback) เป็นกรณีไปได้ เพื่อจูงใจให้ยังคงสถานะจ่ายคืนเหมือนเดิม แต่ความจริงแล้วหากเราเป็นลูกหนี้ที่ยังคงสามารถจ่ายเงินคืนได้ตามกำหนด มีข้อดีอีกเยอะแยะเลย
ภาระผูกพันลดลงเรื่อยๆ พอเราจ่ายเงินคืนตามกำหนดแล้ว ก็ทำให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง หรือไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเลย (กรณีจ่ายบัตรเครดิตคืนเต็มจำนวน) เป็นผลดีกับตัวเองอีกต่างหาก
เครดิตของตัวเราสูงขึ้น เมื่อเรายังสามารถจ่ายเงินคืนได้ตามปกติ เป็นการรักษาเครดิตที่ดีเอาไว้ อนาคตเวลาทำธุรกรรมทางการเงินก็ไม่มีปัญหา ขอกู้ที่ไหนก็มีแต่คนอยากอนุมัติให้ เพราะรู้ว่ายังไงก็ได้เงินคืนแน่นอน
หมดความเครียดทางการเงิน อันนี้เป็นเรื่องของจิตใจนิดหน่อย ถ้าเราเป็นหนี้คนอื่นอยู่ จิตใจก็จะกังวลอยู่ตลอด เปรียบเทียบกับคนที่จ่ายเงินคืนตามกำหนดได้ตลอดเวลา ก็สบายใจหายห่วง ไม่มีอะไรต้องคิดเยอะแยะ ทำให้สามารถใช้เวลาไปกับเรื่องอื่นๆ ได้อีกเยอะเลย
"การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" ยังคงใช้ได้ในทุกวันนี้
ปันโปรสรุปให้
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย จะช่วยเหลือทั้งในส่วนของลูกหนี้เอง รวมถึงสถาบันการเงินที่ได้ปล่อยกู้เงินด้วย เพราะแต่ละฝ่ายล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจกันทั้งนั้น เพราะถ้าใครคนนึงไปไม่รอดแล้ว ก็สามารถล้มกันหมดได้
แต่ละมาตรการมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน ก่อนยอมรับเงื่อนไขทุกครั้ง โดยแต่ละธนาคารก็มีช่องทางไม่เหมือนกัน สามารถติดต่อสถาบันการเงินที่เราทำธุรกรรมได้เลย เพื่อขอความช่วยเหลือ ยังไงก็ต้องมีทางออกแน่นอน
ถ้ายังมีความสามารถจ่ายเงินคืนอยู่ก็ให้ทำตามปกติไป เพราะเป็นผลดีกับตัวเราเองด้วย แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็เข้าร่วมมาตรการได้ เพราะเบี้ยวจ่ายแล้วหนีหายไป ไม่จ่ายหนี้ ผลเสียก็ตกที่ตัวเราเอง หากถูกขึ้นบัญชีดำขึ้นมา อนาคตจะลำบากแล้วนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google