5 เหตุผลที่ทำให้แบตมือถือของคุณหมดเร็ว!

        เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้แบตมือถือหมดเร็วนั้น มาจากการใช้งาน และการตั้งค่าต่าง ๆ ในมือถือของคุณเอง ซึ่งบางทีคุณเองก็อาจจะลืม หรือนึกไม่ถึงว่าเรื่องแค่นี้เอง มันจะทำให้แบตหมดเร็วจริงหรือ ?         1.ช่องชาร์จแบตสกปรก ถึงแม้เราทุกคนมักจะทำความสะอาดมือถืออยู่แล้วเป็นปกติ ทั้งหน้าจอ ด้านหลังมือถือ กล้อง แต่มีจุดหนึ่งที่มักลืม นั่นก็คือ ช่องชาร์จแบต ซึ่งมักจะมีฝุ่นหรือเศษผ้าในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าถือ เข้าไปอยู่ด้านในช่องชาร์จ และก็เป็นสาเหตุให้การชาร์จแบตได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ลองทำสะอาดช่องชาร์จดูบ้าง อาจจะช่วยให้แบตหมดช้าลงได้
        2. ภาพหน้าจอของคุณมีสีสันมากเกินไป เคยสงสัยไหมว่าทำไมระบบปฏิบัติการในมือถือมักออกแบบสีเป็นขาวกับดำ เพราะนอกจากจะทำให้ดีไซน์ดูเรียบหรูดูดีแล้ว ยังช่วยประหยัดแบตไปได้เยอะ แต่การตั้งภาพหน้าจอที่มีสีสันมาก ๆ รวมถึงการตั้งหน้าจอแบบ Live Wallpaper ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานมาก ในการแสดงผลสีของหน้าจอ และยังต้องแสดงผลสีจากแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ อีก จึงทำให้แบตหมดไปอย่างรวดเร็ว
        3. ไม่ได้ปิดแอปพลิเคชั่นหลังการใช้งาน หลังจากใช้งานแอปนั้น ๆ เสร็จแล้ว โดยปกติคุณก็จะกดออกทันที แต่ไม่ได้เข้าไปเคลียร์การรันแอปบนตัวเครื่องเลย ทำให้แอปที่คุณเข้าไปเล่น ยังคงรันอยู่ ดังนั้นในระหว่างวัน หลังจากไม่ได้ใช้แอปแล้ว ลองเข้าไปเคลียร์การรันแอปทั้งหมด จะช่วยเซฟแบตมือถือไปได้อีกเยอะอีกเดียว
        4. เปิดการแจ้งเตือนในมือถือมากเกินไป ระบบการแจ้งเตือนของแอปในมือถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามากเกินไป อาจทำให้แบตมือถือหมดเร็วอย่างไม่รู้ตัว และยังทำให้คุณจดจ่ออยู่กับแต่มือถือ เพราะทุกการแจ้งเตือนมักจะมีเสียง มีการสั่นเตือน หรือมีข้อความเด้งขึ้นมาทำให้คุณหลุดโฟกัสกับสิ่งที่ทำยู่ตรงหน้าได้ง่าย ๆ ดังนั้นเข้าไปปิดบ้าง แอปไหนที่ไม่มีความจำเป็น เพื่อเซฟสมาธิและเซฟแบตของคุณเอง
        5.คุณชาร์จแบตมือถือ 100% เสมอ เชื่อไหมว่าการชาร์จแบตเต็ม 100% จะทำให้แบตเสื่อมเร็ว เพราะมือถือในปัจจุบันนี้จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องชาร์จให้เต็ม เพียงชาร์จ95 % และไม่ควรใช้จนแบตหมด จะทำให้แบตใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

        หลังจากทำทั้ง 5 ข้อข้างต้นแล้ว น่าจะทำให้แบตมือถือระหว่างวันของคุณใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น และอาจช่วยยืดอายุการใช้งานแบตมือถือไปอีกด้วย