มาย้อนรอยเศรษฐกิจกับการท่องเที่ยวช่วงปิดประเทศกัน
17 ต.ค. 63 17:33 น. /
ดู 255 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ถ้าให้ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม ก่อนที่มีกระแสเริ่มอยากให้เปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ด้วยวิธี Travel Bubble สารภาพจากใจว่าแอบรู้สึกลังเลและกังวล แต่เมื่อหลักการเปิดประเทศแบบ Travel bubble มันมีกระบวนการ ขั้นตอนจับคู่ มันก็ยังพอกังวลแบบกล้อมแกล้มไง ครั้นจะบอกว่าไม่อยากให้เปิดประเทศเลยยยย ไม่อยากให้รับนักท่องเที่ยวเข้ามาเลยยยยย มันก็พูดได้ไม่เต็มปาก ยืนกรานกระต่ายขาเดียวมันดูเหมือนจะใจร้ายเกินไป
ที่ตอนแรกไม่อยากให้เปิดประเทศเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว อย่างมากก็คงกระทบสนามบิน สายการบิน เพราะมันบินไม่ได้เลย แต่นั่นคือวิสัยทัศน์ที่ไม่กว้างไกล นานวันไปจึงเริ่มเข้าถึงความจริง เมื่อประเทศไทยที่พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การบินต้องชะงักเพราะปิดประเทศ ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวเข้ามาได้เหมือนอย่างเคย สิ่งที่ตามมาเป็นอย่างไร ก็ให้ดูข่าวที่เกิดขึ้นแต่ละวันที่ออกมาสิ สนามบินแย่ สายการบินที่เริ่มวิกฤติ มันก็เริ่มลามไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งก็เริ่มจะไม่ไหว อย่างเชียงใหม่ ที่ไนท์บาซ่าตอนนี้เงียบไปแล้ว
ถ้าให้ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม ก่อนที่มีกระแสเริ่มอยากให้เปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ด้วยวิธี Travel Bubble สารภาพจากใจว่าแอบรู้สึกลังเลและกังวล แต่เมื่อหลักการเปิดประเทศแบบ Travel bubble มันมีกระบวนการ ขั้นตอนจับคู่ มันก็ยังพอกังวลแบบกล้อมแกล้มไง ครั้นจะบอกว่าไม่อยากให้เปิดประเทศเลยยยย ไม่อยากให้รับนักท่องเที่ยวเข้ามาเลยยยยย มันก็พูดได้ไม่เต็มปาก ยืนกรานกระต่ายขาเดียวมันดูเหมือนจะใจร้ายเกินไป
ที่ตอนแรกไม่อยากให้เปิดประเทศเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว อย่างมากก็คงกระทบสนามบิน สายการบิน เพราะมันบินไม่ได้เลย แต่นั่นคือวิสัยทัศน์ที่ไม่กว้างไกล นานวันไปจึงเริ่มเข้าถึงความจริง เมื่อประเทศไทยที่พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การบินต้องชะงักเพราะปิดประเทศ ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวเข้ามาได้เหมือนอย่างเคย สิ่งที่ตามมาเป็นอย่างไร ก็ให้ดูข่าวที่เกิดขึ้นแต่ละวันที่ออกมาสิ สนามบินแย่ สายการบินที่เริ่มวิกฤติ มันก็เริ่มลามไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งก็เริ่มจะไม่ไหว อย่างเชียงใหม่ ที่ไนท์บาซ่าตอนนี้เงียบไปแล้ว
ภูเก็ตนี่เงียบทั้งเมือง อันนี้มีเพื่อนที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่โน้น จังหวะก็ดีเหลือเกินเปิดกิจการใหม่ก่อนโควิดมาไม่กี่เดือน พอพี่โควิดอยู่ยาวเพื่อนก็ต้องโบกมืออำลาธุรกิจของตัวเองไปแบบเศร้าๆ อย่างร้านขายข้าวในโรงอาหารใกล้ๆ กับออฟฟิศ จขกท. พอเจอช่วงที่ออฟฟิศต้องหยุดงานยาวเป็นเดือนๆ ร้านก็ไม่ได้เต็มเหมือนเดิม หายไปหลายร้านเลย เพราะมันหยุดงานยาวเป็นเดือนๆ เขาไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนพนักงานออฟฟิศ พอเขาได้รับผลกระทบก็เป็นอันที่จะต้องปิดกิจการไป สำหรับคนที่ทำงานสายพนักงานออฟฟิศก็ใช่ว่าจะรอด เพื่อน จขกท.อีกคนนึง ทำงานคลินิกเสริมความงามก็โดนลดเงินเดือน ลดวันทำงานเช่นกัน มันทำให้คิดถึงคนที่ขายข้าว ขายของฝากที่อยู่ถนนข้าวสาร ขายของอยู่ตามวันพระแก้วฯ ตามตลาดนัด หนุ่มสาวโรงงานที่ต้องลดการทำงานเพราะไม่สามารถผลิตงานได้เท่าเดิมเขาต้องเจออะไรบ้าง
หาข้อมูลเพิ่มเติมก็มีเพจหนึ่งเขียนเรื่องเศรษฐกิจของไทยไว้อย่างดี ขออนุญาตสรุปสั้นๆ ว่า
1. ธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่าเศรษฐกิจเราจะหดตัวลง -8.1% ในปีนี้ติดลบหนักขนาดนี้นั้นทำให้นักลงทุนต่างกังวลกันอย่างมากไม่มีใครกล้าลงทุน
2. การท่องเที่ยวที่ขาดหายไป ต่อให้ทุกวันนี้คนในประเทศเริ่มกลับมาใช้ชีวิตจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว ก็คงไม่เพียงพอ
เงินที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจากต่างชาติ ถ้ายังไม่สามารถเปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้ามาจับจ่ายในบ้านเราได้ ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจตอนนี้ประเทศเราได้ปิดการเดินทางจากคนต่างชาติไปตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ทำให้เราขาดรายได้ในส่วนนี้ไปเกินกว่า 2 เดือนแล้ว และคาดว่าทั้งปีนี้เราจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้เพียง 8 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขปกติที่เราเคยรับอยู่ที่ 40 ล้านคนต่อปีอยู่ถึง 5 เท่า
3. การส่งออกได้รับผลกระทบ ความต้องการของต่างชาติลดลงเพราะเขาได้รับผลกระทบจากโควิดในประเทศเขาก็ทำให้เราส่งออกได้น้อยลง
4.ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 6%
5. การเคอร์ฟิวและปิดกิจการต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจชะงัก
สำหรับรายละเอียดในแต่ละข้ออยากให้ลองเข้าไปอ่านเครดิตในสปอยกันดูนะ เขียนดีเข้าใจ
พออ่านเจ้า 5 ข้อที่กล่าวมานั้น ก็ทำให้เราเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น จริงๆ แล้วเรื่องของเศรษฐกิจเป็นอะไรที่ได้ยินนักวิชาการ หรือนักการเมืองหลายคนออกมาพูดกันตั้งแต่แรกแล้ว ว่าการออกมาตรการของรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจด้วย ในช่วงแรกที่ประเทศไทยระบาดหนักมีผู้ติดเชื้อมาก เราก็เข้าใจว่ามันต้องมาตรการเข้มข้น แต่อย่าลืมว่าอีกฝั่งของเรื่องเศรษฐกิจและได้รับผลกระทบอย่างหนักฟื้นยากอีกเช่นกัน เมื่อโควิดในประเทศเริ่มทรงตัว เข้มแข็งก็มีแนวคิดการรับนักท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble มาเป็นแสงสว่าง แต่ก็ต้องดับลงไปอีกครั้งเมื่อต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะประเทศที่เราจะจับคู่นั้นเกิดการระบาดรอบ 2
https://thestandard.co/market-focus-travel-bubble/
ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ก็นับว่าเป็นโจทย์ยากของรัฐบาลที่จะแก้เกมส์เศรษฐกิจอย่างไรในขณะที่การ์ดเรื่องโควิดเราก็ห้ามตกไปด้วย!! โรคก็น่ากลัว แต่การไม่มีกินก็น่ากลัวกว่านะท่าน
ขอบคุณบทความ
https://pantip.com/topic/40054146
ที่ตอนแรกไม่อยากให้เปิดประเทศเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว อย่างมากก็คงกระทบสนามบิน สายการบิน เพราะมันบินไม่ได้เลย แต่นั่นคือวิสัยทัศน์ที่ไม่กว้างไกล นานวันไปจึงเริ่มเข้าถึงความจริง เมื่อประเทศไทยที่พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การบินต้องชะงักเพราะปิดประเทศ ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวเข้ามาได้เหมือนอย่างเคย สิ่งที่ตามมาเป็นอย่างไร ก็ให้ดูข่าวที่เกิดขึ้นแต่ละวันที่ออกมาสิ สนามบินแย่ สายการบินที่เริ่มวิกฤติ มันก็เริ่มลามไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งก็เริ่มจะไม่ไหว อย่างเชียงใหม่ ที่ไนท์บาซ่าตอนนี้เงียบไปแล้ว
ถ้าให้ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม ก่อนที่มีกระแสเริ่มอยากให้เปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ด้วยวิธี Travel Bubble สารภาพจากใจว่าแอบรู้สึกลังเลและกังวล แต่เมื่อหลักการเปิดประเทศแบบ Travel bubble มันมีกระบวนการ ขั้นตอนจับคู่ มันก็ยังพอกังวลแบบกล้อมแกล้มไง ครั้นจะบอกว่าไม่อยากให้เปิดประเทศเลยยยย ไม่อยากให้รับนักท่องเที่ยวเข้ามาเลยยยยย มันก็พูดได้ไม่เต็มปาก ยืนกรานกระต่ายขาเดียวมันดูเหมือนจะใจร้ายเกินไป
ที่ตอนแรกไม่อยากให้เปิดประเทศเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว อย่างมากก็คงกระทบสนามบิน สายการบิน เพราะมันบินไม่ได้เลย แต่นั่นคือวิสัยทัศน์ที่ไม่กว้างไกล นานวันไปจึงเริ่มเข้าถึงความจริง เมื่อประเทศไทยที่พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การบินต้องชะงักเพราะปิดประเทศ ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวเข้ามาได้เหมือนอย่างเคย สิ่งที่ตามมาเป็นอย่างไร ก็ให้ดูข่าวที่เกิดขึ้นแต่ละวันที่ออกมาสิ สนามบินแย่ สายการบินที่เริ่มวิกฤติ มันก็เริ่มลามไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งก็เริ่มจะไม่ไหว อย่างเชียงใหม่ ที่ไนท์บาซ่าตอนนี้เงียบไปแล้ว
ภูเก็ตนี่เงียบทั้งเมือง อันนี้มีเพื่อนที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่โน้น จังหวะก็ดีเหลือเกินเปิดกิจการใหม่ก่อนโควิดมาไม่กี่เดือน พอพี่โควิดอยู่ยาวเพื่อนก็ต้องโบกมืออำลาธุรกิจของตัวเองไปแบบเศร้าๆ อย่างร้านขายข้าวในโรงอาหารใกล้ๆ กับออฟฟิศ จขกท. พอเจอช่วงที่ออฟฟิศต้องหยุดงานยาวเป็นเดือนๆ ร้านก็ไม่ได้เต็มเหมือนเดิม หายไปหลายร้านเลย เพราะมันหยุดงานยาวเป็นเดือนๆ เขาไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนพนักงานออฟฟิศ พอเขาได้รับผลกระทบก็เป็นอันที่จะต้องปิดกิจการไป สำหรับคนที่ทำงานสายพนักงานออฟฟิศก็ใช่ว่าจะรอด เพื่อน จขกท.อีกคนนึง ทำงานคลินิกเสริมความงามก็โดนลดเงินเดือน ลดวันทำงานเช่นกัน มันทำให้คิดถึงคนที่ขายข้าว ขายของฝากที่อยู่ถนนข้าวสาร ขายของอยู่ตามวันพระแก้วฯ ตามตลาดนัด หนุ่มสาวโรงงานที่ต้องลดการทำงานเพราะไม่สามารถผลิตงานได้เท่าเดิมเขาต้องเจออะไรบ้าง
หาข้อมูลเพิ่มเติมก็มีเพจหนึ่งเขียนเรื่องเศรษฐกิจของไทยไว้อย่างดี ขออนุญาตสรุปสั้นๆ ว่า
1. ธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่าเศรษฐกิจเราจะหดตัวลง -8.1% ในปีนี้ติดลบหนักขนาดนี้นั้นทำให้นักลงทุนต่างกังวลกันอย่างมากไม่มีใครกล้าลงทุน
2. การท่องเที่ยวที่ขาดหายไป ต่อให้ทุกวันนี้คนในประเทศเริ่มกลับมาใช้ชีวิตจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว ก็คงไม่เพียงพอ
เงินที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจากต่างชาติ ถ้ายังไม่สามารถเปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้ามาจับจ่ายในบ้านเราได้ ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจตอนนี้ประเทศเราได้ปิดการเดินทางจากคนต่างชาติไปตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ทำให้เราขาดรายได้ในส่วนนี้ไปเกินกว่า 2 เดือนแล้ว และคาดว่าทั้งปีนี้เราจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้เพียง 8 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขปกติที่เราเคยรับอยู่ที่ 40 ล้านคนต่อปีอยู่ถึง 5 เท่า
3. การส่งออกได้รับผลกระทบ ความต้องการของต่างชาติลดลงเพราะเขาได้รับผลกระทบจากโควิดในประเทศเขาก็ทำให้เราส่งออกได้น้อยลง
4.ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 6%
5. การเคอร์ฟิวและปิดกิจการต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจชะงัก
สำหรับรายละเอียดในแต่ละข้ออยากให้ลองเข้าไปอ่านเครดิตในสปอยกันดูนะ เขียนดีเข้าใจ
พออ่านเจ้า 5 ข้อที่กล่าวมานั้น ก็ทำให้เราเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น จริงๆ แล้วเรื่องของเศรษฐกิจเป็นอะไรที่ได้ยินนักวิชาการ หรือนักการเมืองหลายคนออกมาพูดกันตั้งแต่แรกแล้ว ว่าการออกมาตรการของรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจด้วย ในช่วงแรกที่ประเทศไทยระบาดหนักมีผู้ติดเชื้อมาก เราก็เข้าใจว่ามันต้องมาตรการเข้มข้น แต่อย่าลืมว่าอีกฝั่งของเรื่องเศรษฐกิจและได้รับผลกระทบอย่างหนักฟื้นยากอีกเช่นกัน เมื่อโควิดในประเทศเริ่มทรงตัว เข้มแข็งก็มีแนวคิดการรับนักท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble มาเป็นแสงสว่าง แต่ก็ต้องดับลงไปอีกครั้งเมื่อต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะประเทศที่เราจะจับคู่นั้นเกิดการระบาดรอบ 2
https://thestandard.co/market-focus-travel-bubble/
ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ ก็นับว่าเป็นโจทย์ยากของรัฐบาลที่จะแก้เกมส์เศรษฐกิจอย่างไรในขณะที่การ์ดเรื่องโควิดเราก็ห้ามตกไปด้วย!! โรคก็น่ากลัว แต่การไม่มีกินก็น่ากลัวกว่านะท่าน
ขอบคุณบทความ
https://pantip.com/topic/40054146
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 7
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google