แช่แข็งไข่อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากมีลูก มีขั้นตอนอย่างไร และข้อจำกัดทางกฎหมายไทยที่ควรรู้
23 ก.พ. 64 16:08 น. /
ดู 1,104 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#อยากมีลูก
ปัจจุบัน ผู้หญิงยุคใหม่แต่งงานช้าลง โดยเฉลี่ยที่อายุ 35 ปีup ขึ้นไป ถึงจะแต่งงาน ส่วนมากทุ่มเทกับงาน การเที่ยว และการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ห่วงแหนความโสด รอสร้างอนาคตครอบครัวกับคนที่ใช่ในวันข้างหน้า แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป ความเสื่อมของร่างกายก็มากขึ้นทำให้โอกาสในการมีลูกก็ยากเช่นกัน ผู้หญิงยุคใหม่ที่อยากมีลูกจึงหันมาสนใจในเรื่องฝากเซลล์ไข่และแช่แข็งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นวันนี้เรามีข้อมูลความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการแช่แข็งเซลล์ไข่ รวมถึงขั้นตอนการเก็บและการตรวจร่างกายก่อนฝากเซลล์ไข่ เพื่อคลายความสงสัยมาฝากกันค่ะ
การแช่แข็งเซลล์ไข่ (Oocyte freezing) คือ การที่ผู้หญิงที่อยากมีลูกเก็บเซลล์สืบพันธุ์หรือที่เรียก "ไข่" ที่ได้จากกระตุ้น เก็บออกมาภายนอกร่างกายและนำมาแช่แข็งเอาไว้ในอุณหภูมิที่เย็นจัด -196 องศาเซลเซียส จำนวนไข่ที่เก็บได้ ขึ้นกับปริมาณไข่ต่อรอบเดือนที่มีอยู่ในผู้หญิงของแต่ละคน โดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ใบ แต่สำหรับผู้หญิงที่มีจำนวนไข่มาก อาจเก็บได้มากถึง 20-30 ใบได้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคน
ขั้นตอนการเก็บเซลล์ไข่มาแช่แข็ง ขั้นตอนของการแช่แข็งไข่ ใช้กระบวนการเดียวกันกับการกระตุ้นไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว โดยผู้ที่ต้องการฝากเซลล์ไข่ จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายและตรวจเลือด หากไม่พบปัญหาใด จึงจะสามารถดำเนินการกระตุ้นไข่ต่อไปได้ เมื่อถึงขั้นตอนเก็บไข่ออกมาภายนอกร่างกาย โดยดูดผ่านทางช่องคลอดคัดเอาไข่ที่มีความสมบูรณ์ เพื่อเก็บรักษาไว้ในน้ำยาเลี้ยงและแช่แข็งในไนโตรเจนเหลว ในห้องปฏิบัติการณ์ที่มีอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาละลายออกมาใช้งาน
การตรวจร่างกายก่อนฝากเซลล์ไข่ ตรวจเลือด ตรวจโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไวรัสตับอักเสบซี ซิฟิลิส เป็นต้น ตรวจโรคที่เกี่ยวกับพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย เตรียมตัวกระตุ้นไข่ โดยใช้ยาฮอร์โมนเพื่อให้ได้ไข่จำนวนมาก และทำการเก็บไข่ในครั้งเดียว
การแช่แข็งไข่เหมาะกับใคร ?
ผู้หญิงที่ยังไม่วางแผนที่จะมีลูก โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 35 ปี
ผู้หญิงป่วยที่กำลังจะได้รับยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง ที่กระทบต่อจำนวนและคุณภาพเซลล์ไข่
ผู้หญิงที่อยากมีลูกแต่มีความผิดปกติของโครโมโซมที่อาจทำให้ประจำเดือนหมดเร็วกว่าปกติ
ผู้หญิงที่อยากมีลูก แต่จำเป็นต้องผ่าตัดรังไข่ เช่น ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ ช็อคโกแลตซีสต์
ข้อจำกัดทางกฎหมายที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจนำไข่ไปฝากมี 2 ประเภท
1.กฎหมายไทยอนุญาตให้เก็บไข่เอาไว้ใช้เพื่อตนเองเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำไปบริจาคให้ญาติพี่น้องที่มีลูกไม่ได้
2.ฝากล่วงหน้าในกรณีที่ป่วยหรือเป็นโรคบางชนิดที่อาจส่งผลต่อรังไข่ เช่นโรคมะเร็ง หรือภูมิคุ้มกันบกพร่องเป็นต้นจำเป็นต้องฉายแสงหรือใช้เคมีบำบัด
ข้อมูลที่ควรทราบเพิ่มเติม การแช่แข็งไข่ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การแช่แข็งแบบ Vitrification อายุที่เหมาะสมต่อการฝากไข่ คือ 34-37 ปี เพราะอายุที่มากกว่านี้ปริมาณและคุณภาพไข่จะลดลง ค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บเซลล์ไข่เทียบเท่ากับการทำเด็กหลอดแก้วและยังมีค่าฝากรายปี โดยปกติต้องใช้ไข่ประมาณ 15 - 20 ใบ เพื่อจะให้ได้ลูก 1 คน ดังนั้น การกระตุ้นไข่ 1 ครั้ง อาจได้ไข่ไม่เพียงพอเซลล์ไข่ที่ถูกแช่แข็ง เปลือกไข่จะหนาและแข็ง จึงจำเป็นต้องใช้วิธี "อิ๊กซี่" (ICSI) ช่วยปฏิสนธิ โดยวิธีนี้คือการเอาเซลล์อสุจิ 1 ตัว ใส่เข้าไปในเซลล์ไข่ (อสุจิ 1 ตัวต่อเซลล์ไข่ 1ใบ) ตามกฎหมายไทย การฝากไข่ไม่จำเป็นต้องใช้ทะเบียนสมรส แต่หากจะนำมาใช้ปฏิสนธิจำเป็นต้องใช้ทะเบียนสมรสยื่นร่วมด้วยค่ะ
#อยากมีลูก
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google