คุยกับ เป้ นฤบดี และ เปิ้ล นาคร ผู้ปลุกปั้น ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง

10 มี.ค. 64 16:20 น. / ดู 2,998 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และ เป้ นฤบดี เวชกรรม 2 ผู้สร้างปรากฏการณ์ห้าวเป้งทะลุ 100 ล้าน
กลับมาพร้อมกับ ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง ด้วยการแกงครั้งใหญ่ทั้งไอดอลและไอคอนที่ยากและท้าทายที่สุด

อยากให้เล่าให้ฟังถึงที่มาของการกลับมาผลิตภาพยนตร์ร่วมกันอีกครั้ง
เปิ้ล: เริ่มต้นมาจากคุณเป้ก่อนเลย หลังจากที่เราห่างเหินจากการทำภาพยนตร์ร่วมกันมานานเกือบ 10 ปี แล้วล่าสุดคุณเป้ทำภาพยนตร์เรื่อง LOW SEASON เป้เขาก็ชวนเรามาเล่นหนังหน่อย ซึ่งเราก็ไม่ได้เล่นหนังนานแล้ว เพราะว่าไม่มีเวลา เป้เขาก็บอกไม่ว่างไม่เป็นไรมานั่งคุยกัน ตอนนั้นก็กลับมาคิดถึงหนัง กลับมาทำหนังอีกทีมันก็สนุกดี โปรเจกต์นี้เริ่มมาจากทางเจ้าของ BNK48 ติดต่อมาหาพี่เปิ้ลชวนพี่เปิ้ลไปเสริมประสบการณ์ให้น้องๆ ไอดอลรุ่นใหม่ นั่นคือ CGM48 ซึ่งเราเองก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะทำอะไรสนุกๆ กัน เราก็บอกเขาไปเลยว่าถ้าให้เราทำเราขอเทรนน้องๆ ในสไตล์ของเรานะ ซึ่งเขาก็ไม่ติดอะไร เราก็เลยคุยกับเป้เลย มองตากันสองคนแล้วแบบ เฮ้ย ห้าวเป้งต้องกลับมาแล้ว
วางโจทย์ไว้อย่างไรบ้างสำหรับการแกงน้องๆ
เปิ้ล: มันยากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะมันไม่ใช่การแกล้งแบบเห็นชัดเจน มันกลายเป็นว่าเรากำลังมาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตของเด็กๆ น้องๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มที่เขากำลังจะโตขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคต มันก็เลยทำให้เราต้องศึกษาพวกเขาเยอะขึ้นว่าน้องๆ CGM48 เขาธรรมชาติเป็นไง น้องเขาอายุแค่ 12-15 ปี มันก็เลยต้องทำออกมาให้ละมุน ละเอียด น่ารัก เพราะว่ากลุ่มนี้การที่เราจะไปใกล้ชิดเขาได้ค่อนข้างจะยาก เพราะเขาเป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมดด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เราทำงานกันหนักมาก ทีมเป้เอง ทีมงานเอง จะต้องไปฝังตัวอยู่ที่เชียงใหม่เป็นเวลาหลายเดือน ทำงานกัน 24 ชม.เลย ตื่นเช้ามาก็ต้องไปดูละว่าเขามีใครคัดตัวผ่านบ้าง พอเข้ามาแล้วหน้าตาเป็นไง การศึกษาเป็นอย่างไร มีนิสัยเป็นอย่างไร รักอะไรไม่ชอบอะไร  พวกนี้มันเป็นเรื่องที่มันไม่ใช่การทำหนังธรรมดานะ

ความตั้งใจแรกของ ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง หลังจากรับโจทย์มา
เป้: เราตั้งใจจะเล่าความฝันของเด็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเราไม่รู้จักเลย โนเนมมาก เราจะรู้จักแต่ BNK48 เราเห็นเขาละว่าเขามีแฟนคลับขนาดไหน มีคนสนใจขนาดไหน แต่เด็กกลุ่มนี้คือวงน้องของ BNK48 เป็นเด็กใสๆๆ เลย ออกมาจากอกพ่อแม่มาอยู่หอร่วมกัน บางคนเพิ่งย้ายโรงเรียน บางคนต้องทิ้งในสิ่งที่ตัวเองเคยชิน ต้องทิ้งมาหมดเพื่อให้มาอยู่หอร่วมกัน และใช้เวลาอยู่ร่วมกันหลายปีในการที่จะเป็นไอดอล เราก็แค่เล่าความฝันของเขาว่าถ้าเขาจะไปถึง ณ จุดตรงนั้น ถ้ามีพี่ๆ ในวงการตัวเป้งๆ เข้าไปทดสอบด้วยแบบฝึกหัดต่างๆ เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์อีกรูปแบบให้น้องๆ ดูซิว่าน้องๆ จะสามารถไปต่อกับความฝันของเขาได้ไหม

คัดเลือกพี่ๆ ตัวเป้งที่จะมาร่วมเทรนน้องจากอะไร
เปิ้ล: คือประเด็นหลักในการที่เราจะให้บททดสอบประสบการณ์ชีวิตกับน้องๆ ในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ เราต้องหาคนที่ The Best ดีที่สุดในแต่ละสาขา คนนี้เบอร์ 1 ของนักแสดง คนนี้เบอร์ 1 ของนักร้อง เบอร์ 1 ของนักพูด เบอร์ 1 ของพิธีกร เพราะฉะนั้นในโจทย์ต้องหาเบอร์ 1มาเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับน้องๆ เขาได้ ถ้าเบอร์ 1 ของฮิพฮอพของแรพเปอร์ในเมืองไทยตอนนี้คือยังโอม เป็นเด็กหัวใหม่ที่ฉลาด ฝีมือดีเขียนเพลงดีแต่งเพลงด้วยตัวเอง ทุกอย่างพร้อมมาก แล้วโชคดีที่เขาเข้าใจในวิถีการทำงานของเรา เรื่องนี้เราก็เลยได้เขา คือเขาตอบรับมาโดยไม่ขัดอะไรเลย แต่ในระหว่างที่ทำงานเขาสงสัยมาตลอดว่า พี่เปิ้ลจะแกล้งพวกเขารึเปล่า คือเขายังโตทันสมัยที่เรายังทำงานแกล้งอยู่ ก็เลยได้ตอบรับมาเป็น ยังโอม

เป้: ถ้าพูดถึงเรื่องของพิธีกรเบอร์ 1 กันต์ กันตถาวร ในความเป็นเบอร์ 1 ของเขา โคตรเรื่องมาก จู้จี้ จุกจิก แล้วก็เนี้ยบมากในเรื่องของการทำงาน เขาต้องรู้หมดทุกอย่าง พอต้องรู้หมดทุกอย่างก็ยากละในการทำงานในแบบของเรา ก็คือเขาไม่รับงาน
เปิ้ล: เราก็เลยเข้าทางแฟนเขาเลยก็คือคุณพลอย เพราะว่าเข้าตรงๆ ไม่ได้แน่ ผู้ชายคนนี้การทำงานคือเป๊ะมาก รู้จักกัน สนิทกัน เพราะฉะนั้นมีทางเดียวคือเข้าทางพลอย ซึ่งพอเล่าให้พลอยฟังปุ๊บ พลอยบอกเอาๆ พี่ เอาด้วยสนุก ก็วางแผนกันไป ก็เลยเป็นที่มาที่ได้ตัวกันต์มาเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับน้องๆ คือกันต์เขาเป็นคนที่ต้องทำงานเป๊ะๆ แต่เกิดอะไรขึ้นเมื่อเจอทีมงานที่ทำงานแบบห่วยๆๆ

ทีนี้มาถึง แจ็ค แฟนฉัน เป็นน้องที่สนิทมากๆ แกล้งทีไรก็อร่อยทุกครั้ง มาวันหนึ่งเราต้องหาคนที่ฮอตที่สุด ณ ตอนนั้นก็คือ แน็ก ชาลี แต่แน็กเขาไม่ว่าง แล้วเป้ก็บอกว่าทำไมเราไม่เอาแจ็คล่ะในเมื่อน้องพร้อม ก็เลยชวนแจ็คไปเชียงใหม่กับพี่นะ ถ้าเรามองกลับไปไทม์ไลน์ชีวิตของแจ็ค เราจะรู้เลยว่าแจ็คคืออันดับ 1 ของประเทศไทยในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างไรให้อยู่ในสิ่งที่ตัวเองรักไปได้ตลอดชีวิต นี่คือสิ่งที่เป้มอง หลังจากนั้นเราก็มาคิดต่อว่าให้แจ็คมาสอนเด็ก CGM48 ว่าทำยังไงให้อยู่วงการนี้ได้ เพราะการทำธุรกิจ ทำวง ทำอะไรก็แล้วแต่ ทำให้เจริญ ทำให้ดัง ให้รุ่ง มันไม่ยาก แต่ทำให้มันลอยอยู่บนฟ้าได้นานๆ เหมือนพลุทำได้ยังไง

เปิ้ล: คนต่อมาก็คือ น้าเน็ก อันนี้ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจนะ เพราะน้าเน็กเขาอยู่สื่อของออฟไลน์มาตลอดชีวิต จนกระทั่งมาวันหนึ่ง มันมีการเปลี่ยนแปลงโลกของสื่อ จากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์แบบกระทันหัน คนที่ปรับตัวได้เร็วมากๆ มันมีไม่กี่คนในวงการ น้าเน็กคือหนึ่งในนั้นที่สามารถประสบความสำเร็จทั้งในออฟไลน์และออนไลน์แบบที่หาคนเทียบลำบากมาก อะไรคือ KEY SUCCESS ของเขา พอเราชวนเขา เขาก็พร้อมที่จะร่วมไปกับเรา

จะได้เห็นอะไรใน ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง
เปิ้ล: นี่คือเสน่ห์ที่หาซื้อไม่ได้จริงๆ นะ เพราะว่าเราได้สัมผัสน้องๆ เขาตั้งแต่เขาได้มาสมัครวันแรกเลย พ่อแม่จูงมือกันเข้ามา จนกระทั่งเขาสอบผ่าน มีการคัดตัว คัดผ่าน บางคนคัดไม่ผ่านก็ร้องไห้ไป บางคนคัดผ่านก็ร้องไห้อยู่ดี เพราะดีใจ มันมีทั้งเสียใจและดีใจ จนกระทั่งตัวเองได้เข้ามาอยู่ในการฝึก ในการหล่อหลอม เพื่อที่จะโตขึ้นมาเป็นมืออาชีพ ตรงนี้เราได้เห็นพัฒนาการของเขาทุกอย่างเลย เห็นหมดว่าเขาเติบโตขึ้นมายังไง จนกระทั่งภาพถ่ายวันแรก กับภาพวันที่หนังจบ ในช่วงเวลาปีกว่าๆ เขาเปลี่ยน เขาเปลี่ยนเยอะมากนะ หน้าตานี้เปลี่ยนตั้งแต่ดวงตาเขาไปจนถึงทักษะของเขา ตั้งแต่ไม่เป็นจนฝึกมาแล้ว มันมีพัฒนาการแบบนี้จริงๆ คุณจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้นะ ภูมิใจได้เลยว่า เราได้เก็บสิ่งเหล่านี้มาให้พวกคุณได้ชมกันแล้ว ได้ดูกันแล้ว ทุกคน เยี่ยมยอด สุดยอดมาก
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google