การบริหารความเสี่ยงเศรษฐกิจประเทศและวัคซีนที่ควรจะเป็น
14 มิ.ย. 64 12:09 น. /
ดู 482 ครั้ง /
2 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#ภูเก็ตsandbox #เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ #แผนกระจายฉีดวัคซีน #ปูพรม10เมืองท่องเที่ยว #สมุยโมเดล
เช้าวันนี้ตื่นมาพร้อมกับข่าวการโดนเทการฉีดวัคซีนของประชาชน ในหลากหลายจังหวัดและหลาย ๆ โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ในขณะที่ท่านนายกประกาศถึง Phuket Sandbox ในวันที่ 1 กรกฎาคม ท่ามกลางความหวังของชาวภูเก็ต ที่จะทำให้เป็นตัวอย่างของการเปิดประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังภาวะโรคระบาดที่เราทราบกันอยู่
ผู้เขียน ไม่เชื่อเรื่องการปูพรมทั่วประเทศในทุก ๆ ช่วงอายุ ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสตามที่ท่านผู้อำนวยการ ศบค ประกาศไว้ เพราะไม่เชื่อว่าการปูพรม 100 ล้านโดส หรือ การล๊อกเป้าหมาย 50 ล้านคนทั่วประเทศโดยไม่ได้คำนึงถึงแผนที่เศรษฐกิจ และแผนที่การระบาดหลัก ๆ
การจัดลำดับความสำคัญ ควรจะเริ่มต้นที่ปัจจัย ความเสี่ยงอายุ 60 + และ 7 โรคร้าย พร้อมกับเขตเศรษฐกิจสำคัญ และการระบาดหนักก่อน ส่วนในจังหวัดที่เหลือนั้นถ้าบริหารดีอยู่แล้ว ยังคงบริหารต่อไปแล้วรอวัคซีนที่ท่าน ผอ ศบค แจ้งว่าจะมาตามลำดับ และเรียงตามความสำคัญไป
https://www.prachachat.net/tourism/news-686920
ตามข่าวนี้ ปูพรม 10 เมืองท่องเที่ยวนำร่องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืน ตามข้อเสนอของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ที่เป็นเหมือนทีมการตลาดของประเทศ และการท่องเท่ยวเป็นมากถึง 15% ของ GDP ทั้งประเทศในปี 2562 ที่นี้ ททท เสนออะไรบ้างตามข่าว
โดยมีพื้นที่นำร่องที่เหลืออีก 9 จังหวัดนั้น ล่าสุด 4 จังหวัด (บางพื้นที่) ได้เสนอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวพร้อมกับจังหวัดภูเก็ตในเดือนกรกฎาคมนี้ จากไทม์ไลน์เดิมที่กำหนดเริ่ม 1 ตุลาคม 2564 ได้แก่
1.กระบี่ (เกาะพีพี, ไร่เลย์, เกาะโหง)
2.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย, เกาะพะงัน, เกาะเต่า) โดยเสนอจำกัดพื้นที่และท่องเที่ยวระบบปิด 0+3+4 คืนความหมายว่า
นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัวในห้องพัก วันที่ 1-3 ของการเดินทางมาถึงนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการและทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน
บริเวณโรงแรมได้ ในทุก พื้นที่จากนั้นวันที่ 4-14 ของการเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ตามเส้นทาง และโปรแกรมที่
กำหนดไว้ (sealed routes) หลังจากนั้นสามารถเดิน ทางออกไปเที่ยวนอกพื้นที่ได้ทั่วประเทศ
3.พังงา (เขาหลัก) เสนอขอไม่กักตัวตั้งแต่เดือนสิงหาคม และ
4.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เสนอกักตัว 0+7 คืน+sealed routes โดยสามารถทำกิจกรรมในโรงแรม
เป็นเวลา 7 คืน และออกไปทำ กิจกรรมใน sealed routes ที่กำหนดได้
ส่วนจังหวัดนำร่องที่เหลืออื่น ๆ จะเปิดพร้อมกันในวันที่ 1 ตุลาคมคือ กระบี่, เชียงใหม่, ชลบุรี (พัทยา, บางละมุง, สัตหีบ) โดยในพื้นที่ดังกล่าวนี้เสนอขอไม่กักตัว ส่วนกรุงเทพฯ, ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน), เพชรบุรี (ชะอำ) และบุรีรัมย์เสนอหลักการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว
ไทม์ไลน์ดังกล่าวนี้ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เรียบร้อยแล้วเมื่อ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
เงื่อนไขท้ายที่สุดสำคัญมาก คือการบริหารวัคซีน ตามลำดับความสำคัญ ที่ ผอ ศบค ต้องโฟกัส และทำให้สำเร็จ ไม่งั้นจะเหมือนกับที่คอลัมนิสต์อาวุโส ได้กล่าวไว้ว่า มันจะเป็นเรื่องของการจารึกประวัติศาสตร์ให้แก่ตัวท่านในยามแก่เฒ่า ว่าท่านได้ขีดเขียนประวัติศาสตร์อันนี้ไว้
ผู้เขียนได้แต่หวังว่า การกระจายวัคซีนจะถูกเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อเห็นแก่ปากท้องประชาขน และสุขภาพของประชาชนไปพร้อม ๆ กัน
ที่มา https://pantip.com/topic/40776019
#ภูเก็ตsandbox
#เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
#แผนกระจายฉีดวัคซีน
#ปูพรม10เมืองท่องเที่ยว
#สมุยโมเดล
#เศรษฐกิจไทยร่วง
#samuisealedroute
การจัดลำดับความสำคัญ ควรจะเริ่มต้นที่ปัจจัย ความเสี่ยงอายุ 60 + และ 7 โรคร้าย พร้อมกับเขตเศรษฐกิจสำคัญ และการระบาดหนักก่อน ส่วนในจังหวัดที่เหลือนั้นถ้าบริหารดีอยู่แล้ว ยังคงบริหารต่อไปแล้วรอวัคซีนที่ท่าน ผอ ศบค แจ้งว่าจะมาตามลำดับ และเรียงตามความสำคัญไป
https://www.prachachat.net/tourism/news-686920
ตามข่าวนี้ ปูพรม 10 เมืองท่องเที่ยวนำร่องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืน ตามข้อเสนอของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ที่เป็นเหมือนทีมการตลาดของประเทศ และการท่องเท่ยวเป็นมากถึง 15% ของ GDP ทั้งประเทศในปี 2562 ที่นี้ ททท เสนออะไรบ้างตามข่าว
โดยมีพื้นที่นำร่องที่เหลืออีก 9 จังหวัดนั้น ล่าสุด 4 จังหวัด (บางพื้นที่) ได้เสนอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวพร้อมกับจังหวัดภูเก็ตในเดือนกรกฎาคมนี้ จากไทม์ไลน์เดิมที่กำหนดเริ่ม 1 ตุลาคม 2564 ได้แก่
1.กระบี่ (เกาะพีพี, ไร่เลย์, เกาะโหง)
2.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย, เกาะพะงัน, เกาะเต่า) โดยเสนอจำกัดพื้นที่และท่องเที่ยวระบบปิด 0+3+4 คืนความหมายว่า
นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัวในห้องพัก วันที่ 1-3 ของการเดินทางมาถึงนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการและทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน
บริเวณโรงแรมได้ ในทุก พื้นที่จากนั้นวันที่ 4-14 ของการเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ตามเส้นทาง และโปรแกรมที่
กำหนดไว้ (sealed routes) หลังจากนั้นสามารถเดิน ทางออกไปเที่ยวนอกพื้นที่ได้ทั่วประเทศ
3.พังงา (เขาหลัก) เสนอขอไม่กักตัวตั้งแต่เดือนสิงหาคม และ
4.เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เสนอกักตัว 0+7 คืน+sealed routes โดยสามารถทำกิจกรรมในโรงแรม
เป็นเวลา 7 คืน และออกไปทำ กิจกรรมใน sealed routes ที่กำหนดได้
ส่วนจังหวัดนำร่องที่เหลืออื่น ๆ จะเปิดพร้อมกันในวันที่ 1 ตุลาคมคือ กระบี่, เชียงใหม่, ชลบุรี (พัทยา, บางละมุง, สัตหีบ) โดยในพื้นที่ดังกล่าวนี้เสนอขอไม่กักตัว ส่วนกรุงเทพฯ, ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน), เพชรบุรี (ชะอำ) และบุรีรัมย์เสนอหลักการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว
ไทม์ไลน์ดังกล่าวนี้ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เรียบร้อยแล้วเมื่อ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
เงื่อนไขท้ายที่สุดสำคัญมาก คือการบริหารวัคซีน ตามลำดับความสำคัญ ที่ ผอ ศบค ต้องโฟกัส และทำให้สำเร็จ ไม่งั้นจะเหมือนกับที่คอลัมนิสต์อาวุโส ได้กล่าวไว้ว่า มันจะเป็นเรื่องของการจารึกประวัติศาสตร์ให้แก่ตัวท่านในยามแก่เฒ่า ว่าท่านได้ขีดเขียนประวัติศาสตร์อันนี้ไว้
ผู้เขียนได้แต่หวังว่า การกระจายวัคซีนจะถูกเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อเห็นแก่ปากท้องประชาขน และสุขภาพของประชาชนไปพร้อม ๆ กัน
ที่มา https://pantip.com/topic/40776019
#ภูเก็ตsandbox
#เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
#แผนกระจายฉีดวัคซีน
#ปูพรม10เมืองท่องเที่ยว
#สมุยโมเดล
#เศรษฐกิจไทยร่วง
#samuisealedroute
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google