เต ออฟ มาแชร์ประสบการณ์ป่วยโควิด-19 กับ 2 เคสที่แตกต่าง ระหว่างติดเชื้อลงปอดกับไม่แสดงอาการ
25 มิ.ย. 64 01:29 น. /
ดู 2,984 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
หลังจากหายป่วยกลับมาสดใสร่าเริงได้อย่างเต็มร้อยแล้ว คู่เผิงโหย่ว เต ออฟ ก็มาแชร์ประสบการณ์
ช่วงเวลาที่รักษาตัวและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากติดโควิด-19 ให้ฟังแบบเจาะลึกใน
กระหายเล่า EP.5 ที่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกดีใจและอุ่นใจที่ทั้งสองคนกลับมาแข็งแรงแล้ว
โดยแขกรับเชิญที่จะมาฟังคุณตะวันบ่น เอ้ย! เล่าเรื่องอาการป่วยให้ฟังคือ แจน พลอยชมพู
พร้อมชวนจุมพลเพื่อนเลิฟมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังประสบพบชะตากรรมเดียวกัน
เตเริ่มต้นเล่าไทม์ไลน์ให้ฟังว่า วันที่ 8 เม.ย. ทำงานวันสุดท้ายและวันที่ 9-11 เม.ย. ไปสมุยกับออฟ ตอนแรกถึงสมุยก็รู้สึกว่าที่พักปลอดภัยเพราะดูเป็นบ้านส่วนตัว แต่น้องชายดันโทรมาบอกว่าติด หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับก็ระวังตัวมากขึ้น วันที่ 10-12 เม.ย. ก็อยู่บ้าน แต่มีวันนึงออกไปเจอออฟและเจอกันแค่กับ ออฟ แม่ และน้องชาย วันที่ 20-21 เม.ย. ก็ไปตรวจเลย เพราะวันที่ 23 เม.ย. มีงาน เพราะไปตรวจวันที่ 21 ผลออกมา 22 ออฟเป็น แต่เตตอนผลตรวจออกมายังไม่เจอเชื้อ จุมพลเสริมว่า ผลตรวจเขาออกช้ากว่าชาวบ้านเขา ก็ไม่ได้ลุ้นเท่าไรแค่เก็บของรอ เพราะผลออกช้าผลเป็นไปได้ว่าเป็นมันสูง แบบเขาส่งผลไปที่กรมวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจอีกรอบนึง เตที่ตอนแรกคิดว่ารอดแล้ว แต่เพิ่งไปเจอจุมมา ระหว่างนั้นก็เว้นช่วงไว้ 5 วันรอให้เชื้อฟักตัวค่อยไปตรวจอีกรอบนึงและแพ็คของ อาหารสุขภาพรอ
ออฟพอรู้ว่าเป็น เก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็โทรดีลกับ Hospitel เพราะเราไม่มีอาการอะไรเลย เจ็บคออย่างเดียว
ยาที่ต้องกินก็ตามอาการ ปวดหัวก็กินยาแก้ปวดหัว ฯลฯ เตบอกเพิ่มว่า เป็นฟีลรักษาตามอาการ เหมือนเป็นไข้อย่างนึงก็รักษาตามนั้นไป และใจตอนนั้นคิดว่าทำไมตัวเองไม่ป่วยพร้อมออฟไปเลยจะได้รักษาเร็วหายเร็ว ของตัวเองที่มีอาการคือเริ่มมีไข้อ่อนๆ หลังจากกักตัวได้ 5 วันก็เรียบร้อย และที่มีความเสี่ยงติดเชื้อกับออฟ บางทีเวลาไปคอนโดต้องยื่นของให้กัน ซึ่งบางทีมันจะมีบอกเชื้อมันอยู่ในละอองอากาศได้นานเท่าไร อยู่ตามผิวสัมผัสลูกบิดประตูเท่าไร ในน้ำจะอยู่ได้นานหน่อย บางทีกินผัดสดที่เขาล้างบางทีก็น่ากลัว
โมเมนต์ตอนเข้า Hospitel คุณตะวันเล่าว่า ก็ตามกันไปเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้อง แบบออฟมี VDO Call มาหาว่า
ฉันกินวิตามินอันนั้นอันนี้นะ มีการสอนการสั่งอาหารอะไรต่างๆ ฟีลรุ่นพี่ ก่อนจะมาที่เรื่องสัมภาระที่ขนไประหว่างรักษาตัว จุมพลคือ พกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปเลย สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือวิตามินมี B C D ซิงค์ กระชาย แมกนีเซียม เตบอกเขาเอง ก็พกไปคล้ายๆ ออฟแต่จะเพิ่ม Probiotic ที่ช่วยสร้างจุลินทรีย์ที่ดีในท้อง
ไหนจะน้ำผึ้ง โกโก้ แต่ความแย่คือโกโก้หกในกระเป๋าเดินทางจ้า ไม่ซุ่มซ่ามไม่ใช่คุณตะวันนะ XD
และในเรื่องของอาการเตจะหนักกว่าออฟเพราะมีโรคประจำตัวคือ หอบหืด ทำให้หมอเรียก
เอ็กซ์เรย์ปอดบ่อย สุดท้ายวันที่ 7-8 พ.ค. เชื้อลงปอด ตอนนั้นออฟใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว คือคืนวันที่ 7
จะเริ่มหายใจไม่ค่อยสะดวกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะอีกวันตื่นมาและหายใจเหมือนมันเจ็บข้างในหน้าอก
หายใจเสร็จและก็ไอออกมาเหมือนเป็นออโต้ของร่างกาย เป็นตลอดเวลา ทางเดียวที่จะไม่เป็นคือนอน และมี
ปัญหามากตอนกินข้าว ต้องนั่งและเอาข้าวเข้าปากเคี้ยวด้วยหายใจด้วยแล้วสำลักออกมาทุกครั้ง
โอ๊ยนึกภาพตามยังทรมานแทน );
แต่พออาการถึงขั้นนั้นเตก็บอกหมอแล้ว มันจะมียาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ แบบถ้าเขาไม่ได้เอ็กซ์เรย์เจอว่าลงปอดแน่ๆ เขาไม่อยากให้เร็วเพราะมันยาต้านไวรัสที่ค่อนข้างแรงมีผลข้างเคียง บางคนกินเข้าไปแล้วอาเจียนท้องเสีย เขาก็เลยจะดูอาการ แต่ใจเราคือให้เร็วๆ และกินทีคือต้องกินกำ 8-9 เม็ด ฟากออฟพอรู้ว่าเพื่อนมีอาการลงปอด ก็โทรไปถาม เพราะปกติเตจะออนเกมบ่อย เตขอเล่าต่อเองว่า ช่วงที่ลงปอดทุกคนรู้ว่ามี
สัญญาณทั้งไม่เล่นทวิตเตอร์ ไม่เล่นเกม ตอนนั้นคือนอนแน่นิ่ง แบบเวลาลุกไปฉี่ก็ต้องรีบเดินไปเร็วที่สุดเพราะมันไอ
อาการที่ร่วมด้วยหลังจากลงปอดก็คือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตอนนั้นก็เลยพยายามทำสิ่งที่ปกติไม่ได้ทำนั่นคือ
กินมะละกอ จากเดิมที่ไม่ชอบ เพื่อหวังสารอาหารและได้สุขภาพต้องดี ตอนกลิ่นไม่ไ่ด้กลิ่นรสชาติอะไรเลยได้แต่ความนุ่มๆ นิ่มๆ แต่จุมพลคือปกติไม่มีอาการอะไรอย่างคุณเต ตะวัน เลย
ก่อนจะให้ทั้งคู่ทดสอบต่อมรับรสเพื่อความชัวร์ว่าหายแล้วจริงๆ แต่ละคนคือหน้าเปรี้ยวไม่ไหว
คนนึงเปรี้ยวจนปากเบี้ยว อีกคนเปรี้ยวจนตาเหล่ 555555555
หลังจาก ออฟอยู่รักษาตัวใน Hospitel และอาการดีขึ้นใน 10 วันจากนั้น หมอก็ให้กลับมากักตัวอยู่ที่บ้าน
อีก 14 วัน พอเสร็จก็ไปตรวจหมอก็บอกเชื้อตายแล้ว แต่ยังมีอะไรสักอย่างในร่างกาย พอครบ 20 วันไปตรวจ
ก็ไม่มีเชื้อแล้ว แต่ก็พยายามกักตัวให้ครบ 24 วันและก็ออกมาทำงานได้เลย ส่วนของเต ป่วยแบบมีอาการ
แค่ 2 วันครึ่ง หลังจบอาการนี้ก็ไม่มีอะไรอีกเลย รวมทั้งหมดอยู่ในการรักษาทั้งหมด 14-15 วัน เพราะมีย้ายจาก
Hospitel ไปโรงพยาบาลด้วย หมอก็บอกให้ออกไปใช้ชีวิตปกติได้แล้ว แต่เราก็ขอหยุด 14 วันดีกว่า
และเตยังแชร์ด้วยว่า คนที่เคยป่วยโควิด-19 พอไปฉีดวัคซีนเข็มแรกเราจะมีภูมิเท่ากับคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มเลย
มันเหมือนไปกระตุ้น แต่คนที่ยังไม่ได้ติดไม่ได้มีภูมิแบบพวกเราก็อยากจะฉีดวัคซีนเพื่อลดอาการหนักของโรค
เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันอย่าเอาอะไรมาวัดว่าคนนี้ร่างกายแข็งแรงจะไม่ลงปอด ไม่มีอะไรตอบได้จริงๆ
บางคนก็ระวังตัวเองไม่ออกจากบ้านไปไหนเลย แบบเลี่ยงไม่ได้ต้องเจอจริงๆ ก็จะไปฉีดวัคซีน ซึ่งตอนนี้มีให้ฉีด
Sinovac กับ AstraZeneca และ Sinopharm มันแบบเจาะจงไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่คนนี้แพ้และจะแพ้ทุกคน
มันจะผลการวิจัยอยู่ก็ศึกษาดูให้ดีก่อนจะฉีดอะไร
เป็นคลิปที่มีประโยชน์มาก ยิ่งคนที่เป็นหอบด้วยเคส เต ตะวัน ก็เป็นกรณีศึกษาได้อย่างดีเลย
#เตตะวัน #ออฟจุมพล
ช่วงเวลาที่รักษาตัวและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากติดโควิด-19 ให้ฟังแบบเจาะลึกใน
กระหายเล่า EP.5 ที่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกดีใจและอุ่นใจที่ทั้งสองคนกลับมาแข็งแรงแล้ว
พร้อมชวนจุมพลเพื่อนเลิฟมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังประสบพบชะตากรรมเดียวกัน
เตเริ่มต้นเล่าไทม์ไลน์ให้ฟังว่า วันที่ 8 เม.ย. ทำงานวันสุดท้ายและวันที่ 9-11 เม.ย. ไปสมุยกับออฟ ตอนแรกถึงสมุยก็รู้สึกว่าที่พักปลอดภัยเพราะดูเป็นบ้านส่วนตัว แต่น้องชายดันโทรมาบอกว่าติด หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับก็ระวังตัวมากขึ้น วันที่ 10-12 เม.ย. ก็อยู่บ้าน แต่มีวันนึงออกไปเจอออฟและเจอกันแค่กับ ออฟ แม่ และน้องชาย วันที่ 20-21 เม.ย. ก็ไปตรวจเลย เพราะวันที่ 23 เม.ย. มีงาน เพราะไปตรวจวันที่ 21 ผลออกมา 22 ออฟเป็น แต่เตตอนผลตรวจออกมายังไม่เจอเชื้อ จุมพลเสริมว่า ผลตรวจเขาออกช้ากว่าชาวบ้านเขา ก็ไม่ได้ลุ้นเท่าไรแค่เก็บของรอ เพราะผลออกช้าผลเป็นไปได้ว่าเป็นมันสูง แบบเขาส่งผลไปที่กรมวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจอีกรอบนึง เตที่ตอนแรกคิดว่ารอดแล้ว แต่เพิ่งไปเจอจุมมา ระหว่างนั้นก็เว้นช่วงไว้ 5 วันรอให้เชื้อฟักตัวค่อยไปตรวจอีกรอบนึงและแพ็คของ อาหารสุขภาพรอ
ออฟพอรู้ว่าเป็น เก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็โทรดีลกับ Hospitel เพราะเราไม่มีอาการอะไรเลย เจ็บคออย่างเดียว
ยาที่ต้องกินก็ตามอาการ ปวดหัวก็กินยาแก้ปวดหัว ฯลฯ เตบอกเพิ่มว่า เป็นฟีลรักษาตามอาการ เหมือนเป็นไข้อย่างนึงก็รักษาตามนั้นไป และใจตอนนั้นคิดว่าทำไมตัวเองไม่ป่วยพร้อมออฟไปเลยจะได้รักษาเร็วหายเร็ว ของตัวเองที่มีอาการคือเริ่มมีไข้อ่อนๆ หลังจากกักตัวได้ 5 วันก็เรียบร้อย และที่มีความเสี่ยงติดเชื้อกับออฟ บางทีเวลาไปคอนโดต้องยื่นของให้กัน ซึ่งบางทีมันจะมีบอกเชื้อมันอยู่ในละอองอากาศได้นานเท่าไร อยู่ตามผิวสัมผัสลูกบิดประตูเท่าไร ในน้ำจะอยู่ได้นานหน่อย บางทีกินผัดสดที่เขาล้างบางทีก็น่ากลัว
โมเมนต์ตอนเข้า Hospitel คุณตะวันเล่าว่า ก็ตามกันไปเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้อง แบบออฟมี VDO Call มาหาว่า
ฉันกินวิตามินอันนั้นอันนี้นะ มีการสอนการสั่งอาหารอะไรต่างๆ ฟีลรุ่นพี่ ก่อนจะมาที่เรื่องสัมภาระที่ขนไประหว่างรักษาตัว จุมพลคือ พกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปเลย สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือวิตามินมี B C D ซิงค์ กระชาย แมกนีเซียม เตบอกเขาเอง ก็พกไปคล้ายๆ ออฟแต่จะเพิ่ม Probiotic ที่ช่วยสร้างจุลินทรีย์ที่ดีในท้อง
ไหนจะน้ำผึ้ง โกโก้ แต่ความแย่คือโกโก้หกในกระเป๋าเดินทางจ้า ไม่ซุ่มซ่ามไม่ใช่คุณตะวันนะ XD
และในเรื่องของอาการเตจะหนักกว่าออฟเพราะมีโรคประจำตัวคือ หอบหืด ทำให้หมอเรียก
เอ็กซ์เรย์ปอดบ่อย สุดท้ายวันที่ 7-8 พ.ค. เชื้อลงปอด ตอนนั้นออฟใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว คือคืนวันที่ 7
จะเริ่มหายใจไม่ค่อยสะดวกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะอีกวันตื่นมาและหายใจเหมือนมันเจ็บข้างในหน้าอก
หายใจเสร็จและก็ไอออกมาเหมือนเป็นออโต้ของร่างกาย เป็นตลอดเวลา ทางเดียวที่จะไม่เป็นคือนอน และมี
ปัญหามากตอนกินข้าว ต้องนั่งและเอาข้าวเข้าปากเคี้ยวด้วยหายใจด้วยแล้วสำลักออกมาทุกครั้ง
โอ๊ยนึกภาพตามยังทรมานแทน );
แต่พออาการถึงขั้นนั้นเตก็บอกหมอแล้ว มันจะมียาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ แบบถ้าเขาไม่ได้เอ็กซ์เรย์เจอว่าลงปอดแน่ๆ เขาไม่อยากให้เร็วเพราะมันยาต้านไวรัสที่ค่อนข้างแรงมีผลข้างเคียง บางคนกินเข้าไปแล้วอาเจียนท้องเสีย เขาก็เลยจะดูอาการ แต่ใจเราคือให้เร็วๆ และกินทีคือต้องกินกำ 8-9 เม็ด ฟากออฟพอรู้ว่าเพื่อนมีอาการลงปอด ก็โทรไปถาม เพราะปกติเตจะออนเกมบ่อย เตขอเล่าต่อเองว่า ช่วงที่ลงปอดทุกคนรู้ว่ามี
สัญญาณทั้งไม่เล่นทวิตเตอร์ ไม่เล่นเกม ตอนนั้นคือนอนแน่นิ่ง แบบเวลาลุกไปฉี่ก็ต้องรีบเดินไปเร็วที่สุดเพราะมันไอ
อาการที่ร่วมด้วยหลังจากลงปอดก็คือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตอนนั้นก็เลยพยายามทำสิ่งที่ปกติไม่ได้ทำนั่นคือ
กินมะละกอ จากเดิมที่ไม่ชอบ เพื่อหวังสารอาหารและได้สุขภาพต้องดี ตอนกลิ่นไม่ไ่ด้กลิ่นรสชาติอะไรเลยได้แต่ความนุ่มๆ นิ่มๆ แต่จุมพลคือปกติไม่มีอาการอะไรอย่างคุณเต ตะวัน เลย
ก่อนจะให้ทั้งคู่ทดสอบต่อมรับรสเพื่อความชัวร์ว่าหายแล้วจริงๆ แต่ละคนคือหน้าเปรี้ยวไม่ไหว
คนนึงเปรี้ยวจนปากเบี้ยว อีกคนเปรี้ยวจนตาเหล่ 555555555
หลังจาก ออฟอยู่รักษาตัวใน Hospitel และอาการดีขึ้นใน 10 วันจากนั้น หมอก็ให้กลับมากักตัวอยู่ที่บ้าน
อีก 14 วัน พอเสร็จก็ไปตรวจหมอก็บอกเชื้อตายแล้ว แต่ยังมีอะไรสักอย่างในร่างกาย พอครบ 20 วันไปตรวจ
ก็ไม่มีเชื้อแล้ว แต่ก็พยายามกักตัวให้ครบ 24 วันและก็ออกมาทำงานได้เลย ส่วนของเต ป่วยแบบมีอาการ
แค่ 2 วันครึ่ง หลังจบอาการนี้ก็ไม่มีอะไรอีกเลย รวมทั้งหมดอยู่ในการรักษาทั้งหมด 14-15 วัน เพราะมีย้ายจาก
Hospitel ไปโรงพยาบาลด้วย หมอก็บอกให้ออกไปใช้ชีวิตปกติได้แล้ว แต่เราก็ขอหยุด 14 วันดีกว่า
และเตยังแชร์ด้วยว่า คนที่เคยป่วยโควิด-19 พอไปฉีดวัคซีนเข็มแรกเราจะมีภูมิเท่ากับคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มเลย
มันเหมือนไปกระตุ้น แต่คนที่ยังไม่ได้ติดไม่ได้มีภูมิแบบพวกเราก็อยากจะฉีดวัคซีนเพื่อลดอาการหนักของโรค
เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันอย่าเอาอะไรมาวัดว่าคนนี้ร่างกายแข็งแรงจะไม่ลงปอด ไม่มีอะไรตอบได้จริงๆ
บางคนก็ระวังตัวเองไม่ออกจากบ้านไปไหนเลย แบบเลี่ยงไม่ได้ต้องเจอจริงๆ ก็จะไปฉีดวัคซีน ซึ่งตอนนี้มีให้ฉีด
Sinovac กับ AstraZeneca และ Sinopharm มันแบบเจาะจงไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่คนนี้แพ้และจะแพ้ทุกคน
มันจะผลการวิจัยอยู่ก็ศึกษาดูให้ดีก่อนจะฉีดอะไร
เป็นคลิปที่มีประโยชน์มาก ยิ่งคนที่เป็นหอบด้วยเคส เต ตะวัน ก็เป็นกรณีศึกษาได้อย่างดีเลย
#เตตะวัน #ออฟจุมพล
ขอบคุณภาพและคลิปจาก
YT: GMMTV
แก้ไขล่าสุด 25 มิ.ย. 64 22:18 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google