คลินิกแก้หนี้ 2564 อัปเดตเงื่อนไขใหม่ ใครอยากปลดหนี้มาทางนี้ !
10 ก.ค. 64 13:17 น. /
ดู 1,128 ครั้ง /
1 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
คลินิกแก้หนี้ 2564 อัปเดตเงื่อนไขใหม่ ช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ใครมีหนี้เสีย ผ่อนไม่ไหว มาเช็กรายละเอียดต่าง ๆ กันเลย
หากใครกำลังประสบปัญหามีหนี้สินที่กลายเป็นหนี้เสียแล้ว ไม่รู้จะผ่อนชำระต่ออย่างไรดี หรือมีเจ้าหนี้หลายราย อยากปรับโครงสร้างหนี้ แนะนำให้มาสมัครเข้าโครงการ "คลินิกแก้หนี้" ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนอย่างเป็นระบบ
โดยในปี 2564 ได้ปรับเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ครอบคลุมลูกหนี้มากขึ้น พร้อมกับขยายความช่วยเหลือให้ลูกหนี้ที่กลายเป็น NPL ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วย วันนี้เรานำข้อมูลและรายละเอียดมาแจกแจงให้ทราบกัน และจะได้ตรวจสอบด้วยว่าเรามีสิทธิ์เข้าโครงการนี้ด้วยหรือไม่
คลินิกแก้หนี้ คืออะไร
คลินิกแก้หนี้ หรือ "โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน" เป็นนโยบายของภาครัฐที่มีขึ้น เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ให้มีโอกาสปลดหนี้ได้ โดยมีบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นตัวกลางในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินกับสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่ง ให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เหมือนกับ One Stop Service ที่ลูกหนี้แค่มาเจรจาที่คลินิกแก้หนี้ที่เดียวก็เหมือนกับได้ติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เรียกได้ว่า "หนี้บัตรทบ จบที่เดียว"
สินเชื่อแบบไหนเข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ได้
- ต้องเป็นหนี้ส่วนบุคคล เช่น หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน กับธนาคาร, non-bank และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ร่วมโครงการ
- ต้องเป็นหนี้ที่ไม่ได้ชำระหรือไม่ได้ชำระขั้นต่ำเป็นระยะเวลาติดต่อกันมากกว่า 91-120 วัน และเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 (เป็นการปรับเกณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19) ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนมกราคม 2564
- มีหนี้เสียกับเจ้าหนี้เพียง 1 ราย หรือเจ้าหนี้หลายรายก็เข้าร่วมโครงการได้
- มียอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยสามารถนำยอดหนี้บัตรเครดิตเฉพาะบัตรที่เป็นหนี้เสียทุกใบมาเข้าร่วมโครงการได้
- หากผ่อนขั้นต่ำอยู่จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- หนี้นอกระบบจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
คลินิกแก้หนี้ มีธนาคารไหนร่วมโครงการบ้าง
มีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ 17 ธนาคาร ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารเกียรตินาคิน
- ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ.
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารทิสโก้
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารยูโอบี
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
- ธนาคารแห่งประเทศจีน
- ธนาคารไอซีบีซี
- ธนาคารออมสิน
ผู้ประกอบการ non-bank ทั้งหมด 18 ราย ที่เข้าร่วมด้วย ดังนี้
- บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : จี แคปปิตอล
- บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด : เจ มันนี่
- บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด : บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน
- บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด : ซัมมิท แคปปิตอล
- บริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด : สินเชื่อซิตี้คอร์ป
- บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด : บัตรเทสโก้
- บริษัท นครหลวง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : นครหลวง แคปปิตอล
- บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด : บัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา
- บริษัท พรอมิส (ประเทศไทย) จำกัด : พรอมิส
- บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : เมืองไทย แคปปิตอล
- บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) : แมคคาเล กรุ๊พ
- บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) : ศักดิ์สยามลิสซิ่ง
- บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด : กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
- บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) : บัตรอิออน
- บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) : ยูเมะพลัส
- บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) : เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง
- บริษัท ไอทีทีพี จำกัด : สินเชื่อ ไอทีทีพี
- บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) : เอ มันนี่
ขอบคุณข้อมูลโดย : วาไรตี้ https://colalfonsoxii.com
หากใครกำลังประสบปัญหามีหนี้สินที่กลายเป็นหนี้เสียแล้ว ไม่รู้จะผ่อนชำระต่ออย่างไรดี หรือมีเจ้าหนี้หลายราย อยากปรับโครงสร้างหนี้ แนะนำให้มาสมัครเข้าโครงการ "คลินิกแก้หนี้" ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนอย่างเป็นระบบ
โดยในปี 2564 ได้ปรับเงื่อนไขเพิ่มเติมให้ครอบคลุมลูกหนี้มากขึ้น พร้อมกับขยายความช่วยเหลือให้ลูกหนี้ที่กลายเป็น NPL ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วย วันนี้เรานำข้อมูลและรายละเอียดมาแจกแจงให้ทราบกัน และจะได้ตรวจสอบด้วยว่าเรามีสิทธิ์เข้าโครงการนี้ด้วยหรือไม่
คลินิกแก้หนี้ คืออะไร
คลินิกแก้หนี้ หรือ "โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน" เป็นนโยบายของภาครัฐที่มีขึ้น เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ให้มีโอกาสปลดหนี้ได้ โดยมีบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นตัวกลางในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินกับสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่ง ให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เหมือนกับ One Stop Service ที่ลูกหนี้แค่มาเจรจาที่คลินิกแก้หนี้ที่เดียวก็เหมือนกับได้ติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เรียกได้ว่า "หนี้บัตรทบ จบที่เดียว"
สินเชื่อแบบไหนเข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ได้
- ต้องเป็นหนี้ส่วนบุคคล เช่น หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน กับธนาคาร, non-bank และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ร่วมโครงการ
- ต้องเป็นหนี้ที่ไม่ได้ชำระหรือไม่ได้ชำระขั้นต่ำเป็นระยะเวลาติดต่อกันมากกว่า 91-120 วัน และเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 (เป็นการปรับเกณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19) ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนมกราคม 2564
- มีหนี้เสียกับเจ้าหนี้เพียง 1 ราย หรือเจ้าหนี้หลายรายก็เข้าร่วมโครงการได้
- มียอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยสามารถนำยอดหนี้บัตรเครดิตเฉพาะบัตรที่เป็นหนี้เสียทุกใบมาเข้าร่วมโครงการได้
- หากผ่อนขั้นต่ำอยู่จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
- หนี้นอกระบบจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
คลินิกแก้หนี้ มีธนาคารไหนร่วมโครงการบ้าง
มีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ 17 ธนาคาร ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารเกียรตินาคิน
- ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ.
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารทิสโก้
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารยูโอบี
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
- ธนาคารแห่งประเทศจีน
- ธนาคารไอซีบีซี
- ธนาคารออมสิน
ผู้ประกอบการ non-bank ทั้งหมด 18 ราย ที่เข้าร่วมด้วย ดังนี้
- บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : จี แคปปิตอล
- บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด : เจ มันนี่
- บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด : บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน
- บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด : ซัมมิท แคปปิตอล
- บริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด : สินเชื่อซิตี้คอร์ป
- บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด : บัตรเทสโก้
- บริษัท นครหลวง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : นครหลวง แคปปิตอล
- บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด : บัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา
- บริษัท พรอมิส (ประเทศไทย) จำกัด : พรอมิส
- บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : เมืองไทย แคปปิตอล
- บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) : แมคคาเล กรุ๊พ
- บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) : ศักดิ์สยามลิสซิ่ง
- บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด : กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
- บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) : บัตรอิออน
- บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) : ยูเมะพลัส
- บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) : เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง
- บริษัท ไอทีทีพี จำกัด : สินเชื่อ ไอทีทีพี
- บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) : เอ มันนี่
ขอบคุณข้อมูลโดย : วาไรตี้ https://colalfonsoxii.com
แก้ไขล่าสุด 10 ก.ค. 64 13:17 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google