ทอท. ชี้แจงโต้แก้สัญญาดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์ไม่ขัด พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ
20 ก.พ. 65 21:10 น. /
ดู 2,442 ครั้ง /
0 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
เมื่อโควิด-19 ตอนนี้ยังไม่หายไป แม้มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศยังคงน้อยกว่าก่อนหน้านี้ 90% ทำให้ธุรกิจเชิงพาณิชย์ต่างๆ ในสนามบินได้รับผลกระทบอย่างมาก ก็เป็นการดีที่ ทอท. เองมีนโยบายผ่อนปรนช่วยผู้ประกอบการ เพื่อยังคงประกอบธุรกิจได้และ รายได้ของ ทอท. ไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ ดังตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบิน อินชอน สาธารณรัฐเกาหลี
แต่การทำแบบนี้ก็มีเสียงกล่าวหา กรณีแก้ไขสัญญาให้สิทธิประกอบกิจการดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ รวมถึงสัญญาให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ โดยไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561
ส่งผลกระทบต่อสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ทุกประเภทของ ทอท.โดยตรงอย่างรุนแรง และหลีกเลี่ยงมิได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นเหตุสุดวิสัย อันอาจเป็นเหตุให้สายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์สามารถใช้สิทธิตามเงื่อนไขสัญญาเพื่อขอยกเลิกสัญญากับ ทอท.ได้
ดังนั้น เพื่อมิให้การให้บริการการขนส่งทางอากาศซึ่งถือเป็นบริการสาธารณะที่สำคัญหยุดชะงักหรือด้อยประสิทธิภาพลงจากผลกระทบดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารและการบริการที่ต่อเนี่องของท่าอากาศยาน
ทอท.ในฐานะผู้ให้บริการท่าอากาศยานมีความจำเป็นต้องรักษาประสิทธิภาพการให้บริการและยังคงต้องดำรงไว้ซึ่งธุรกิจของ ทอท. โดยการถูกผู้ประกอบการยกเลิกสัญญาจะส่งผลกระทบโดยตรงกับรายรับของ ทอท.
เป็นระยะยาว รวมถึงกระทบต่อความพร้อมของท่าอากาศยานในการเตรียมรับการเปิดประเทศเมื่อสถานการณ์ของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง
นอกจากนี้หากต้องมีการเปิดประมูลเพื่อหาผู้ประกอบการเข้ามาทดแทนในสถานการณ์
ที่จำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างมากตามที่ทราบโดยทั่วกันอยู่ในขณะนี้ ทอท.จะมีความเสี่ยงที่อาจไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้าร่วมการประมูลดังเช่นที่เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีในช่วงเวลาเดียวกัน หรือไม่มีผู้เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำให้แก่ ทอท.ในอัตราที่สูงเช่นเดียวกับที่ ทอท.ได้รับจากการประมูลเสนอราคาที่ผ่านมา อันจะทำให้ ทอท.ขาดรายได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว และยังทำให้รายได้รวมของ ทอท.ลดลงมาก
ทอท.จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการทุกประเภทการบริการเพื่อให้สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ ซึ่งจะนำมาซึ่งการรักษารายได้ของ ทอท.ไว้ และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ให้มีการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ผู้ประกอบการดำรงธุรกิจต่อไปได้
นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและการให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทอท.ได้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนตามระเบียบ ทอท.ว่าด้วยการให้สิทธิประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ พ.ศ.2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งระเบียบดังกล่าวคณะกรรมการ ทอท.ได้กำหนดขึ้น
โดยอาศัยอำนาจตามในข้อบังคับ ทอท.ข้อ 36 ที่กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินกิจการของบริษัทให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
มีจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ ทอท.ได้รับรายได้ค่าเช่าและค่าผลประโยชน์ตอบแทน
จากการให้สิทธิประกอบกิจการอย่างครบถ้วนเสมอมา และจากมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวก็ยังสามารถทำให้ ทอท.ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากผู้ประกอบการอย่างสมควรตามสภาพสถานการณ์จำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง
นอกจากนี้ ทอท.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินธุรกิจโดยใช้งบประมาณของตนเอง มิได้รับจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ การจัดทำงบประมาณของ ทอท.เป็นไปตามข้อบังคับ ทอท. ข้อ 54 (3) ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2550 รวมถึงพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ.2561
นายนิตินัย กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ทอท.จึงมีความเห็นว่า การพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อพยุงสถานะทางธุรกิจของสายการบินและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ทอท.ที่จะพิจารณาดำเนินการได้
เนื่องจากเป็นการกระทำโดยสุจริตโดยอำนาจบริหาร และยังเป็นการดำรงไว้ซึ่งรายได้ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารธุรกิจ โดยได้มีการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ ตามเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 (พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ) อย่างครบถ้วน และพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ
นอกจากนี้ ทอท.ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณา และได้รับการยืนยันจากหน่วยงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ แล้วว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ และประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง การดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต พ.ศ.2561
"ขอยืนยันว่า ทอท.ได้ทำการประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลในทุกๆ ด้านรวมถึงการพิจารณาระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้คำนึงถึงโอกาสทางเลือกที่ผู้ประกอบการสามารถบอกเลิกสัญญา อันจะส่งผลกระทบกับความต่อเนื่องในการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร"นายนิตินัย กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณข่าวจาก เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ
https://www.thansettakij.com/business/512831
แก้ไขล่าสุด 20 ก.พ. 65 21:17 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google