สิว (Acne) ตุ่มกวนใจใบหน้า

1 ก.ย. 65 16:59 น. / ดู 1,490 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์


สิว กลายเป็นปัญหาด้านผิวหนังอย่างหนึ่ง ที่ทุกๆคนในช่วงวัยรุ่นนั้นต้องพบเจอแม้ว่าหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงเลือกที่จะปล่อยทิ้งไว้ให้หายเอง และไม่รักษาสิว จนทำให้เป็นเหตุให้เกิดอาการเรื้อรัง ถึงขั้นอักเสบ ทั้งนี้อาจทิ้งรอยแผลสุดช้ำใจไว้บนใบหน้าของเราได้อีกด้วย
สิว คืออะไร
สิว คือ การอักเสบของต่อมไขมันและรูขุมขนบนร่างกายของเรา เกิดจากการอุดตันของไขมันที่มากเกินความจำเป็นบริเวณรูขุมขน ซึ่งบริเวณที่เกิดสิวขึ้นบ่อยครั้งคือบริเวณ ใบหน้า คอ รวมไปถึงลำตัวส่วนบน เนื่องจากบริเวณเหล่านี้มีต่อมไขมันอยู่เยอะจึงเกิดสิวได้ง่าย

หลายคนมีความเข้าใจผิดๆว่า "หน้าเป็นสิวก็แค่วัยรุ่นนั้นแหละ" แท้จริงแล้วนั้นไม่ใช่เลย แม้ว่าสิวมักเกิดกับผู้หญิงในช่วงอายุ 14-17 ปี เกิดกับผู้ชายในช่วง 16-19 ปี จากนั้นมักหายไปในช่วง 20-25 ปี แต่บางคนอาจยังมีสิวขึ้นแบบเป็นๆหายๆได้จนถึงอายุ 40 ปีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจกันนะครับ

สิวเกิดจากอะไร? + สาเหตุ "สาเหตุ การ เกิด สิว
สาเหตุการเกิดสิวนั้น สามารถแบ่งได้หลายปัจจัย แต่เราสามารถรวบรวมมาเป็น 2 ปัจจัยหลักได้แก่ ปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกร่างกาย

ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ผิวพรรณ กรรมพันธุ์ โรคเรื้อรัง ที่สำคัญคือระดับฮอร์โมน เนื่องจากฮอร์โมนนั้นจะมีมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จึงอาจพบการเกิดสิวได้มากในชั่ววัยนี้ ซึ่งฮอร์โมนที่สามารถทำให้เกิดสิว นั้นได้แก่ ฮอร์โมนเพศแอนโดรเจน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นต่อมไขมัน เป็นต้น
ปัจจัยภายนอกร่างกาย เช่นการเลือกใช้ ยา ครีม เครื่องสำอาง แสงแดด อุณหภูมิ และอาหารที่เรากินเข้าไป ปัจจัยจากอาหาร ส่วนมากพบการเกิดสิวในกลุ่มผู้ที่รับประทานอาหารหวาน อาหารประเภทแป้งเป็นประจำ

การเลือกใช้เครื่องสำอาง เช่น แป้งหรือครีมบางชิ้น ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เกิดสิว เนื่องจากส่วนผสมของเครื่องสำอางบางชนิดอาจอุดตันรูขุมขนของเราได้ การล้างหน้าที่มีการถูมากจนเกินไป หรือการบีบสิว ทั้งนี้สิวยังเกิดจากการใช้ยาบางประเภทได้อีกด้วย เช่น ยาคุมกำเนิด ยาสเตียรอยด์ เป็นต้น



วิธีรักษาสิว
เป็นสิวรักษายังไง เพราะสิวมีมากมายหลายรูปแบบ ในปัญจุบันจึงวิธีรักษาสิวอยู่หลายวิธีเช่นกัน เราสามารถเลือกวิธีรักษาสิวได้ตามความสะดวก ซึ่งแต่ละวิธีนั้นล้วนมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันไป การรับคำ

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจช่วยให้คุณใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น และตอบโจทย์สำหรับการเลือกรักษาสิวแต่ละประเภทให้ถูกต้องและส่งผลดีที่สุดได้

การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยารักษาสิวนั้น มีหลากหลายแบบทั้งแบบทาและแบบกิน  เช่น ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว ยากลุ่มวิตามินเอ ละลายหัวสิวและลดการอักเสบของสิว ยาสเตียรอยด์แบบฉีดกรณีมีสิวอักเสบ (ยาสเตียรอยด์แบบฉีดควรมีคำแนะนำจากแพทย์เห็นควรที่จะฉีด ดีกว่าตัดสินใจเองนะครับ เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลุมสิวได้)

การกดสิว
การรักษาสิวด้วยวิธีการกดสิว เป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับสิวอุดตัน โดยการกดสิวสามารถใช้ได้กับทั้งสิวหัวขาวและหัวดำ สำหรับสิวหัวขาวนั้นเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันอยู่ภายใน แต่การกดสิวหัวดำเน้นประโยชน์ด้านความสวยงาม

ซึ่งวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะการกดสิวด้วยตัวเอง มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ การที่หัวสิวโดนผิวหน้าเรา ทำให้เกิดสิวมากขึ้นกว่าเดิม หรืออาจเกิดการอักเสบของสิวที่ถูกกด ทำให้เกิดรอยดำจากสิวบนใบหน้าเราได้อีกด้วย

การเลเซอร์สิว
การรักษาสิวด้วยการใช้เลเซอร์ มีข้อดีคือการใช้เลเซอร์สามารถช่วยลดการผลิตไขมันภายในรูขุมขน ลดการเกิดการอุดตัน ลดการสะสมของแบคทีเรีย รวมไปถึงเลเซอร์ยังมีส่วนช่วยลดรอยสิวให้จางลง ช่วยนำเซลล์ผิวชั้นนอกออก ทำให้ผิวหนังสร้างเซลล์ผิว กระตุ้นให้เกิดผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนด้วย

สิวแต่ละประเภท มีการรักษาอาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-8 เดือน จนกว่าการรักษาจะเห็นผลดีที่สุด ดังนั้นการทำความเข้าใจต่อโรค สาเหตุ ปัจจัยกระตุ้นของโรค รวมไปถึงการดำเนินของโรค และวิธีปฏิบัติตัวระหว่างการรักษาเป็นหนึ่งในวิธีการที่สามารถช่วยให้ท่านหายจากการเป็นสิวได้ดียิ่งขึ้นครับ

ปรึกษาแพทย์
หากไม่สามารถตัดสินใจด้วยตนเองว่า จะรักษาด้วยวิธ๊ไหนดี การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด


สิวมีกี่ประเภท
สิว ที่ทุกท่านรู้จักนั้น อาจมีมากมายหลายชื่อเรียกตามลักษณะสิว แต่การแบ่งประเภทนั้นจำแนกออกได้ 2 ประเภทใหญ่ได้แก่ สิวที่ไม่มีการอักเสบและสิวที่มีการอักเสบ

สิวที่ไม่มีการอักเสบ
สิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน อาจเกิดจากไขมันส่วนเกิน หรือสิ่งสกปรกก็ได้ โดยสิวประเภทนี้จะไม่มีอาการอักเสบ

สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้ว และไขมันที่มีการผลิตออกมามากเกินไปจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยการอุดตันจะเกิดภายในรูขุมขนใต้ผิวหนัง และปรากฏออกมาเป็นสิวอุดตัน

สิวไม่มีหัว มีลักษณะเป็นสิวไม่มีหัว นูนๆ ตุ่มสีแดง มักพบเป็นสิวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดปานกลาง บางรายอาจมองเห็น สิวอุดตัน ไม่มีหัวได้ไม่ค่อยชัดเจน เนื่องจากอักเสบระดับน้อย จึงเห็นเป็นตุ่มสีแดงจางๆ อย่างไรก็ตาม สิวประเภทนี้ ไม่ควรบีบหรือกดสิวออกมา เพราะอาการอักเสบจะมากยิ่งขึ้น จนทำให้รู้สึกเจ็บปวดในยามสัมผัส

สิวหัวดำ สามารถพบได้ที่กลางใบหน้า หลัง อก คอ แขน และหัวไหล่บนผิวหนังง่ายที่จะสังเกต จะมีลักษณะนูนขึ้นมาเล็กน้อยและมีสีคล้ำ ซึ่งจะไม่เหมือนสิวชนิดอื่น ที่สิวหัวดำยังไม่มีการอักเสบ ดังนั้นจึงไม่เจ็บหากสัมผัสโดน แม้ว่าสิวหัวดำจะเป็นสิวประเภทที่ไม่รุนแรง แต่บางครั้งก็ทำให้ผู้ที่เป็นเกิดความกังวลมากกว่าสิวประเภทอื่นๆ เนื่องจากสีที่เห็นได้ชัดและกำจัดได้ยาก

สิวผด เป็นอาการแพ้ของผิวหนัง  สิวผดสามารถพบเจอได้ที่บริเวณใบหน้าอย่าง สิวผดหน้าผาก ไรผม หรือสิวผดที่แก้ม มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ไม่มีหัว บางคนอาจมีรอยแดงหรืออาการคันร่วมด้วย ซึ่งที่จริงแล้ว ถ้ามีอาการคัน แดงร่วมด้วย

สิวหิน เป็นเนื้องอกของต่อมเหงื่อที่ไม่มีอันตรายใด ๆ ไม่กลายเป็นเนื้อร้าย แต่มักก่อให้เกิดความกังวลในแง่ของความสวยงาม สิวหินในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดสิวหิน มีจำนวนมากหรือน้อยขึ้นกับบุคคลและกรรมพันธุ์ แต่จำนวนมักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุ

สิวไต คือ สิวไม่มีหัว นิยมขึ้นบริเวณใบหน้า มีลักษณะเป็นเม็ดนูนหรือตุ่มเล็กๆ มักไม่มีอาการเจ็บ ซึ่งสิวไม่มีหัวหรือสิวไตนี้เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน พบได้มากบริเวณหน้าผากและคาง

สิวที่มีการอักเสบ
สิวที่มีการอักเสบ คือ สิวที่มีการอุดตันของรูขุมขน และพบลักษณะของการอักเสบร่วมด้วย โดยมากมักเกิดตามหลังสิวหัวปิดที่ไม่ได้รับการรักษา ร่วมกับมีการติดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณรูขุมขน เช่น

สิวหัวหนอง เมื่อเกิดอุดตันของรู ขุมขนที่เต็มไปด้วยน้ำมัน เชื้อแบคทีเรีย เซลล์ผิวที่ตาย และการรบกวนสิวอุดตันไม่ว่าจะเป็นการการบีบ แกะ แคะ  นั้นจะทำให้ทำให้เชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรกเข้าไปในชั้นผิวหนัง จนเกิดการติดเชื้อ อักเสบ กลายเป็นสิวหัวหนองในที่สุด

สิวหัวช้าง คือสิวที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง อาจมีหัวหรือไม่ก็ได้ เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ที่มีสิ่งสกปรกมาอุดตัน ทำให้น้ำมันที่ควรออกมาตามธรรมชาติเกิดการอักเสบหรือปูดนูนบริเวณรูขุมขนและกลายเป็นสิวหัวช้าง

สิวติดสารหรือสิวสเตียรอยด์ สิวสเตียรอยด์ไม่ใช่สิว แต่เป็น "ผื่นที่มีลักษณะคล้ายสิว" แต่คนทั่วไปมักเรียกกันง่ายๆ ว่า สิวสเตียรอยด์ มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง คล้ายตุ่มพุพอง ทั้งนี้สิวสเตียรอยด์เกิดขึ้นจากปัญหาโรคผิวหนังซึ่งต่างจากสิวอุดตันทั่วไป สิวสเตียรอยด์เริ่มต้นจากการอักเสบของเซลล์รูขุมขนและมีการหลั่งของเสียออกนอกเซลล์ จากนั้นไปรวมตัวกับน้ำมันเกิดเป็นผื่นสเตียรอยด์

สิวซีสต์ คือสิวที่มีขนาดใหญ่มาก มีอาการอักเสบอย่างรุนแรง บริเวณภายในอาจมีเลือดกับหนองผสมกันอยู่ สามารถรู้สึกเจ็บปวดได้ตลอดเวลาแม้ไม่มีการสัมผัส สิวซีสต์สามารถพัฒนามาจากสิวหัวหนองที่มีการรักษาที่ไม่ดีหรือเกิดการติดเชื้อได้



บริเวณที่มักเกิดสิว
บริเวณที่มักเกิดสิว คือบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น เมื่อต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป จนทำให้ไขมันอุดตันกลายเป็นสิว บริเวณต่างๆที่สิวมักเกิดขึ้นได้แก่

สิวที่คาง
สิวที่คาง มักเกิดจากสาเหตุของการเปลี่ยนของระดับฮอร์โมนในร่างกายเช่นช่วงใกล้มีรอบประจำเดือน ช่วงที่มีความเครียด หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid19  การสวมหน้ากากอนามัยนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่การใส่หน้ากากอนามัยนั้นกลับกลายเป็น หนึ่ง ในสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่คาง

สิวที่หน้าผาก
สิวที่หน้าผาก มักเกิดจากการที่ต่อมไขมันบริเวณหน้าผากมีการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวมากเกินไป จนทำให้เกิดเป็นความมันส่วนเกิน และอุดตันรูขุมขนของเราจนทำให้เกิดสิวได้นั้นเอง

ความมันส่วนเกินเกิดได้จากหลายสาเหตุ  ผิวขาดความชุ่มชื้น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือ กิจกรรมที่ต้องทำอยู่กลางแจ้ง ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อปกป้องผิวจากความร้อนและรังสียูวี และเมื่อมีไขมันมากเกินจึงเกิดการอุดตันและเกิดสิวที่หน้าผากในที่สุด

สิวที่จมูก
เนื่องจากบริเวณจมูกนั้นมีต้อมไขมันอยู่จำนวนมาก สาเหตุหลักของการเกิดสิวที่จมูก จึงได้แก่ ความเครียด เนื่องจากความเครียดนั้นจะส่งผลกระตุ้นให้ต่อมไขมันให้ผลิตไขมันออกมามากเกิน จนเกิดการอุดตันรูขุมขนของเราและทำให้เกิดสิว การใช้เครื่องสำอางที่อาจทำให้เราแพ้ การจับจมูกโดยไม่จำเป็น

แค่จับจมูกสิวก็ขึ้น เนื่องจากเรานั้นไม่สามารถทราบได้เลยว่า มือของเรานั้นไปสัมผัสอะไรมาบ้าง ที่มือของเราอาจมีเชื้อแบคทีเรีย หรือสิ่งสกปรกติดอยู่ เมื่อแบคทีเรียบและสิ่งสกปรกสัมผัสกับจมูกของเราอาจทำให้จมูกเกิดสิวได้ง่าย

สิวที่แก้ม
สาเหตุหลักของการเกิดสิวที่แก้ม คือสิ่งสกปรกและการทำความสะอาดที่ไม่ดีพอ ยกตัวอย่างเช่น หน้าจอโทรศัพท์ เนื่องจากผิวบริเวณแก้มเสียดสีกับหน้าจอโทรศัพท์ บริเวณแก้มจะสัมผัสกับหน้าจอโดยตรง ซึ่งบริเวณหน้าจอโทรศัพท์ถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี

ปลอกหมอนไม่สะอาด ก็ถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ไรฝุ่น, เชื้ออีโคไล, น้ำมันบนเส้นผม ไปจนถึงคราบน้ำลายของเราเอง หรือแม้กระทั่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในช่วงที่ผู้หญิง มีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์อีกด้วย

สิวที่ปาก
สิวที่ปากนั้น เป็นลักษณะสิวเม็ดเล็กเหนือริมฝีปากหรือมุมปาก ในบางครับสิวที่ปากก็อาจเป็นสิวหัวขาว หรืออาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้เลยทีเดียว สาเหตุที่เกิดสิวที่ปากนั้นมีหลักๆดังนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การแพ้เครื่องสำอางที่ใช้ การทายาแก้สิวหรือครีมที่มีสารสเตียรอยด์ ความมันและความสกปรกที่เกิดจากการกินอาหาร รวมถึงการรักษาความสะอาดของใบหน้าไม่เพียงพอ ภาวะผิวแห้งบริเวณรอบปาก

สิวที่คอ
มักจะเกิดจากการมีต่อมไขมันบริเวณนั้นมากเป็นพิเศษ ทำให้เกิดการอุดตันจึงทำให้เป็นสิวอักเสบตามมาไม่รู้ตัว เช่น รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอย่างเนื้อสัตว์ ของทอด หรือของหวานไขมันสูง ทำให้เกิดสิวที่คอได้ เพราะไขมันจากอาหารจะออกมาตามรูขุมขน รักษาความสะอาดไม่มากพอ ใช้ยาสระผมที่มีซิลิโคน อาจทำให้เกิดปัญหารูขุมขนอุดตัน จนกลายเป็นสิวที่คอได้ ความอับชื้นทำให้
รูขุมขนขับสารคัดหลั่งเปลี่ยนไปทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดการอักเสบ กลายเป็น สิวผด ซึ่งอาจมีอาการคันร่วมด้วย

สิวที่หลัง
สิวที่หลัง มีสาเหตุของการเกิดสิว เหมือนกับทุกส่วนในร่างกาย เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่กระตุ้นการผลิตไขมันของต่อมไข่มันทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนกลายเป็นสิวที่หลัง เหงื่อไคล ผิวแพ้ผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือการรับประทานอาหารทอด อาหารมันเป็นประจำ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิว
สิวฮอร์โมน รักษา
ในขณะที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของต่อไขมันจนผลิตไขมันมามากจนเกินไป และเกิดไขมันอุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นสิว หากต้องการวิธีรักษาสิวฮอร์โมน การลดปัจจัยที่จะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันด้านอื่น อาจช่วยให้การเกิดสิวฮอร์โมนนั้นลดลงได้เช่น การลดปัจจัยความเครียด การลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล รักษาความสะอาดร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย เพียงวิธีข้างต้นนี้ก็จะช่วยลดปริมาณสิวฮอร์โมนที่เกิดขึ้นได้อย่างเห็นผล

สิวเห่อเต็มหน้า
สิวเห่อเต็มหน้านั้นมีสาเหตุ จากการนอนดึก นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การสัมผัสใบหน้าในขณะที่มือยังสกปรกอยู่หรือสัมผัสบ่อยจนเกินไป การรักษาความสะอาดของสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่ดีพอ ทำให้มีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสัมผัสกับใบหน้าเราโดยตรง และทำให้เกิดสิวเห่อเต็มหน้าในท้ายที่สุด

และถึงแม้จะไม่มีพฤติกรรมตามที่กล่าวมาข้างต้น  กรรมพันธุ์ก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวเห่อเต็มหน้าได้อีกด้วย

ผิวไม่แข็งแรง เป็นสิวง่าย
ผิวไม่แข็งแรง ผิวแพ้ง่ายเป็นสิวง่าย คือ ผิวที่อ่อนแอ และมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวอุดตันได้ง่าย ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีลักษณะผิวบอบบางแพ้ง่ายร่วมกับผิวมันเพราะต่อมไขมันผลิตไขมันมากกว่าผิวประเภทอื่นๆ ทำให้เกิดการอุดตันที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว

พันธุกรรม ยีนจะบ่งชี้ว่าเราจะมีผิวแบบไหนและในบางรายอาจมีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาผิวอักเสบ สิวและริ้วรอยได้มากกว่าคนอื่นๆ ถ้าในครอบครัวมีประวัติเป็นสิว ลูกก็มีโอกาสสูงที่จะมีปัญหาสิวเช่นกัน
ฮอร์โมนกระตุ้นการผลิตไขมันของต่อมไขมัน ทำให้ผิวเป็นสิวง่ายมีการผลิตไขมันส่วนเกิน และเกิดการอุดตันของรูขุมขนจนเกิดสิวได้ง่าย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวในการทำความสะอาดผิวหน้า จะทำให้ผิวถูกกระตุ้นได้ง่ายเพราะเกราะปกป้องผิวอ่อนแอกว่าผิวปกติทั่วไป ถ้าหากทำความสะอาดไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดสิวได้ง่าย
แก้ไขล่าสุด 1 ก.ย. 65 17:05 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย sz463257

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google