แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายคาร์บอนเครดิตของไทย

27 ก.ย. 65 11:27 น. / ดู 9,235 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
จากที่มีการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP 26 ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 นั้น หลังจากนั้นเราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นภาครัฐก็ดี เอกชนก็ดี หรือภาคประชาชน หันมาให้ความสำคัญและสนใจในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นหนึ่งในนั้นคือ การซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit)
เมื่อ 21 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา นายวราวุธ  ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีลงนามความตกลงประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิตและเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานสะอาดและคาร์บอนเครดิต ระหว่างสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ในงานในงาน "ลงมือทำ ลดโลกร้อน: ทางรอด ทางรุ่ง ของโลก ของไทย" Take Climate Action: Save The Earth, Prosper All  ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โดยสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์



ซึ่งแพลตฟอร์มนี้มีชื่อว่า FTIX หรือ FTI : CC/RE/REC X Platform เป็นศูนย์ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตที่เชื่อมโยงกับระบบของ อบก. หรือ อบก. สนับสนุนการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต โดยสามารถติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยได้ด้วย และเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถดำเนินกิจกรรมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ พร้อมทั้งสนับสนุนตลาดคาร์บอนเครดิตภายในประเทศ เตรียมผลักดันไปสู่การ Trading ของภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังทำให้ประเทศไทยมีตลาดซื้อ-ขายในต่างประเทศ เพราะได้ลงนามในข้อตกลงการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีสระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาพันธรัฐสวิส จึงทำให้ทั้ง 2 ประเทศสามารถถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตร่วมกัน และเป็นคู่แรกของโลก

งานในวันนี้ถูกจัดในรูปแบบของ Green Event เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การปรับอุณหภูมิห้องไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส, สวมเสื้อฮาวายและเสื้อยืดแทนการสวมสูท รวมถึงคำนวณคาร์บอนเครดิตที่ถูกปล่อยในงานนี้ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 260 ตันคาร์บอนเทียบเท่า เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการจัดงานนี้ได้ทั้งหมด และมีการแลกเปลี่ยนการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างภาคเอกชน กับภาคเอกชน และภาคเอกชนกับภาครัฐ ซึ่งมีภาคเอกชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

สำหรับพิธีลงนามในวันนี้เสมือนเป็นการสร้างแรงจูงใจ และเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับที่ 21 ของโลก หรือคิดเป็น 0.8% ของโลกก็ตาม แต่กลับเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรง ดังนั้นถ้าจะเริ่มเปลี่ยนแปลงวันนี้ก็ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหน แต่เพื่อประเทศของเรา และโลกของเรานั่นเอง
เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย MacOS

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | sz382025 | 10 ต.ค. 65 00:00 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google