ฟ้าทะลายโจร (andrographis paniculata) คืออะไร? ใช้งานอย่างไรให้ถูกวิธี

14 พ.ย. 65 21:33 น. / ดู 1,014 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์


ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรท้องถิ่นของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีคนรู้จักกันมาอย่างยาวนาน มักจะถูกนำไปใช้ในการรักษาอาการต่างๆ เช่น ไม่สบาย เป็นหวัด เจ็บคอ ฯลฯ ตามความรู้ที่มีการถ่ายทอดส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น
ปัจจุบัน ตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ขึ้น "ฟ้าทะลายโจร" จึงกลายมาเป็นกระแสนิยมหลัก เนื่องจากหลายๆคนเชื่อว่า การใช้ฟ้าทะลายโจร ช่วยเรื่องรักษาโควิด-19 ได้ และน่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เพราะเป็นสมุนไพรตามธรรมชาติ

จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ? เราจะมาไขทุกความลับของฟ้าทะลายโจร ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจรมีกี่แบบ แบบไหนดี สินค้าฟ้าทะลายโจรปลอมหรือฟ้าทะลายโจรของจริงต้องดูยังไง แท้ที่จริงแล้วฟ้าทะลายโจร รักษาอาการอะไรได้บ้าง รวมไปจนถึงวิธีการใช้ฟ้าทะลายโจรที่ถูกต้อง มาร่วมค้นหาคำตอบได้ในบทความนี้

รู้จักฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis Paniculata คือ สมุนไพรรสขมที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาฤทธิ์เย็น ซึ่งหลายๆคนอาจรู้จักกันดีในชื่อ ฟ้าทะลาย เมฆทะลาย หญ้ากันงู น้ำลายพังพอน  หรือฟ้าสะท้าน

ภายในฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) คือ สารสำคัญที่สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสและการอักเสบต่างๆ ได้ ทำให้ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางศาสตร์การแพทย์แผนไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบรรเทาอาการไข้หวัด เจ็บคอ ปวดท้อง กระเพราะอักเสบ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ ฟ้าทะลายโจรจึงได้ถูกบรรจุลงในบัญชียาหลักแห่งชาติของกระทรวงสาธารณสุขในรูปแบบของยาเดี่ยว

จากงานวิจัยและการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฟ้าทะลายโจร พบว่า

1.การศึกษาเรื่องการวัดประสิทธิภาพของการใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจร เพื่อลดการเกิดโรคหวัดและบรรเทาอาการผู้ป่วย 158 คน ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร มีอาการของโรคลดลงทั้งหมดภายใน 4 วัน โดยช่วยเรื่องของการลดอาการเจ็บคอ อาการคัดจมูกและปวดหูมากที่สุด

2.การศึกษาเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ 120 คน ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร 1,800 มิลลิกรัมต่อวัน มีผลการตอบสนองทางคลินิกและบรรเทาอาการต่างๆได้ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก และจากการรายงานยังพบอาการไม่พึงประสงค์อย่างการเกิดผื่นประมาณ 8% ของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร และ 1% จากกลุ่มที่ได้รับยาหลอก อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเป็นอาการที่ไม่ค่อยรุนแรงและไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อการรักษา

รูปแบบของยาฟ้าทะลายโจร

เมื่อพูดถึงฟ้าทะลายโจร หลายๆคนอาจนึกถึงพืชสมุนไพรสีเขียวใบแหลมๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ในการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรค จะมีการแปรรูปให้ยาฟ้าทะลายโจรสะดวกต่อการจัดเก็บและการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งยาฟ้าทะลายโจร จะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ดังนี้

ฟ้าทะลายโจรแบบผง



ฟ้าทะลายโจรแบบผง เป็นการนำฟ้าทะลายโจรสดในส่วนเหนือพื้นดินมาตากแห้ง บดเป็นผงยา และนำไปบรรจุเป็นฟ้าทะลายโจรแบบเม็ดยา หรือฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูล ซึ่งจะได้ทั้งไฟเบอร์จากใบไม้ และสารแอนโดรกราโฟไลด์(Andrographolide) โดยทางองค์การอาหารและยา กำหนดไว้ว่า ยาฟ้าทะลายโจรแบบผงควรมีความเข้มข้นของ Andrographolide ไม่ต่ำกว่า 1%

ฟ้าทะลายโจรแบบสารสกัด



ฟ้าทะลายโจรสกัด คือ การนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มาสกัดออกมาให้เหลือเพียงสารแอนโดรกราโฟไลด์(Andrographolide)เท่านั้น ไม่มีการนำเอาใบหรือไฟเบอร์เข้ามาเจือปนอยู่ในตัวยา โดยรูปแบบที่มักนิยมใช้ ได้แก่ การทำเป็นฟ้าทะลายโจรแคปซูล

สรรพคุณของฟ้าทะลายโจร



ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ทำให้บางครั้งมีความเชื่อหรือความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยารักษามายังรุ่นสู่รุ่น มีทั้งความเชื่อที่ถูกต้อง และข้อมูลที่ผิดเพี้ยนไป จนทำให้หลายๆคนอาจสงสัยว่า แท้ที่จริงแล้ว ฟ้าทะลายโจรสามารถรักษา หรือป้องกันอะไรได้บ้าง?

บทความนี้จึงรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรมาหลายประการ ดังนี้

1. แก้ไขอาการติดเชื้อ
ฟ้าทะลายโจร สามารถช่วยในเรื่องของการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุในการเกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ หรือท้องเดินได้ โดยฟ้าทะลายโจรจะเข้าไปลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคนั้น ด้วยการขับสารพิษ หรือเชื้อโรคที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารออกมา ป้องกันไม่ให้ผนังของลำไส้เกิดการระคายเคือง ลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ จึงทำให้ไม่เกิดอาการเสียดท้อง

เมื่อสารพิษหรือเชื้อโรคที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารลดลง ไม่มีการเคลื่อนไหวของลำไส้ ก็จะทำให้อาการท้องเสีย ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ หรือท้องเดินต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับ ระบบขับถ่ายก็จะกลับเข้าสู่กระบวนการทำงานที่สมดุลอีกครั้ง

2. รักษาอาการหวัด คัดจมูก
ฟ้าทะลายโจร แก้หวัดได้จริงหรือ? สำหรับข้อมูลนี้บอกได้เลยว่าจริง เพราะฟ้าทะลายโจร มีสารพฤกศาสตร์ที่สำคัญ อย่างสารฟลาโวนอยด์ สารไดเทอร์ปีนแลคโตน ฯลฯ ซึ่งมีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก รวมไปจนถึงโรคไข้หวัดใหญ่ได้อีกด้วย
นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆให้ลดลงแล้ว ฟ้าทะลายโจรยังสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ๆ ส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆถูกทำลายจนหมดไปในที่สุด

3. การอักเสบที่ส่วนต่างๆของร่างกาย
ฟ้าทะลายโจร แก้อักเสบที่ส่วนต่างๆของร่างกายได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบต่อร่างกาย อีกทั้งยังสามารถต้านสารอนุมูลอิสระภายในการแข็งตัวของเลือดได้อีกด้วย ส่งผลให้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาทางเลือกในการบรรเทาอาการอักเสบที่เกิดขึ้นได้นั่นเอง

4. รักษาโรคงูสวัด
แม้แต่โรคงูสวัด ก็สามารถบรรเทาอาการด้วยยาฟ้าทะลายโจรได้เช่นกัน โดยฟ้าทะลายโจร จะสามารถบรรเทาอาการให้ไม่เกิดการลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ โดยสามารถทานยาฟ้าทะลายโจร แบบแคปซูลก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น ประมาณ 2-3 เม็ด ติดต่อกันนาน 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ ควรใช้ปริมาณยาฟ้าทะลายโจรตามที่แพทย์แผนไทยให้คำแนะนำเท่านั้น

5. แก้ไข้รากสาดน้อย
ไข้รากสาดน้อย หรือ ไข้ไทฟอยด์ เป็นเชื้อที่มีการฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อลำไส้เล็ก หรือบริเวณต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายเกิดการอ่อนแอลง

การใช้ฟ้าทะลายโจร แก้ไข้รากสาดน้อย จะทานฟ้าทะลายโจรแคปซูลช่วงก่อนอาหารจำนวน 2 เม็ด ในช่วงเช้า กลางวัน และเย็น ติดต่อกันนาน 3 สัปดาห์ จะส่งผลให้เชื้อที่ฝังตัวอยู่เกิดการสลายหายไป

6. อาการริดสีดวงทวาร
ริดสีดวงทวาร เป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งฟ้าทะลายโจร ช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีฤทธิ์ที่ทำให้ไม่มีเลือดออก ลดอาการปวดหน่วง อีกทั้งยังทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้นจากการที่อุจจาระเกิดการนิ่มตัวลง ไม่ก่อให้เกิดการเสียดสีจนเจ็บปวด

การทานยาฟ้าทะลายโจร เพื่อบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร อาจใช้เป็นฟ้าทะลายโจรแคปซูล ก่อนอาหารครั้งละ 2-3 เม็ด ในช่วงเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ติดต่อกันจนอาการริดสีดวงทวารค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ

7. รักษาอาการโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ
โรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ (Acute respiratory tract infection) ได้แก่ อาการไอ เจ็บคอ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ซึ่งฟ้าทะลายโจร แก้เจ็บคอได้โดยการเข้าไปลดความถี่ ความรุนแรงของอาการ รวมไปจนถึงลดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้

อีกทั้งฟ้าทะลายโจรยังมีฤทธิ์ที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นในลำคอ ทำให้การเจ็บคอเนื่องจากไวรัสลดลง และยังกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้สร้างมากขึ้น เพื่อที่จะเข้ามาจัดการกับสิ่งแปลกปลอมได้มากขึ้น

8. บรรเทาอาการไข้
อาการไข้ เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักเคยพบเจอมาก่อน ซึ่งการใช้ยาฟ้าทะลายโจร แก้ไข้ที่เป็นอยู่ ก็เป็นการรักษาทางเลือกที่สามารถใช้ได้

ในทางศาสตร์แพทย์แผนไทย มีแนวคิดว่า หากเรามีอาการไข้ นั่นอาจหมายถึง การที่ร่างกายของเราได้รับอิทธิพลจากธาตุไฟที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นมากจนเกินไป ฉะนั้น การใช้ยาฟ้าทะลายโจร แก้ไข้ที่เพิ่มสูงขึ้น ก็จะเป็นการนำสมุนไพรฤทธิ์เย็น เข้าไปปรับปริมาณความร้อนให้เหมาะสม เพื่อที่จะทำให้ร่างกายกลับเข้าสู่จุดสมดุล

ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้ไหม



ตั้งแต่ที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 กระแสการทานฟ้าทะลายโจรก็ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนในสังคมเกิดความเชื่อขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้" "ทานฟ้าทะลายโจรดักไว้ก่อนเลยทุกวัน จะได้ป้องกันการติดเชื้อโควิด" ฯลฯ จนทำให้ผู้คนเกิดการสับสนว่าความเชื่อเหล่านี้จริงเท็จแค่ไหน?

ข้อมูลจากการรวบรวมงานวิจัยต่างๆ พบว่า สารแอนโดรกราโฟไลด์ที่มีอยู่ภายในฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อโควิด-19 ในเซลล์เพียงเท่านั้น แต่ไม่สามารถที่จะป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้

ด้วยเหตุนี้ ฟ้าทะลายโจร ป้องกันการได้รับเชื้อโควิด-19 ไม่ได้ แต่สามารถทานเพื่อช่วยบรรเทาอาการหลังจากได้รับเชื้อโควิด-19 อย่างอาการไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูก ฯลฯ ได้ เนื่องจากฟ้าทะลายโจรสามารถเข้าไปยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส ลดอาการอักเสบต่างๆ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง รวมไปจนถึงการลดโอกาสที่อาการของโรคจะลุกลามลงไปยังปอดได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับเชื้อโควิด-19 ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำและใช้ปริมาณยาฟ้าทะลายโจรที่เหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งโดยปกติ มักจะได้รับยาฟ้าทะลายโจรอยู่ที่ประมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ทานครั้งละ 60 มิลลิกรัมในช่วงเช้า กลางวัน เย็น

วิธีใช้ยาฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดอย่างปลอดภัย



หากพบว่า ตนเองได้รับเชื้อโควิด-19 และมีอาการป่วยที่ไม่รุนแรงมากนัก เช่น อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ เป็นไข้หวัด ฯลฯ การใช้ยาทางเลือกอย่างฟ้าทะลายโจร เข้ามาช่วยบรรเทาอาการระหว่างกักตัว ควรสังเกตก่อนใช้งานว่า ปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ภายในตัวยาต่อ 1 แคปซูล หรือต่อ 1 เม็ด อยู่ที่ปริมาณเท่าใด เพื่อจะได้ประเมินการทานให้เหมาะสมในแต่ละวัน

วิธีการทานยาฟ้าทะลายโจรในการบรรเทาอาการโควิด-19 คือ การทานตามปริมาณที่กำหนด โดยภายในแต่ละวัน จะต้องได้สารแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่เกิน 180 มิลลิกรัม ซึ่งอาจจะแบ่งทานในช่วงก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทานยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเกิน 5 วัน เนื่องจากค่าเอนไซม์บางชนิดภายในตับจะเพิ่มปริมาณสูงขึ้น มีผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดพิษในตับได้ ดังนั้น หากทานยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรหยุดและรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอีกครั้ง และไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์(Favipiravir) อย่างเด็ดขาด

ข้อควรระวังในการใช้ยาฟ้าทะลายโจร

ถึงแม้ว่า ฟ้าทะลายโจรจะสามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆได้มากมาย แต่การใช้งานจริงนั้น ก็ยังคงมีข้อควรระวังหรือข้อควรรู้ก่อนการใช้งาน เพื่อที่จะได้ใช้งานอย่างถูกวิธี ซึ่งสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ยาฟ้าทะลายโจร มีดังนี้

1.ไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาลดความดันเลือด เนื่องจากอาจทำให้เกิดฤทธิ์ที่เสริมกัน ส่งผลให้ร่างกายอาจได้รับสารบางชนิดในปริมาณที่มากจนเกินไป

2.การใช้ยาฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด(Antiplatelets) สารกันเลือดเป็นลิ่ม(Anticoagulants) หรือยาที่มีกระบวนการเมแทบอลิซึมผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP) เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน อาจทำให้เกิดฤทธิ์ที่ยับยั้งสารดังกล่าว

3.หากใช้ยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเกิน 3 วันและอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการเกิดรุนแรงมากยิ่งขึ้น ควรหยุดใช้และรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็ว

4.เมื่อใช้ยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อตับ ไต แขนขาชาหรืออ่อนแรง และอาจเกิดความพิการขึ้นได้

ใครที่ไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจร

กลุ่มที่ไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจร เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อร่างกาย มีดังนี้

1.ผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่นลมพิษ ปากบวม หน้าบวม หายใจไม่ออก

2.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ และระหว่างการอยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากฟ้าทะลายโจรอาจก่อให้เกิดการบีบตัวของมดลูก ส่งผลให้เกิดการแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือทารกในครรภ์เกิดการผิดปกติได้

3.ผู้ที่มีอาการรุนแรง เช่น เป็นไข้สูง

4.ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับหรือไต ควรใช้ยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์

5.กลุ่มคนที่ต้องทานยาลาดความดันโลหิต

6.กลุ่มที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด

7.บุคคลที่ต้องทานยาต้านเกล็ดเลือด

8.ผู้ที่ต้องการรับประทาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากยาฟ้าทะลายโจรไม่มีฤทธิ์ในการยับยั้งไวรัสเข้าสู่เซลล์ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้

การใช้ฟ้าทะลายโจรในเด็ก



"หากเด็กได้รับเชื้อโควิด-19 สามารถใช้ยาฟ้าทะลายโจรได้หรือไม่?" "เด็กจะต้องทานฟ้าทะลายโจรกี่เม็ดจึงจะอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม?"

การใช้ยาฟ้าทะลายโจร เด็กจะต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมกับอายุ ดังนี้

1.เด็กเล็ก ยังไม่มีข้อมูลขนาดยาเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าสามารถทานในเด็กเล็กได้ ทั้งนี้ ในเด็กเล็กอาจทานยาฟ้าทะลายโจรได้ยาก เนื่องจากฟ้าทะลายโจรเป็นยาที่มีรสขม

2.เด็กอายุ 4-11 ปี ทานยาฟ้าทะลายโจรได้โดยปริมาณของสารแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งอาจทานก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น ส่วนฟ้าทะลายโจรสด สามารถทานในปริมาณ 3-5 ใบ หรือชงดื่ม 3-4 ครั้งต่อวัน

3.เด็กที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 50 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถใช้ปริมาณยาฟ้าทะลายโจรเดียวกับวัยผู้ใหญ่ได้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากใช้ฟ้าทะลายโจร

อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการทานยา ได้แก่

1.มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

2.รู้สึกขมในลำคอ

3.ปวดท้อง ท้องเสีย

4.ความดันโลหิตลดลง วิงเวียนศีรษะ

5.เบื่ออาหาร

6.มือเย็น

7.ใจสั่น ใจเต้นเร็ว

8.แน่นหน้าอก

หากใช้ยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการดังนี้

1.อาการชาตามร่างกาย

2.แขนขาอ่อนแรง

3.เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

4.เกิดผื่นแพ้หรือลมพิษขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย

หลักการพิจารณาเลือกซื้อฟ้าทะลายโจร



เมื่อกระแสการใช้ยาฟ้าทะลายโจรได้รับความนิยมมากขึ้น ก็อาจทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา เสี่ยงต่อการซื้อฟ้าทะลายโจรปลอม แบบนี้จะเลือกซื้อฟ้าทะลายโจรอย่างไรให้ได้ของจริงแบบชัวร์ๆ ในพาร์ทนี้มีคำตอบให้คุณ

การเลือกซื้อฟ้าทะลายโจรที่ปลอดภัย จะต้องดูข้อมูล 4 อย่าง ดังนี้

1. ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อดูปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์
ไม่ว่าจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตาม สิ่งที่ควรดูเป็นอันดับแรกๆคือ ฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างยาฟ้าทะลายโจรที่มีการกำหนดปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ให้เหมาะสมต่อการทานยาในแต่ละวัน จึงทำให้การดูปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ของแต่ละผลิตภัณฑ์มีความสำคัญอย่างมาก

โดยการทานยาฟ้าทะลายโจร ปกติแล้ว ไม่ควรทานเกิน 180 มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะเหมาะสมที่สุด

2. สังเกตเลขทะเบียน อย.
ฟ้าทะลายโจรจัดเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร จึงทำให้ฉลากจะต้องมีเลขทะเบียนขึ้นต้นด้วยตัวอักษร "G" หากเช็คผลิตภัณฑ์แล้วพบว่า เลขทะเบียนไม่เป็นตัวอักษรดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงที่จะซื้อสินค้า เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นฟ้าทะลายโจรปลอม

3. ตรวจสอบจากเว็บไซต์ของสำนักคณะกรรมการอาหารและยา
หากคุณพยายามที่จะพิจารณาผลิตภัณฑ์แล้ว แต่ยังคงไม่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นฟ้าทะลายโจรของจริงหรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักคณะกรรมการอาหารและยา

4. ข้อมูลผู้ผลิต
โรงงานที่ผลิตยาฟ้าทะลายโจร จะต้องมีความถูกต้องตามที่ขึ้นทะเบียนอย. กล่าวคือ จะต้องมีตัวตนอยู่จริง มีมาตรฐาน GMP ตามที่กฏหมายกำหนด อีกทั้งผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาตขายยาแผนโบราณที่ถูกต้องตามกฏหมายด้วย

5. วันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่หมดอายุ
นอกจากยาฟ้าทะลายโจรปลอมที่ควรต้องพึงระวังแล้ว การที่ขายผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจรที่ใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุไปแล้วก็อันตรายเช่นกัน

ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจร ควรต้องสังเกตวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุว่า มีความสมเหตุสมผลกันหรือไม่? นับจากวันที่ซื้อใกล้จะหมดอายุแล้วหรือยัง? เป็นต้น

วิธีเก็บรักษายาฟ้าทะลายโจร

เมื่อเราเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจรมาได้แล้ว อีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือ การเก็บรักษายาฟ้าทะลายโจรที่ถูกต้องนั่นเอง

ยาฟ้าทะลายโจร ควรเก็บรักษาอยู่ในที่แห้ง ใส่บรรจุภัณฑ์ที่สะอาด ปิดฝาให้สนิท และบริเวณที่วางควรจะเก็บให้พ้นจากแสงแดด เนื่องจากพื้นที่อุณหภูมิสูง หรือมีความร้อนมากเกินไป อาจทำให้ยาเกิดการเสื่อมสภาพได้ อีกทั้งควรเก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิมที่ซื้อมาในตอนแรก เนื่องจากทั่วไปแล้ว ที่บนบรรจุภัณฑ์มักจะมีการระบุวันเดือนปีที่ผลิต วันเดือนปีหมดอายุ และข้อมูลอื่นๆที่มีความจำเป็นต่อการใช้งาน

ข้อสรุป

ยาฟ้าทะลายโจร เป็นยาสมุนไพรทางเลือกที่สามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆที่เกิดขึ้นจากการได้รับเชื้อโควิด-19 ได้ เช่น บรรเทาอาการไอ เจ็บคอ มีไข้ เป็นหวัด น้ำมูกไหล ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่แน่นอนว่า ไม่สามารถที่จะทานเพื่อป้องกันการได้รับเชื้อโควิด-19 หรือป้องกันการที่เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้

ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ยาฟ้าทะลายโจร ควรประเมินว่าตนเองอยู่ในกลุ่มที่สามารถใช้งานได้หรือไม่ สังเกตผลิตภัณฑ์เพื่อเช็คว่าเป็นยาฟ้าทะลายโจรของจริง และควรทานยาฟ้าทะลายโจรตามปริมาณที่กำหนด คือ ไม่เกิน 180 มิลลิกรัมต่อวัน รวมไปจนถึงการใช้ยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
แก้ไขล่าสุด 14 พ.ย. 65 21:35 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย Windows 10

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย sz463257

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | Yvonne | 14 พ.ย. 65 23:52 น.

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 10

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google