เบคกี้ พามาดบอสซี่มา empower woman พร้อมมุมที่เติบโตจนสามารถดูแล ฟรีน จากเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้

เป็นงานที่มีความบอสซี่และสวยแบบประเมินมูลค่าไม่ได้ทั้งรูปลักษณ์และทัศนคติเลย
สำหรับ เบคกี้ รีเบคก้า ในงานชมสารคดีจาก L'Oreal Paris ที่เผยเบื้องหลังของประโยคดัง You're worth it มาในสูทดำสวยทรงพลัง เหมาะสมคู่ควรกับยศ มาดาม มากกกกก🖤✨




และได้ออกงานประกบกับพี่สาวคนสวย ณิชา ณัฏฐณิชา ด้วย
2 สาว ตำแหน่ง Spokesperson เขาสวยสมาร์ทกันจริงๆ เลย




โหและช็อตนี้ She is very much WORTH IT ที่แท้ทรู!




งานนี้ Spokesperson คนสวยยังได้มาพูดคุยหลังชมสารคดี ถึงวิธีการรับมือกับการเป็นคนดังที่ต้องเผชิญ
การจับตามองและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลา
เบคกี้: ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่เจอเสียงจากข้างนอก มีทั้ง positive กับ negative  แรกๆ เรา down มาก มีช่วงนึงเหนื่อยกับการเป็นเบคกี้มากๆ ทำไรก็ผิด ทั้งการแต่งตัว การพูด anything ไปไหนกับใครจะมีคำวิจารณ์เสมอ แต่พอเราหันมารักตัวเอง เราก็รู้สึกว่าคนที่อยู่กับเราก็คือเรานะ ต้องรักตัวเองให้มากๆ ใครพูดไรมาก็ไม่ต้องฟังทุกอย่างก็ได้ อะไรที่ทำให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เราฟังเราปรับปรุง แต่ถ้าเป็นสิ่งที่พูดแลัวทำให้ down ขอไม่ฟังละกัน คุณมีความเห็นของคุณ แต่มันไม่ใช่ความจริง ฉันจะทำแต่ในสิ่งที่ฉันคิดว่าถูกต้อง
และใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ because I'm worth it  💫




อีกทั้งยังได้พูดตัวสารคดีที่มีแง่มุม empower woman ด้วย
เบคกี้: คิดว่าใครที่ได้ดูก็ต้องคิดเหมือนกันว่า ประโยค Worth it เราได้ยินกันบ่อยมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจความหมายอย่างลึกซึ้ง ย้อนกลับไปผู้หญิงไม่ได้มีโอกาสเท่าเทียมกับผู้ชาย พอมีคนเริ่มต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม มันเป็นเรื่องน่าประทับใจมากๆ และคำว่า Worth it สำหรับฉัน มันคือแรงบันดาลใจสำหรับโลกในยุคใหม่ที่ผู้หญิงจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น ไม่ใช่เป็นเพราะแค่ว่าสังคมอยากให้เป็น👏




นอกจากนี้ในช่วงให้สัมภาษณ์พี่ๆ สื่อ เบคกี้ยังได้พูดถึงประเด็นร้อนเหตุการณ์ที่พาร์ทเนอร์ของเธอ
ถูกซาแซงประชิดตัวในงาน Pride ที่ผ่านมาด้วยว่า จริงๆ เรารู้สึกเป็นห่วงมากใน ณ ตอนนั้น เพราะมัน situation ที่เกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีใครตั้งตัวทันเลย แต่เบคจะมี reflex instinct อยู่แล้ว ไม่ได้จะไปทำไรเขานะ แต่แบบใครอะ คุณไม่ควรอยู่ตรงนี้นะ หนูตกใจมาก รู้สึกไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำแบบนี้กับศิลปินคนไหนเลย คนที่เขากลัวเขาก็กลัวไปเลย ไม่โอเคมากๆ เราอยู่กับแฟนคลับแบบน่ารักกันมากๆ ไว้ใจเชื่อใจกัน ก็ไม่อยาให้ทำแบบนี้ ถามว่าพี่ฟรีนขวัญเสียไหม ชีจะมีความแพนิกนิดนึงอยู่แล้ว รีบเข้าไปเช็กเลยยูเป็นอะไรไหมโอเคไหม แต่เก่งมากที่ทำงานต่อได้สมูตเลย แบบพี่ฟรีนอยู่ตรงนี้หนูอยู่ตรงนี้ หนูรีบเข้าหาเลย ก็บอกเขาหายใจนะ เพราะเวลาเราช็อกเราจะลืมหายใจ ก็บอกให้หายใจนะ ไหวไหม โอเคไหม ไม่ไหววบอก พูดได้เลย แต่เขามีความแบบ ไม่ สู้ จากฝรั่งน้อย มาจนถึงวันนี้ความคิดอ่านและทัศนคติต่างๆ ทำให้รู้ว่าเบคกี้โตจนสามารถ handle สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและสามารถดูแลคนรอบข้างได้แล้ว  🧚‍♀️




#เบคกี้รีเบคก้า