จัดฟันแบบใส คืออะไร ? มีกี่แบบ ? แตกต่างจากรูปแบบโลหะอย่างไร ?

จัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบใส ถือเป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์การจัดฟันได้มากที่สุด เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง สามารถปรับตำแหน่งฟันให้เรียงตัวสวย พร้อมแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด ปัจจุบันการจัดฟันแบบใส จึงได้รับความนิยมสูง เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องรอยยิ้มและความสวยงาม อีกทั้งยังเหมาะอย่างมาก กับผู้ที่มีปัญหาซับซ้อนของฟัน เช่น พันซ้อน ฟันเก หรือฟันคร่อม
ทำความรู้จัก จัดฟันแบบใส คืออะไร ?
จัดฟันแบบใส คือการจัดฟันแบบไม่มีการติดลวดเหล็กในช่องปาก เครื่องมือที่ใช้จะเป็นวัสดุใส ที่ผลิตขึ้นแบบเฉพาะตามรูปฟันของผู้ที่เข้ารับการรักษา สร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมการสแกนแบบ 3D ที่มีประสิทธิภาพสูง
มีคุณสมบัติในการเคลื่อนฟัน ให้เคลื่อนไปตามตำแหน่งของแผนการรักษา สามารถถอดออกอุปกรณ์ในระหว่างการจัดฟันได้ ทำให้ดูแลทำความสะอาดช่องปากง่ายกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่นๆ

การจัดฟันแบบใส มีกี่รูปแบบ ?
Invisalign Express
Invisalign Express เป็นการจัดแบบใสที่ใช้เวลาในการรักษาสั้นกว่าแบบใสอื่น ๆ มีจำนวนเครื่องมือจัดฟันใสค่อนข้างน้อย ประมาณ 5–7 ชุด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการเรียงตัวของฟันเพียงเล็กน้อย เช่น ฟันซ้อนเล็กน้อย หรือฟันห่างไม่เกิน 2 มิลลิเมตร
Invisalign Lite
Invisalign Lite เป็นการจัดแบบใสที่ใช้เวลาในการรักษาไม่นานเกินไป ใช้เครื่องมือจัดฟันใสประมาณ 14 ชุด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ฟันซ้อน ฟันห่าง หรือมีการสบฟันที่ผิดปกติเล็กน้อย ใช้เวลาในการรักษาโดยเฉลี่ย 6–9 เดือน ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลาจัดฟันยาวนานเกินไป
Invisalign Lite
Invisalign Moderate เป็นการจัดแบบใสที่ใช้เครื่องมือจัดฟันใสมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ประมาณ 20–26 ชุด เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการเรียงฟันในระดับปานกลาง จนถึงค่อนข้างซับซ้อน เช่น ฟันซ้อนหลายซี่ หรือมีการสบฟันที่เริ่มมีผลต่อการทำงานของฟัน ใช้เวลาในการรักษา 12–18 เดือน เป็นทางเลือกของที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องรักษานานเกินไป
Invisalign Comprehensive
Invisalign Comprehensive เป็นการจัดแบบใสที่ครอบคลุมที่สุด สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนแน่น การสบคร่อม การสบลึก หรือโครงสร้างการสบฟันที่ซับซ้อน ใช้เครื่องมือจัดฟันใสแบบไม่จำกัด ใช้เวลารักษาเฉลี่ย 18–36 เดือน ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของทันตแพทย์ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาฟันอย่างครบถ้วน

จัดฟันใส กับ จัดฟันโลหะ แตกต่างกันอย่างไร ?
การจัดฟันแบบใส มีความแตกต่างจากการจัดฟันแบบโลหะหลายอย่างด้วยกัน หลัก ๆ คือมีความสวยงามมากกว่าการจัดฟันแบบโลหะ เนื่องจากใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส จึงทำให้มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า พร้อมกันนั้นยังถอดเครื่องมือเวลารับประทานอาหาร หรือแปรงฟันได้ ทำให้ทานอาหารได้ง่าย ดูแลทำความสะอาดฟันและสุขภาพช่องปาก ได้ง่ายกว่าการจัดฟันแบบโลหะ


การจัดฟันแบบใส ราคาแพงไหม ?
การจัดฟันแบบใสมีราคาที่ค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับการจัดฟันในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การจัดฟันแบบโลหะและการจัดฟันแบบเซรามิก เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีทันตกรรมขั้นสูงในกระบวนการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการสแกนฟันแบบ 3 มิติ การออกแบบเครื่องมือจัดฟันแบบใสเฉพาะบุคคล รวมถึงการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ราคาของการจัดฟันแบบใส จะขึ้นอยู่กับเคสและความซับซ้อนของการเรียงตัวฟัน เช่น เคสที่มีปัญหาฟันเล็กน้อย ราคาค่าจัดจะอยู่ที่ประมาณ 40,000–70,000 บาท ส่วนเคสที่มีความซับซ้อน ต้องปรับฟันหลายซี่ ราคาอาจสูงถึง 150,000 บาท หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ราคายังขึ้นอยู่กับคลินิกที่ให้บริการ รวมถึงบริการเสริมอื่นๆ เช่น การปรึกษาก่อนเริ่มการรักษา การสแกนฟันแบบละเอียด เป็นต้น

แนวทางเลือกคลินิกจัดฟันแบบใด ต้องพิจารณาจากอะไร ?
การเลือกคลินิกจัดฟัน เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ในการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาจึงควรพิจารณาคลินิกจัดฟันให้เหมาะสม โดยต้องพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ ควรตรวจสอบประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะด้านของทันตแพทย์ให้ละเอียด
- เทคโนโลยีและอุปกรณ์ ควรเลือกคลินิกที่มีความทันสมัย มีเครื่องสแกน 3D หรือระบบจัดฟันที่มีประสิทธิภาพสูง
- ความน่าเชื่อถือของคลินิก ควรเลือกใช้บริการคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีรีวิวที่ดีจากผู้ใช้จริง
- มีบริการหลังการรักษา ทางคลินิกจะต้องมีบริการหลังการรักษา เพื่อให้ผู้รักษาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
- ค่าใช้จ่ายและโปรแกรมผ่อนชำระ  ควรใช้บริการคลินิกที่มีการแสดงค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน โปรแกรมผ่อนชำระที่เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา

จัดฟันแบบใส เข้าที่ประมาณกี่ปี ?
ผลลัพธ์ของการจัดฟันแบบใส จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาฟัน รวมถึงวินัยในการใส่เครื่อง โดยทั่วไป ผู้ที่มีปัญหาเล็กน้อย เช่น ฟันซ้อนหรือฟันห่างเล็กน้อย อาจใช้เวลาประมาณ 6–12 เดือน
ส่วนผู้ที่มีปัญหาซับซ้อน เช่น ฟันซ้อนหลายซี่ หรือสบฟันผิดปกติ อาจใช้เวลา 18–24 เดือน หรือบางกรณีมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ฟันเข้าที่เร็ว ผู้เข้ารับการรักษาควรใส่เครื่องมือจัดฟันวันละ 20–22 ชั่วโมง

สรุปเรื่องจัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวย พร้อมแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหลายรูปแบบให้เลือกจัด
แต่ละแบบเหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา ที่มีความซับซ้อนของฟันที่แตกต่างกัน  ข้อดีคือมีความสวยงาม สามารถถอดออกเวลารับประทานอาหาร หรือแปรงฟันได้ ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจของคนที่อยากจัดฟัน